จากรายงานความก้าวหน้า งานวิจัย #ครั้งที่ 11) ผมได้ไปอธิบายหลักคิดพื้นฐานเพื่อ ให้คณะกรรมการเข้าใจว่า "ทรัพย์สินทางปัญญามันคนมองคนละประเภทกับทรัพย์สินที่จับต้องได้ทั่ว ๆ ไป เช่น สินค้า ฯ ยกตัวอย่าง คุณซื้อหนังสือคุณได้กรรมสิทธิ์ในหนังสือจริง แต่ลิขสิทธิ์ไม่ตกติดมาเมื่อซื้อหนังสือด้วย ดังนั้น การนำไป Xerox ไม่ว่าจะบางส่วนหรือทั้งเล่ม ย่อมผิดกฎหมาย จึงต่างกับการลงทุนลงแรงสร้าง/ผลิต สินค้า หรือให้บริการ ตามคนอื่น ๆ (เห็นทุเรียนขายดี จึงต้องการจะปลูกทุเรียนตาม ไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าไป Xerox หนังสือการปลูกทุเรียนอย่างไรให้ดีผิด!)ปัญหาต่อมา1.2 ปัญหาต่อมา คือ ผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) อาจเข้าใจว่าเมื่อตัวเองเป็นผู้ทรงทรัพย์สินทางปัญญา คล้ายกับตัวเองมีกรรมสิทธิ์ จะทำอะไรก็ได้เพื่อแสวงหากำไรโดยชอบ ใช่ครับ ถูกของเขาเพราะการแสวงหาประโยชน์โดยชอบตามกฎหมายหนึ่ง (ทรัพย์สินทางปัญญา)ไม่ได้แปลว่าจะถูกเสมอในสายตากฎหมายอื่น (เทียบเคียงกับความผิดในทางอาญา เช่น เราไม่ต้องรับผิด กรณีประมาทเลินเล่อทำให้เสียทรัพย์ ในสายตาของกฎหมายอาญา แต่ในทางแพ่งเราอาจต้องรับผิด ตามมาตรา 420 แห่ง ป.พ.พ. ตามมูลละเมิด นี่จึงสะท้อนหลักการเบื้องต้นว่าห้ามสันนิษฐานว่า การกระทำใดที่ไม่ผิดกฎหมายหนึ่ง จะถูกกฎหมายทุก ๆ กรณี1.3 นับเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่า ผู้ทรงทรัพย์สินทางปัญญาจะแสวงหาประโยชน์โดยไม่มีขอบเขตจำกัด [ผิด] เพราะการแสวงหาประโยชน์โดยเฉพาะทางทรัพย์สินทางปัญญา มันไม่ได้กระทบเพียงเอกชนเป็นบางราย แต่มันสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างทั้งในระดับท้องถิ่นและประเทศ ดังนั้น การใช้สิทธิประโยชน์ในทางทรัพย์สินทางปัญญา ผู้ทรงสิทธิต้องพึงระลึกไว้เสมอว่าประโยชน์ที่ตนประสงค์จะสงวนไว้นั้น อาจสร้างผลกระทบได้อย่างกว้างขวาง ->นี่จึงเป็นเหตุให้กฎหมายแข่งขันทางการค้าเข้ามามีบทบาทในการย้ำเตือนว่า การใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญามันต้องคำนึงการแข่งขัน และประโยชน์ของผู้บริโภคด้วย ในภาพกว้าง ๆ1.4 จากข้อ 1.3 ในต่างประเทศ การกำหนดสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา แม้จะตั้งอยู่บนหลักเสรีภาพในการแสดงเจตนาก็ตาม แต่ภายใต้กฎหมายไทยมันจะมีหลัก ข้อตกลงใด ๆ ที่มีวัตถุประสงค์ขัดความสงบเรียบร้อย ย่อมตกเป็นโมฆะทั้งสิ้น แต่ถ้าไม่ตกเป็นโมฆะ เรายังมี พรบ. ข้อสัญญาไม่เป็นธรรม มาบังคับใช้1.5 คำถามคือ ถ้าเกิดขัด พรบ. ข้อสัญญาไม่เป็นธรรมผลคือ? 1.6 ให้ศาลบังคับเท่าที่เป็นธรรม นั่นแสดงอยู่ในตัวเองว่า มันไม่ตกเป็นโมฆะ เพราะถ้าตกเป็นโมฆะจริง คงไม่มีเหตุที่ศาลจะปรับ/บังคับเท่าที่เป็นธรรมเบี้ยปรับ1.7 ลักษณะคล้ายกับการวินิจฉัยกรณี "เบี้ยปรับ" ที่ศาลสามารถสั่งลด แต่ห้ามงด ทำไม?1.8 จากการสืบค้นวรรณกรรมต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรปที่กำหนดว่า ข้อตกลงใด ๆ ที่ขัดต่อกฎหมายแห่ง EU ให้ตกเป็นโมฆะทำไมไทยควร/ไม่ควรเดินตามยุโรป1.9 ถามต่อ ถ้ากฎหมายไทยอนุญาตให้ผู้ประกอบการกำหนดสัญญาบริหารทรัพย์สินทางปัญญา ทำอะไรก็ได้ มันจะไม่ยุ่งหรือ? สมมุติผู้ประกอบการรายหนึ่งโอเค แต่อีกคนหนึ่งไม่โอเค เราจะตอบคำถามนี้อย่างไร?1.10 เจ้าหน้าที่ก็ดี ศาลก็ดี ควรเข้ามาแทรกแซง สัญญาบริหารทรัพย์สินทางปัญญา ได้มากน้อยเพียงใด1.11 ผมจึงขออนุญาตเสนอ (ร่าง) ผลการวิจัยอีกเพื่อให้ผู้ที่สนใจ งานวิจัยชิ้นนี้ เพื่อให้ช่วยกันคิดวิเคราะห์ ตามแนบผลการวิจัยสรุป (อาจมีการปรับแก้)1.ใช้สิทธิในทางทรัพย์ทางปัญญาแม้จะถูกต้องตามกฎหมายของตน มันจะอ้างได้ในระดับเอกชน แต่ถ้ามันเกินไปจนกระทั่งกระทบการแข่งขัน (คู่แข่ง) ผู้บริโภค เราต้องไปดูกฎหมายแข่งขันทางการค้า2.หน่วยงานรัฐที่เข้ามากำกับดูแลเอกชนต้องพึงระลึกไว้ว่า ตัวเองเป็นเพียงกรรมการไม่ใช่ผู้เล่น และต้องไม่สันนิษฐานว่า การใช้สิทธิเด็ดขาด แปลว่าเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาดตามกฎหมาบยแข่งขันทางการค้า3. อำนาจแข่งขันในทางธุรกิจมันต้องพิจารณาตามความเป็นจริง มิใช่ สันนิษฐานว่าทุกคนมีอำนาจเท่ากัน มิฉะนั้น เราจะอธิบายว่าผู้ซื้อรายได้น้อย กับคนรวย อยู่ในฐานะเดียวกันไม่ได้ ถ้าผู้ขายจะเลือกขายสินค้าให้แก่คนรวย ไม่ขายให้ผู้ที่ไม่มีฐานะคงไม่ดีนัก ->ทำไม่ได้เพราะไม่เป็นธรรม? หรือเพราะกลไกตลาดบังคับให้ผู้บริโภคต้องเข้าถึงสินค้าได้เท่าเทียมกัน แม้ฐานะจะไม่เท่ากัน? - นี่เราอยู่ในระบบเศรษฐกิจเสรีจริง? ดังนั้นหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องต้องระวังว่าคำวินิจฉัยต้องยึดความเป็นไปได้ทางธุรกิจด้วย เพราะความเป็นธรรมในทางธุรกิจ มันไม่ได้แปลว่าทุกคนต้องอยู่ในสถานะทางการเงินที่เท่ากันเสมอ แต่ผมไม่ได้ต้องการจะบอกว่าความเท่าเทียมกันไม่มีจริง แต่แค่อยากตั้งข้อสังเกตให้หน่วยงานผู้ใช้กฎหมายมองว่าการแข่งขันโดยธรรมชาติ มันไม่เท่าเทียมอยู่แล้ว แต่กรรมการสมควรพิจารณาเพียงว่าผู้แข่งใช้สารกระตุ้นหรือไม่ ไม่ใช่ว่าต้องไปพิจารณาว่าชุดกีฬาเป็นของแบรนด์ใด? มันไม่เกี่ยวกับการแข่งขัน ท้ายนี้ขอบพระคุณภาพ1.ปก โดย Andrew Neel จาก Unsplash2.ที่ 1 โดย 089photoshootings จาก Pixabay3.ที่ 2 โดย geralt จาก Pixabay4. ที่ 3 โดย Sharon McCutcheon จาก Unsplash5. ที่ 4 โดยผู้เขียน ปล. รบกวนคณะวิจัยตอบคำถามที่ผมเน้นในบทความด้วยนะครับ? xiexieอัปเดตสาระดี ๆ มีประโยชน์แบบนี้อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !