ในปัจจุบัน AI เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ และหนึ่งใน AI ที่ถูกพูดถึงกันเป็นอย่างมากนั่นก็คือ conversational AI tools อย่าง ChatGPT กับ Perplexity AI ที่เราสามารถถามคำถามอะไรก็ได้และตัว AI จะให้คำตอบกับเรามาโดย ChatGPT ถูกพัฒนาและมีชื่อเสียงในระดับหนึ่งแล้วแต่ Perplexity AI เป็นตัวที่กำลังมาแรงเป็นอย่างมากและบางครั้งตอบคำถามที่มีแหล่งอ้างอิงที่ชัดเจนได้ดีกว่า ChatGPT ด้วยซ้ำบทความนี้จะพาทุกคนไปรีวิว + เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง ChatGPT vs Perplexity AI จากประสบการณ์ที่เคยใช้งานมาทั้ง 2 ตัวกัน. ความแตกต่างด้านวัตถุประสงค์การใช้งาน Perplexity AI เป็น AI ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกในการเป็น search engine ชนิดหนึ่งซึ่งเมื่อพูดถึง search engine แน่นอนว่าทุกคนต้องนึกถึง Google อย่างแน่นอนและก็ใช่แล้วจะพูดว่า Perplexity AI เป็นคู่แข่งของ Google ก็ไม่ผิดนักแต่สิ่งล้ำ ๆ ที่ Perplexity AI มีนั้นก็คือ Perplexity AI สามารถดึงข้อมูลจากเว็บไซต์หลาย ๆ เว็บไซต์แล้วนำมาสรุปเรียบเรียงเป็นคำตอบในรูปแบบที่ง่ายต่อการอ่านและทำความเข้าใจในเวลาไม่กี่วินาที. พูดง่าย ๆ คือปกติเราต้องการรู้เรื่องอะไรเราก็พิมพ์ไปใน Google แล้วก็ต้องนั่งอ่านข้อมูลตามเว็บไซต์ต่าง ๆ แต่ตัว Perplexity AI จะไปดึงข้อมูลจากหลายเว็บไซต์มาให้เราแล้วสรุปมาให้เลยแถมยังมีการอ้างอิงในทุกจุดว่าไปเอาข้อมูลมาจากเว็บไหนให้เราสามารถย้อนกลับไปดูยังแหล่งข้อมูลต้นทางได้ด้วยและข้อมูลทั้งหมดยัง up-to-date เป็นข้อมูลล่าสุดอีกด้วยฟีเจอร์เจ๋ง ๆ นี่เองที่ทำให้หลัง ๆ ผู้เขียนก็ชอบที่จะใช้ Perplexity AI ในการหาข้อมูลมากกว่า Google แล้วด้วยซ้ำแต่เชื่อว่า Google คงไม่ปล่อยให้ Perplexity AI แซงง่าย ๆ และคงพัฒนา AI ของ Google ออกมาสู้อย่างแน่นอน.สำหรับ ChatGPT จะเป็น General-purpose AI chatbot เป็นแชตบอทที่ใช้ในการสนทนาเรื่อง ๆ ทั่วไปมากกว่าที่จะใช้เป็น search engine ในการหาข้อมูลโดยเราสามารถถามคำถามไปและ ChatGPT ก็จะให้คำตอบเรามาและเราสามารถสนทนากับ ChatGPT ต่อไปได้เรื่อย ๆ แต่ถ้าเป็นข้อมูลที่สำคัญหรือถามคำถามที่เฉพาะเจาะจงมาก ๆ ก็ต้องคอยเช็คแหล่งข้อมูลให้ดี ๆ เพราะว่า ChatGPT ค่อนข้างมีความน่าเชื่อถือที่ต่ำและมักจะไม่ค่อยให้แหล่งอ้างอิงของข้อมูลมาแถมบางครั้ง AI ก็มักจะมีการเออออคิดคำตอบขึ้นมาเองอีกด้วยดังนั้นไม่ควรเชื่อถือคำตอบมากนักดังนั้น AI อย่าง Perplexity AI จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อทำงานที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ทำให้ Perplexity AI ให้คำตอบที่น่าเชื่อถือกว่า ChatGPT. User interface Interface ของ Perplexity AI ใช้งานได้ง่ายมากโดยเราสามารถพิมพ์คำถามที่เราสนใจเข้าไปเหมือนกับที่เรา search ใน Google ได้เลยจากนั้น Perplexity AI จะให้คำตอบเรามาเป็นคล้าย ๆ บทความต่อจากคำถามของเราเลยทำให้เราไม่ต้องไปเสียเวลานั่งอ่านแต่ละเว็บไซต์อีกต่อไปถ้าเราอยากได้คำตอบที่เจาะจงมากขึ้นก็แค่พิมพ์คำถามที่เจาะจงมากขึ้นเราก็จะได้คำตอบที่ตรงกับที่เราต้องการมากขึ้นและยังมีลิงก์ที่มาของข้อมูลให้เราไปอ่านเพิ่มเติมได้อีกด้วยซึ่งถ้าเป็น Google เราอาจจะต้องใช้เวลานานในการหาคำตอบบางอย่างที่เราต้องการก็ได้แต่ทาง Perplexity AI ก็ยังไม่เก่งมากในเชิงการเป็น chatbot ที่ให้เราสนทนากับ AI ได้อย่างลื่นไหลก็หวังว่าในอนาคตทาง Perplexity AI จะพัฒนาในจุดนี้ขึ้น. สำหรับ ChatGPT ก็มี interface ที่ใช้งานได้ง่ายมากเช่นเดียวกันโดยเราสามารถพิมพ์คำถามหรือข้อความที่เรียกว่า prompt เข้าไปแล้ว ChatGPT จะสร้างคำตอบมาให้เราแบบ real-time เลยแต่แน่นอนว่า prompt ที่ใส่เข้าไปก็มีส่วนต่อคำตอบที่ได้รับออกมาดังนั้นการใส่ prompt ที่ถูกต้องก็มีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะถ้าเราใส่ prompt ผิดหรือไม่ตรงกับสิ่งที่เราต้องการให้ AI ทำก็ยิ่งทำให้คำตอบที่ได้มาผิดไปจากสิ่งที่เราต้องการเยอะขึ้นไปอีกและในเวอร์ชั่น Plus เรายังใส่ input เป็นเสียงและรูปภาพเข้าไปได้อีกด้วยและสามารถให้ ChatGPT ให้คำตอบมาในรูปแบบเสียงและรูปภาพได้แต่แน่นอนว่า ChatGPT ก็ไม่เหมาะที่จะใช้เป็น search engine อย่างจริงจังควรจะไปใช้ Perplexity AI มากกว่า. โมเดล AI ที่ใช้ประมวลผล Perplexity AI มีโมเดลที่หลากหลายให้เราได้เลือกใช้งาน เช่น โมเดล GPT-4o, GPT-4 Turbo, Sonar Large 32k, Claude 3 Sonnet และ Haiku เป็นต้นแต่ ChatGPT จะมีให้เลือกใช้แค่โมเดลที่พัฒนาขึ้นโดย OpenAI เท่านั้น (in-house large language model (LLMs)) เช่น โมเดล GPT-4o mini, GPT-4 และ GPT-4o เป็นต้น. โหมดเฉพาะเจาะจง ทั้ง Perplexity AI และ ChatGPT มีโหมดอย่าง Deep Research Mode และ Reasoning and Analysis Mode ให้เลือกใช้งานแต่ทั้ง 2 โหมดยังอยู่ในช่วงเวลาที่ยังต้องมีการพัฒนาอีกเยอะมากซึ่ง Perplexity AI ก็พยายามพัฒนาให้ AI สามารถทำหน้าที่ในเชิงแชตบอทได้ดีขึ้นส่วนทาง ChatGPT ก็กำลังพยายามพัฒนา AI ให้สามารถสืบค้นหาข้อมูลได้แม่นยำและถูกต้องมากยิ่งขึ้นซึ่งก็เป็นการลบจุดอ่อนของ AI แต่ละตัวน่าสนใจเป็นอย่างมากว่าใครจะสามารถพัฒนาได้ดีกว่ากัน. แน่นอนว่าทั้ง ChatGPT และ Perplexity AI ต่างมีทั้งข้อดีและข้อเสียเป็นของตัวเองและเหมาะกับการใช้งานด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันและในอนาคตทั้งคู่ก็กำลังพัฒนาโหมดต่าง ๆ มาให้ผู้ใช้ได้เลือกใช้งานตามที่ต้องการมากขึ้นซึ่งในปัจจุบันการใช้ทั้ง 2 ตัวควบคู่กันไปโดยใช้จุดแข็งของแต่ละตัวก็ทำให้เราใช้ AI ช่วยในการทำงานได้หลากหลายและครอบคลุมเป็นอย่างมากใครอยากลองใช้ก็สามารถเข้าไปลองใช้ได้เลยที่ ChatGPT และ Perplexity AI ไม่แน่ในอนาคต AI 2 ตัวนี้จะเป็นสิ่งที่เราต้องใช้เกือบทุกวันเหมือนที่เราใช้ Google อยู่ในทุกวันนี้ก็เป็นไปได้นะ. เครดิตภาพ รูปปก: รูปประกอบที่ 1-2 แคปจากเว็บไซต์ Perplexity AI และ ChatGPT โดยครีเอเตอร์ อินeverything. ภาพประกอบ: ภาพประกอบที่ 1-4 แคปจากเว็บไซต์ Perplexity AI และ ChatGPT โดยครีเอเตอร์ อินeverything. เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !