หากพูดถึงการจ่ายเงินออนไลน์แล้วหลายคนก็คงจะนึกออกได้ไม่ยาก เพราะทุกวันนี้หลายคนก็จ่ายเงินออนไลน์กันจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของออนไลน์ จ่ายค่าน้ำค่าไฟ จ่ายค่าโทรศัพท์ หรือแม้แต่จ่ายเงินค่าจ้างฟรีแลนซ์ทำงานให้ แต่มันก็ไม่ได้อยู่บนออนไลน์ทั้งหมดเพราะเราก็ยังต้องใช้เงินที่เป็นกระดาษหรือเหรียญในการซื้อของตามร้านค้าต่าง ๆ อยู่แล้วถ้าหากวันหนึ่งเงินกระดาษและเหรียญเหล่านั้นมันหายไปพร้อมกับถูกแทนที่ด้วยเงินดิจิทัลทั้งหมดล่ะ? คุณคิดว่ามันจะมีผลดีผลเสียต่อตัวคุณแบบไหน มันจะสะดวกสบายขึ้นจริงไหม หรือถ้ามันกลายเป็นดิจิทัลหมดจริง ๆ คุณจะเชื่อถืออะไรมากกว่าระหว่างเงินกระดาษในกระเป๋ากับเงินตัวเลขที่จับต้องไม่ได้ วันนี้เรามาทำความรู้จักและดูจุดเด่นของหนึ่งสกุลเงินดิจิทัลที่กำลังส่อแววว่าจะเข้ามาเปลี่ยนโลกในไม่ช้าอย่าง “ดิจิทัลหยวน” มันคืออะไร จุดเด่นจุดด้อยของมันจะทำให้คุณอยากใช้หรือไม่หากเปรียบเทียบกับ Cryptocurrency ที่หลายคนรู้จัก“ดิจิทัลหยวน” ชื่อจริงคือ DCEP ย่อมาจาก “Digital Currency Electronic Payment” ถูกสร้างขึ้นพร้อมกับควบคุมโดยรัฐบาลและธนาคารกลางของจีน โดยทำงานอยู่ภายใต้เทคโนโลยี Blockchain การทำธุรกรรมต่าง ๆ จะอยู่บนระบบทั้งหมดทุกคนจะไม่ได้จับเงินจริงที่เป็นกระดาษ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อลดการใช้เงินกระดาษที่มีต้นทุนในการจัดการสูงตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการทำลาย เพราะในแต่ละปีนั้นจีนต้องสิ้นเปลืองกับการผลิตและทำลายเงินกระดาษจำนวนมหาศาล อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้จ่ายเงิน ไม่ต้องถือเงินกระดาษจำนวนมากและไม่ต้องรอนานเมื่อโอนเงินทางไกล รวมไปถึงเป็นการออกมาต่อกรกับสกุลเงินยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง”ดอลลาร์”เพื่อแสดงถึงอำนาจทางการเงินอีกด้วย เรามาดูกันว่าดิจิทัลหยวนมีจุดเด่นอะไร มีข้อดีแบบไหนถึงจะทำได้ขนาดนั้นและมันคือ Cryptocureency อันใหม่จริงหรือไม่ 1. ดิจิทัลหยวนไม่ใช่ Cryptocurrencyจากกระแสของสกุลเงินแห่งอนาคตอย่าง Cryptocurrency ทำให้มีหลายคนมองว่าดิจิทัลหยวนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน แท้จริงแล้วไม่ใช่เลยแม้ว่าจะทำงานภายใต้เทคโนโลยี Blockchain เหมือนกันแต่ดิจิทัลหยวนซึ่งเป็นหมวดของ Digital Currency จะยังถูกควบคุมจากศูนย์กลางอยู่นั่นก็คือรัฐบาลจีน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มหรือลดจำนวนเหรียญ การจัดการข้อมูลการเงินทั้งหมดจะไปอยู่ที่ศูนย์กลาง แตกต่างจาก Cryptocurrency อย่างเช่น Bitcoin ที่ต้องเข้ารหัส Crypto และไม่มีศูนย์กลางผูกขาดในการควบคุม มีทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกันซึ่งแน่นอนว่าจะปลอดภัยมากกว่าดิจิทัลหยวน 2. ดิจิทัลหยวนไม่ใช่สกุลเงินใหม่เหมือนกับ Cryptocurrencyดิจิทัลหยวนไม่ใช่สกุลเงินที่สร้างขึ้นมาใหม่แต่อย่างใด มันก็คือเงินหยวนที่ใช้กันอยู่แล้วในทุกวันนี้ เพียงแค่เปลี่ยนจากเงินกระดาษมาเป็นเงินดิจิทัลที่วางอยู่บนระบบ Blockchain ใครที่มีเงินหยวนอยู่กับตัวก็สามารถนำไปเปลี่ยนเป็นดิจิทัลหยวนได้ จะแตกต่างจาก Cryptocurrency ซึ่งเป็นสกุลเงินแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่เคยมีการทำออกมาใช้เป็นรูปแบบของกระดาษหรือเหรียญตรา เช่น Bitcoin Ethereum เป็นต้น ทำให้การใช้งานนั้นทางฝั่งของดิจิทัลหยวนดูจะง่ายและสะดวกกว่า 3. ดิจิทัลหยวนมีค่าเงินคงที่กว่า Crytocurrencyเรื่องของค่าเงินเองก็เป็นสิ่งที่หลายคนสงสัยและอยากรู้ว่าจะคิดค่าเงินแบบไหนหากเปลี่ยนจากเงินกระดาษไปเป็นเงินดิจิทัล ดิจิทัลหยวนนั้นจะมีการอ้างอิงค่าเงินจากเงินหยวนจริง กล่าวคือ 1 เหรียญดิจิทัลจะมีค่าเท่ากับเงิน 1 หยวนจริง เข้ามาช่วยลดปัญหาเรื่องเงินเฟ้อได้เพราะหากจะเพิ่มจำนวนเหรียญดิจิทัลในระบบก็จำเป็นต้องมีเงินหยวนจริงแบ็คอัพไว้ในจำนวนที่เท่ากัน ส่วนทางด้านของ Cryptocurrency เนื่องจากเป็นสกุลเงินใหม่ที่คนทั่วไปอาจจะยังไม่รู้จักมันจึงมีการผันผวนของค่าเงินอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่เหมาะกับการนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันตอนนี้ หลายคนเลยมักจะซื้อเก็บไว้สำหรับเก็งกำไรมากกว่า 4. ดิจิทัลหยวนไม่จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตเหมือนกับ Cryptocurrencyอีกหนึ่งปัญหาที่ทุกคนกังวลกันอยู่ก็คือดิจิทัลหยวนนี้หากจะใช้จ่ายจำเป็นต้องอาศัยอินเทอร์เน็ตตลอดหรือเปล่า ซึ่งดิจิทัลหยวนนั้นออกมาตอบรับกับช่องว่างนี้ได้เป็นอย่างดี สามารถใช้จ่ายเงินกันโดยไม่จำเป็นต้องมีอินเทอร์เน็ตก็ได้ จะอาศัยการใช้เทคโนโลยี NFC ที่มีอยู่ใน Smart Phone เป็นตัวส่งและรับเงินเพียงแค่นำ Smart Phone 2 เครื่องมาแตะกันก็จ่ายเงินได้แล้ว ส่วน Cryptocurrency นั้นจำเป็นต้องทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเท่านั้นไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายหรือโอนไปต่างประเทศ มันจึงไม่ค่อยสะดวกเหมือนดิจิทัลหยวนนัก 5. ดิจิทัลหยวนมีการเก็บข้อมูลต่างจาก Cryptocurrencyอย่างที่บอกไปว่าดิจิทัลหยวนมีการควบคุมอยู่ที่ศูนย์กลางก็คือรัฐบาลจีน ดังนั้นข้อมูลการใช้จ่ายหรือโอนเงินต่าง ๆ ก็จะมารวมกันบนระบบของรัฐบาลทั้งสิ้น ทำให้ข้อมูลธุรกรรมของเราจะถูกเก็บไปทุกครั้ง ไม่ว่าจะใช้จ่ายจากที่ไหนบนโลกถ้าเป็นการใช้จ่ายด้วยดิจิทัลหยวนก็จะถูกเก็บข้อมูลเหมือนกัน แต่ทาง Cryptocurrency ที่มีทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกันอยู่ในระบบ การเก็บข้อมูลแบบนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นทำให้มันมีความปลอดภัยทางข้อมุลและความเป็นส่วนตัวในการใช้จ่ายมากกกว่าดิจิทัลหยวนจะเห็นได้ว่ามีหลายอย่างที่ทั้งสองแลดูจะเหมือนกันแต่ที่จริงมันก็ไม่ได้เหมือนกันไปทั้งหมด เงินดิจิทัลแต่ละตัวก็มีจุดเด่นและรูปแบบการใช้งานเป็นของตัวเอง คนใช้งานก็มีทางเลือกให้ตัวเองที่หลากหลายตามจุดประสงค์ของตัวเอง และไม่ว่าจะช้าหรือเร็วยังไงวันหนึ่งระบบการเงินก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นยุคของดิจิทัลแบบเต็มตัว ถามหน่อยว่าคุณพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงนี้แล้วหรือยัง คุณคิดว่าดิจิทัลหยวนน่าสนใจมากพอให้คุณตัดสินใจเลือกใช้มันหรือเปล่า สุดท้ายคุณจะทำยังไงถ้าวันหนึ่งแบงค์ทั้งหลายในกระเป๋าของคุณมันไม่มีใครต้องการอีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่พวกเราต้องสนใจและเรียนรู้เรื่องการเงินยุคใหม่เพื่อไม่ให้ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ภาพจาก Pixabay : ภาพหน้าปก, ภาพประกอบที่ 1, ภาพประกอบที่ 2, ภาพประกอบที่ 3, ภาพประกอบที่ 4, ภาพประกอบที่ 5, ภาพประกอบที่ 6, ภาพประกอบที่ 7