cr. unsplash เราเชื่อว่าในสถานการณ์โรคระบาดครั้งใหญ่ในปี 2563 หรือ ไวรัสโควิด19 ที่ระบาดไปทั่วโลก ผู้คนมากมายตั้งแต่เรื่องสุขภาพ สภาพเศรษฐกิจ สำหรับครอบครัวเราโดนผลกระทบแบบ 100% เต็มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายคนก็โดนผลกระทบนี้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอาชีพที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวแบบหัวหน้าครอบครัวของเรา cr. unsplash โควิด19 กับ รายได้ที่หายไป เนื่องจากหัวหน้าครอบครัวมีอาชีพ ขับรถตู้นำเที่ยว ซึ่งเป็นรถส่วนตัวปรกติจะมีงานแทบทุกวัน ยิ่งช่วงมีนาคม-พฤษภาคม คิวงานแน่นตลอด แต่เมื่อเกิด สถานการณ์ โควิด19 งานที่มีลูกค้าจองคิวไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม จนถึง สิ้นเดือนเมษายน โดนยกเลิกทั้งหมด ทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากไม่ไว้ใจในสถานการณ์ของโรคระบาด โดยเฉพาะลูกค้าชาวต่างชาติเองก็มีความเสี่ยง เนื่องจากเป็นลูกค้าจากญี่ปุ่น และ สิงคโปร์ ก็ยกเลิกการเดินทางเข้าประเทศไทย ส่วนลูกค้าชาวไทย ก็ยกเลิกการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเชงเม้ง งานไหว้พระขอหวย หรืองานของบริษัทต่าง ๆ ที่ติดต่อกันไว้ต่างยกกเลิกทั้งหมด โดยที่บางงานไม่ได้รับค่าชดเชยแม้ว่าจะมีการจองไว้ แต่ด้วยความที่เป็นลูกค้าประจำใช้บริการกันประจำ จึงไม่มีการเรียกเก็บค่ามัดจำไว้ยกเว้นลูกค้าที่เป็นงานบริษัท ก็ยังได้รับเงินค่าชดเชยมาบ้าง แน่นอนว่าสถานการณ์ ไวรัสโควิด19 ระบาด ส่งผลกระทบเต็ม ๆ กับครอบครัวเราเพราะรายได้หลักหมื่นต่อเดือนหายไปในพริบตา แต่รายจ่ายต่าง ๆ ไม่ได้หายไปด้วย นอกจากเรื่องงานรายได้หลักแล้ว การใช้ชีวิตประจำวันก็ต้องปรับเปลี่ยน เพราะยังมีภาระที่ต้องออกนอกบ้าน เช่น พาคนป่วยในบ้านไปพบแพทย์ตามนัดทุกเดือน การเดินทางที่มีความเสี่ยงกับสถานที่ชุมชน การเดินทางที่ผู้คแออัดบนรถไฟฟ้า รถเมลล์ ก็ทำให้หวาดระแวงไปด้วยว่าจะได้รับเชื้อ ไวรัสโควิด19 หรือไม่ละแวกบ้านก็มีข่าวลือว่ามีผู้ติดเชื้อ ทำให้ระแวงกันหนักขึ้นไปอีก ไปไหนมาไหนแต่ละทีกังวลตลอด cr. unsplash แก้ไขสถานการณ์อย่างไร ครอบครัวเราเป็นครอบครัวธรรมดาทั่วไป ถือว่าเป็นฟรีแลนซ์ทั้งหัวหน้าครอบครัวและตัวเรา แม้จะมีเงินเก็บบ้างไว้สำรองยามฉุกเฉิน ก็ต้องแบ่งเงินส่วนนี้ออกมาเป็นค่าใช้จ่าย เพราะหัวหน้าครอบครัวไม่มีงาน ส่วนเราที่เป็นฟรีแลนซ์ทำงานอยู่บ้าน ก็รับงานเพิ่มหาช่องทางทำรายได้ให้เพิ่มขึ้นจากเดิม เพื่อให้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย เพราะยามนี้เราไม่รู้ว่าสถานการณ์ โควิด19 จะเป็นแบบนี้ถึงเมื่อไหร่ หัวหน้าครอบครัวจะกลับมามีงานตอนไหนก็ตอบไม่ได้ แม้ว่าจะมีเงินเก็บแต่หากนำออกมาใช้หมด เมื่อถึงยามฉุกเฉินจริง ๆ ก็จะลำบาก ซึ่งทำให้ต้องมาบริหารจัดการกันใหม่ในหลาย ๆ ส่วนเพื่อให้อยู่รอดได้โดยที่ใช้เงินให้คุ้มค่าและประหยัดให้ได้มากที่สุดเช่น cr. unsplash 1.ลดค่าใช้จ่ายแต่ละคนในบ้านเท่าที่ทำได้เช่น ลดขนมเด็กน้อย ตอนนี้ปิดเทอมค่าใช้จ่ายส่วนนี้หลายบ้านมีเพิ่มขึ้นเหมือนบ้านเรา ก็ลดค่าขนมลงจำกัดวงเงินในแต่ละวัน ให้ใช้จ่ายเท่ากับเวลาที่ไปโรงเรียนไม่มีขอเพิ่มเด็ดขาด 2.ลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นไปก่อนเช่น ซ่อมรถ รวมทั้งซื้อของใช้ต่าง ๆ เน้นเลือกซื้อของแบบคุ้มค่าเช่น ซี้อแพคคู่ , ของลดราคา เป็นต้น 3.บริหารค่าใช้จ่ายรายวันเช่น ค่ากับข้าวต่อวัน เปลี่ยนวิธีการซื้อของคำนวณให้เพียงพออย่างน้อย 2-3 วันซื้อของสด 1 ครั้ง ปรกติจะซื้อวันต่อวัน ทำกับข้าวแต่ละมื้อในปริมาณที่พอดี เพื่อให้ของสดเหลือถึงมื้อหน้า ซึ่งมันช่วยได้มากเพราะการซื้อของสดที่เพียงพออย่างน้อย 3 วันจ่ายส่วนนี้อยู่ที่ 300-400 บาทต่อครั้ง อีกทั้งเป็นช่วงปิดเทอมบวกกับพ่อบ้านตกงานต้องทำอาหารครบสามมื้อ (จากที่ก่อนหน้านั้นจะซื้อแค่ตอนเช้ารอบเดียวเพราะมีคนแก่ที่ต้องทานครบมื้อ เด็กน้อยก็ไป รร. คนป่วยก็หนักไปทางนอนบางวันตื่นมาก็มื้อเย็นเลย) เมื่อบริหารแบบนี้ก็ยังพอหมุนกับเงินรายได้ที่เข้ามาแต่ละรอบได้ ส่วนวัตถุดิบอื่น ๆ ซื้อวันต่อวันเช่น ผัก เครื่องปรุงต่าง ๆ เพราะยังหาซื้อได้สะดวกไม่ต้องกักตุน ลดของกินจุกจิกที่ไม่จำเป็น เหมือนลดความอ้วนไปในตัว 4.ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องจ่ายก็จัดการจ่ายให้ครบไ ม่มีการดึงไว้ให้เป็นภาระวันหน้าเช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ต และอื่น ๆ บริหารเงินที่มีเข้ามาแบ่งเป็นส่วน ๆ ไว้สำหรับรอบการจ่าย 5.เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์เบื้องหน้า ไม่ว่าจะเป็นรายจ่ายของเด็กที่ต้องเตรียมสำหรับเปิดเทอมใหม่ ค่ายาของคนป่วยที่ต้องไปพบหมอทุกเดือน แบ่งเก็บเงินจากรายได้ที่มีเข้ามาเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า อย่างน้อยบางสิ่งบางอย่าง มันอาจจะสามารถเลื่อนเวลาออกไปได้ก็จริงแต่การเตรียมรับมือกับสิ่งที่เราคาดการณ์ได้ มันจะช่วยให้ไม่ลำบากมากนัก ที่สำคัญดูแลตัวเองและคนรอบข้างให้ดีไม่ให้เจ็บป่วย และไม่เป็นหนี้จะดีที่สุด cr unsplash ดูแลสุขภาพจิตอย่างไร คงต้องบอกว่าทุกคนคงได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ อยู่ดี ๆ ตื่นมาเจอโรคระบาด ๆ อยู่ดี ๆ ลูกค้าโทรยกเลิกงานกันรัว ๆ แน่นอนว่าความรู้สึกมันต้องมีในจุดที่ว่าจะทำอย่างไรต่อ ในเมื่อทำอะไรไม่ได้สิ่งที่ทำได้คือ พยายามไม่เครียด พยายามสงบจิตสงบใจไว้ก่อน เพราะไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่โดนแบบนี้ เพื่อน ๆ ในกลุ่มทัวร์โดนเหมือนกันหมด ดังนั้นก็ต้องรอเวลา ก็หาอะไรที่ทำได้เล็กน้อย ๆ เพื่อให้ไม่เครียด แต่ต้องไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แม้ว่าหลายคนแนะนำว่าให้ไปขับแกร๊บบ้าง วิ่งส่งอาหารบ้าง บอกเลยว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะรถที่บ้านไม่ใช่รถยนต์การไปวิ่งแกร๊บรายได้ไม่คุ้มค่าน้ำมันแน่นอน ส่วนวิ่งส่งอาหารสถานการณ์ตอนนี้ อยากจะบอกเลยว่าแก๊งค์ส่งอาหารแถวบ้านยังบ่นว่า ออเดอร์ลดลงเพราะผู้คนส่วนใหญ่ประหยัดค่าใช้จ่าย ส่วนเราก็รับบทหัวหน้าครอบครัวไปตามสถานการณ์ เพราะเป็นคนเดียวที่ยังหารายได้เข้าบ้านได้อยู่ ก็ต้องไม่เครียด อดหลับอดนอนทำงานกันไปในบางวัน ใช้ชีวิตแบบใจเย็นอารมย์ดี เพราะถ้าเครียดทุกอย่างจะแย่ เพราะต้องดูแลคนแก่ คนป่วยซึมเศร้า ตอนนี้ทุกอย่างอยู่บนบ่าเราหมด ก็แค่พยายามไม่เครียดหาความสุขเล็ก ๆ ไปวัน ๆ ดูหนัง ดูซีรีย์ เขียนบทความส่งทรู เพื่อเพิ่มรายได้ ทางออกมันมีอยู่เสมอจริงไหม ก็เหมือนเรือที่เจอพายุ เจอคลื่นลม เราแค่ถือหางเสือไว้ให้มั่น ประคองไปช้า ๆ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป cr. unsplash เพิ่มเติมท้ายเรื่อง บทความน่าสนใจที่เราอยากแนะนำ เพื่อเป็นกำลังใจในสถานการณ์นี้ อะไรซ่อนอยู่ในเพลง ตอน เรือ มองในมุมบวกจากสถานการณ์ไวรัสระบาด ดูแลสุขภาพจิต จากการเกาะติดสถานการณ์โรคระบาด