วิเคราะห์ผู้นำคิม จองอึน ปรากฎตัว สรุปแล้วเกาหลีเหนือมีขีปนาวุธเหนือเสียงจริงหรือ

แม้นานาชาติจะไม่เชื่อคำกล่าวอ้างว่า เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จใจยิงทดสอบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงเมื่อวานนี้ (11 มกราคม) แต่มีรายงานว่า สหรัฐฯ ห้ามเครื่องบิน บินขึ้นจากสนามบินหลายแห่งแถบชายฝั่งตะวันตกในช่วงที่เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธ  

ล่าสุด สื่อทางการเกาหลีเหนือได้เผยภาพ คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือไปร่วมชมการยิงทดสอบขีปนาวุธเป็นครั้งแรกในรอบ เกือบ 2 ปีด้วย

---คิม จองอึน ชมทดสอบขีปนาวุธ---

สำนักข่าว KCNA ของรัฐบาลเกาหลีเหนือรายงานวันนี้ (12 มกราคม) เผยภาพนิ่งขณะที่เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธเมื่อวานนี้ โดยอ้างว่าเป็นขีปนาวุธล้ำสมัยชนิด “ความเร็วเหนือเสียง” พร้อมกับเผยภาพของ “คิม จอง อึน” ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ เข้าร่วมชมการยิงทดสอบด้วย

KCNA อ้างว่า การยิงทดสอบเมื่อวานนี้ ประสบความสำเร็จด้วยดี ขณะที่สื่อต่างชาติรายงานว่า นี่เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี ที่คิมเข้าร่วมชมการทดสอบขีปนาวุธอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2020

นอกจากนี้ “คิม ยอจอง” น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของคิม จองอึน ได้เข้าร่วมชมการทดสอบด้วยเช่นกัน

สำหรับการยิงทดสอบขีปนาวุธเมื่อวาน นับเป็นการยิงทดสอบขีปนาวุธล้ำสมัยความเร็วเหนือเสียงเป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ การยิงทดสอบขีปนาวุธครั้งแรกของปีเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ 5 มกราคมที่ผ่านมา ห่างจากครั้งที่ 2 เพียง 6 วัน แต่หากนับการยิงทดสอบขีปนาวุธ ที่เกาหลีเหนืออ้างว่าเป็นแบบเร็วเหนือเสียงทั้งหมดแล้ว จะนับเป็นการยิงครั้งที่ 3 โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว

การยิงทดสอบขีปนาวุธเมื่อวานยังเกิดขึ้นพร้อมกับที่คณะมนตรีความมั่นคง UN กำลังหารือเพื่อประเมินว่า การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 5 มกราคมเป็นการทดสอบขีปนาวุธแบบความเร็วเหนือเสียงที่เกาหลีเหนือเพิ่งพัฒนาขึ้นใหม่จริงหรือไม่

---ยิงทดสอบขีปนาวุธเร็วเหนือเสียงได้สำเร็จจริงหรือ?---

นานาชาติยังไม่ปักใจเชื่อคำอ้างของเกาหลีเหนือ โดยเกาหลีใต้มั่นใจว่า เกาหลีเหนือยังไม่มีความสามารถพอที่จะผลิตเทคโนโลยีที่ใช้กับขีปนาวุธล้ำยุคแบบความเร็วเหนือเสียงได้

มีรายงานว่า ทางด้านองค์การการบินพลเรือนของสหรัฐฯ หรือ FAA เพิ่งเปิดเผยว่า FAA มีคำสั่งห้ามเครื่องบินขึ้นบินจากสนามบินหลายแห่งแถบชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ เป็นเวลานานประมาณ 15 นาทีเนื่องจาก “มีเหตุ” เกิดขึ้นที่ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก แต่มิได้เอ่ยถึงการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือออกมาคำสั่งดังกล่าวมีขึ้น เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 มกราคม) ตามเวลาในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เกาหลีเหนือกำลังยิงทดสอบขีปนาวุธเมื่อวานนี้ (11 มกราคม) วันเวลาที่แตกต่างกันนั้น เนื่องจากสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือตั้งอยู่คนละเขตเวลา

แต่ทางด้านโฆษกของกองบัญชาการการป้องกันอวกาศอเมริกัน หรือ NORAD (นอ-หราด) ระบุว่า ทาง NORAD ไม่ได้ออกคำเตือนใด ๆ หลังเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ

ขณะที่กองบัญชาการอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ ประเมินว่า การยิงทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเมื่อวานนี้ ไม่ได้เป็นภัยคุกคามในทันทีต่อทหารสหรัฐฯ หรือดินแดนของสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร

---คิมปรากฎตัว เพราะเป็นขีปนาวุธพิเศษ---

ท่ามกลางความคลางแคลงใจของนานาชาติ เกี่ยวกับความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงตามที่เกาหลีเหนือกล่าวอ้าง นักวิเคราะห์มองว่าการปรากฏตัวของ คิม จอง-อึน แสดงให้เห็นว่าการทดสอบขีปนาวุธดังกล่าวมีความพิเศษ

The Straits Times ระบุว่า อันกิต พันดา เจ้าหน้าที่อาวุโสของ ของ Carnegie Endowment for International Peace องค์กรเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศในสหรัฐฯ ทวีตข้อความว่า การปรากฏตัวของเขาที่นี่ ชี้ให้เห็นถึงความสนใจเป็นพิเศษต่อโครงการดังกล่าว

และตั้งข้อสังเกตว่า การยิงทดสอบขีปนาวุธเมื่อวาน แตกต่างจากการทดสอบเมื่อเร็ว ๆ นี้ เพราะมีการลงภาพของเขาเข้าร่วมการยิงทดสอบขีปนาวุธดังกล่าวบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ Rodong Sinmun สื่อพรรครัฐบาลเกาหลีเหนือ

ชาด โอ แคร์รอลล์ CEO ของ Korea Risk Group ซึ่งจับตามองเกาหลีเหนือ ระบุว่า ที่ผ่านมาคิมเข้าร่วมการทดสอบยิงขีปนาวุธอื่น ๆ อย่างไม่เป็นทางการ แต่ครั้งนี้กลับปรากฏตัวบนหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ แสดงให้เห็นว่า ผู้นำเกาหลีเหนือไม่กังวลว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทดสอบเทคโนโลยีใหม่เป็นการส่วนตัวและไม่สนใจว่าสหรัฐฯ จะมองสิ่งนี้อย่างไร

---ปฏิกิริยาจากนานาชาติ---

สหภาพยุโรปแถลงว่า การกระทำของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ พร้อมเรียกร้องให้เกาหลีเหนือตอบสนองอย่างสร้างสรรค์ด้วยวิถีทางการทูต ร่วมกับสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ เพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์

รัฐบาลเกาหลีใต้แสดงความเสียใจอย่างยิ่งที่เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธอีก และเกิดขึ้นในห้วงเวลาที่เสถียรภาพของภูมิภาคเป็นสิ่งสำคัญที่สุด พร้อมกับเรียกร้องให้เกาหลีเหนือกลับมาเจรจาและร่วมมือกันอีกในเร็ววันนี้

ก่อนหน้านี้ กองทัพเกาหลีใต้ประเมินว่า ขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ มีพิสัยทำการไกลมากกว่า 700 กิโลเมตร และมีเพดานบินสูงสุด 60 กิโลเมตร ด้วยความเร็วสูงสุด 10 เท่าของความเร็วเสียง 12,348 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

การทดสอบขีปนาวุธล่าสุด เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงคำประกาศช่วงปีใหม่ของนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่จะขยายแสนยานุภาพทางทหารด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ในช่วงเวลาที่การเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ประสบภาวะหยุดชะงัก

นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุว่า ทุกฝ่ายไม่ควรเร่งรีบในการกำหนด หรือตอบโต้ เราหวังว่าทุกฝ่ายจะระมัดระวังในคำพูดและการกระทำ ร่วมกันรักษาสันติภาพและเสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลี

การเจรจาเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนืออยู่ในภาวะชะงักงัน แม้ว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แสดงท่าทีว่า ต้องการกลับเจรจากับเกาหลีเหนืออีกครั้ง ขณะที่เกาหลีเหนือต้องการให้สหรัฐฯ และพันธมิตรหยุด “นโยบายที่เป็นศัตรู” เช่น การคว่ำบาตร หรือ การซ้อมรบร่วมทางการทหาร