หวิดวุ่น! ชายเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังเครียดจัด หวั่นติดโควิด เดินหนีออกจากที่กักตัว

หวิดวุ่น! ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังติดเชื้อโควิด – 19 เครียดจัดเดินออกจากพื้นที่กักตัว ขณะ เคลื่อนย้ายจากรพ.เข้ากักตัวในโรงแรมเอกชนเพื่อลดความแออัด จนท.ต้องเกลี้ยกล่อมกว่า 1 ชั่วโมงจึงยอมเข้าสู่กระบวนการกักตัวอีกครั้ง

เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.วันที่ 27 มีนาคม ที่โรงแรมแกรนด์สุพิชฌาย์ภูเก็ต ถนนนริศร ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์จากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตได้เริ่มเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเฝ้าระวังต้องสงสัยติดเชื้อโควิด -19 จากโรงพยาบาลมากักตัวรอผลตรวจที่โรงแรมฯ ซึ่งใช้เป็นศูนย์คัดกรองผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง (PUI center) ก่อนกลับที่พักอาศัยหากไม่แสดงอาการ เพื่อแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาล และควบคุมสถานการณ์ในจังหวัดภูเก็ต ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีนายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต บุคลากรทางการแพทย์และพนักงานโรงแรม แกรนด์สุพิชฌาภูเก็ต คอยอำนวยความสะดวก

ทั้งนี้โรงแรมดังกล่าวได้มีการปรับปรุงห้องโดยมีการติดตั้งมุ้งลวดเพื่อป้องกันยุงและแมลงต่างๆ ตลอดจนการตั้งเตียงนอน ถังขยะและอื่นๆซึ่งในห้องจะไม่มีการเปิดแอร์และสิ่งที่เก็บเชื้อไว้ได้นานเช่นตู้เย็นซึ่งทางโรงแรมได้เอาออกไปจากห้องพักตลอดจนถึงสิ่งอื่นๆที่สามารถติดเชื้อได้ พร้อมพ่นยาฆ่าเชื้อในทุกจุดเพื่อให้สามารถรองรับผู้ป่วยได้ โดยโรงแรมมีห้องพักรวม 78 ห้อง แบ่งให้บุคลากรทางการแพทย์ใช้พักจำนวน 8 ห้อง ส่วนอีก 70 ห้องใช้ในการรองรับผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง ซึ่งจะรองรับผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังได้ทั้งหมด 70 คน สำหรับศูนย์ PUI คัดกรองผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโคใช้เป็นสถานที่กักตัวผู้ป่วยช่วงรอผลตรวจหากผลตรวจรายใดพบเชื้อก็จะส่งตัวไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ส่วนผู้ที่ไม่พบเชื้อจะให้กลับไปกักตัวที่บ้านจนครบ 14 วัน

อย่างไรก็ตามขณะที่มีการนำส่งผู้ป่วยอยู่นั้น ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.มีผู้ป่วยชายซึ่งเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังที่รอผลตรวจว่าติดเชื้อโควิดหรือไม่ ได้เกิดอาการเครียด เดินออกมาจากห้องกักตัวภายในโรงแรมท่ามกลางความตกใจของเจ้าหน้าที่ ทำให้นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตซึ่งคอยอำนวยความสะดวกอยู่ในขณะนั้น ต้องประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต มาช่วยกันตัวผู้ป่วยไม่ให้เดินออกไปยังแหล่งชุมชน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการกันพื้นที่ให้ผู้ป่วยอยู่ในวงจำกัด ขณะที่ผู้ป่วยรายนี้ได้เดินห่างมาจุดจุดกักตัวประมาณ 200 เมตรและยืนสูบบุหรี่ซึ่งพบว่ามีอาการและสีหน้าที่เคร่งเครียด ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วย นายแพทย์ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณะสุขจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตได้เข้า เจรจาพูดคุยประมาณ 1 ชั่วโมง ผู้ป่วยชายรายดังกล่าวจึงยินยอมเข้าสู่กระบวนการกักตัวเพื่อรอผลตรวจอีกครั้ง