สลด!เจ้าของคอกหอยแครง เจอประมงพื้นบ้านปล้นลูกหอย เครียดช็อกดับ
วันนี้ ( 28 มิ.ย. 63 )จากกรณี ปัญหาความขัดแย้งระหว่างกลุ่มประมงพื้นบ้าน กับผู้ประกอบการคอกหอยแครง ในอ่าวบ้านดอน สุราษฎร์ธานี ที่ถูกเผยแพร่เป็นคลิปวีดีโอ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์ ขณะที่ชาวประมงพื้นบ้านบางส่วนกำลังงมหอย โดยผู้ที่บันทึกภาพพยายามขอร้องให้กลุ่มชาวบ้านหยุด เพราะเป็นหอยที่ต้องกู้เงินไปซื้อมาเลี้ยง
โดยคลิปวีดีโอเป็นของลูกชายนายสุรัตน์ คชรัตน์ อายุ 62 ปี ผู้เลี้ยงหอยแครงในเขตอำเภอท่าฉาง ตัดสินใจบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้หลังจากพ่อของเขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เพราะโรคหัวใจกำเริบ ขณะลงมาขอร้องชาวประมงพื้นบ้านกว่า 10 ลำ อย่าตักหอยแครงที่นายสุรัตน์ กู้เงินซื้อลูกหอยนำมาปล่อยเกือบ 3 ล้านบาท
ล่าสุด นายธวัชชัย คชรัตน์ ลูกชายผู้เสียชีวิต ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เล่าเหตุการณ์และเสียใจกับการจากไปของพ่อ โดยระบุว่า
“ เช้าวันนี้ตื่นมาไม่เหมือนเดิม พ่อได้จากไปแล้ว ซึ่งพ่อเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว แต่ 1 เดือน เต็มที่ต้องตกอยู่ในความกังวลและไม่สบายใจนอนก็นอนไม่หลับ เช้าก็ต้องไปคอยดูสถานการณ์ สรุปคือแกเหนื่อยมากแล้ว สุดท้ายอยากฝากชาวบ้านไว้ด้วยครับหยุดก่อนได้ไหม
หน่วยงานราชการเขาก็กำลังดำเนินงานอยู่ก็รู้ๆ กัน ผิดถูกให้กฎหมายตัดสินครับ ไม่ใช่พวกคุณมาตัดสิน เสียใจกับการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต พอเถอะ หยุดเถอะครับไม่เจอกับตัวเองไม่รู้หรอกครับว่าความรู้สึกเป็นอย่างไร”
ขณะที่หลานผู้เสียชีวิต กล่าวว่า แม้ตนจะแจ้งให้ชาวประมงพื้นบ้านกว่า 20 ลำ ที่หาลูกหอยแครงที่ลุงซื้อมาเลี้ยงเกือบ 3 ล้านบาท ว่าเจ้าของเสียชีวิตแล้ว พร้อมเข้าห้ามปรามและขอร้องให้ออกจากพื้นที่ ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายก็คงต้องฝากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเข้ามาหาวิธีแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม ที่บริเวณอ่าวบ้านดอน ท้องที่หมู่ 4 ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน ได้มีเจ้าของคอกหอยเลี้ยงนำเรือหางยาวประมาณ 100 ลำมาลอยลำเฝ้าไว้ เนื่องจากหอยกำลังโตและมีเหตุทำให้นายสุรัตน์เสียชีวิต ขณะที่นอกเขตแนวเสาไม้ไผ่มีชาวบ้านกว่า 300 คนนำเรือประมงพื้นบ้านร่วม 200 ลำจะเข้ามาเก็บหอยเลี้ยงอีก ซึ่งต่างฝ่ายรอดูท่าทีกัน โดยเจ้าของคอกหอยได้ไล่เรือชาวบ้านที่เข้าไปในเขตออกมา และมีเรือตรวจการณ์ทหารเรือสังเกตการณ์อยู่
นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เหตุการณ์เสียชีวิตดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย ซึ่งในความเป็นจริงประมงพื้นบ้านที่แท้จริงกับผู้ประกอบการยังสามารถอยู่ร่วมกันได้ ซึ่งพื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ผู้ประกอบการพยายามรักษาทรัพย์สินที่เหลืออยู่ ส่วนกลุ่มชาวประมงที่มาจากพื้นที่อื่นไม่ยอมเข้าใจได้รุกล้ำเข้าไป และเจ้าของคอกมีโรคประจำตัวอยู่แล้วและลงทุนหลายล้านบาทเกิดความเสียใจช็อกหมดสติ
สำหรับมาตรการที่ไม่ให้เกิดความสูญเสียได้เร่งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจว่า ในเขต 5,400 เมตรทุกคนมีความชอบธรรมที่จะเข้าใช้พื้นที่ได้ แต่การเข้าไปจะต้องไม่กระทบต่อสิทธิของผู้อื่นถ้าเจ้าของคอกพิสูจน์ได้ว่าได้ซื้อหอยมาเลี้ยงก็อาจจะมีความผิดได้
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline