วันนี้มาชวนเพื่อนเขียนหนังสือกันค่ะ อยากเป็นนักเขียนเริ่มต้นยังไงดีก่อนอื่นแนะนำตัวเองก่อนนะคะ ชื่อนกค่ะ แต่นามปากกาที่ใช้ในการเขียนนิยาย มีหลายนาม คุณธิดา สร้างชื่ออยู่จ้า และปีนี้เขียนด้วยนามใหม่ว่า ญาธิดา แบบว่า เพื่อนบอกเปลี่ยนเถอะ ไม่ดังสักที เอาน่าสักวันก็ต้องมีคนรู้จัก ที่จริงก็มีแฟนคลับอยู่จำนวนหนึ่งค่ะหากว่าจะเริ่มต้นเขียนนิยายสำหรับมือใหม่แล้วนั้น มันไม่ง่ากค่ะ คือผสมระหว่างคำว่า “ยาก” กับคำว่า “ง่าย” อยู่ที่ว่าเราจะเขียนหรือเปล่าเท่านั้นเองหยิบปากกา หยิบกระดาษขึ้นมา เอาแบบเขียนเรื่องใกล้ตัวก่อนก็ได้ค่ะ คนยุคดิฉันที่เกิดในยุค 80 90 พวกเราเขียนไดอารี่กันค่ะ บางคนเขียนได้สนุกมาก เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้อย่างสนุก ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบขีดเขียนว่ามีอะไรเกิดขึ้นในวันหนึ่ง ๆ แล้วก็เอามาอ่านคนยุคนี้อยู่แต่ในโลกเสมือนจริง โซเซียล ออนไลน์ โดยที่เราไม่ค่อยได้ไปเจอะเจอกับคนจริง ๆ กิจกรรมที่จะทำนอกบ้านในยุคโควิดก็แทบจะกระดิกไปไหนไม่ได้เลย และอีกอย่างหนึ่งฝนเจ้าขา ปีนี้มาเยอะไปไหม? ยังตกไม่หยุดเลย ในขณะที่ดิฉันเขียนบทความอยู่นี้ก็หลั่งเหมือนฟ้าจะถล่มอยู่ค่ะอ้าว... ไม่เข้าเรื่องสักที เล่ามาเถอะเริ่มต้นยังไงสำหรับนักหัดเขียนมือใหม่ และนักหัดเขียนทั้งหลาย จะถามตัวเองว่า “แล้วฉันจะเขียนอะไรดีล่ะ”ตอบเขียนแบบเล่าเรื่องก่อนค่ะ หาหัวข้อ หรือ Topic ให้เจอ เอาเรื่องที่ใกล้ตัวของเราก่อน เพราะจะเป็นเรื่องที่เรารู้ดีที่สุด ดิฉันเชื่อว่าคุณจะต้องมีเรื่องที่คุณประทับใจค่ะ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นตอนอายุเท่าไร และในสถานการณ์ไหน แล้วลงมือเล่าอย่างสนุก ไม่ต้องกำหนดว่า มันจะเขียนออกมาดีหรือเปล่า แค่เริ่มต้นเขียนก่อนค่ะให้คิดเหมือนคุณไปนั่งเมาท์มอยซอยแปด หรือโต๊ะน้ำชาในตอนเช้า และก็เอ่ยถึงเรื่องของผู้อื่น ที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ตรงนี้จะเห็นได้ว่า ณ ตอนที่เล่ามันมันปากมาก แบบพรั่งพรูแบบไม่มีอะไรกั้น เอาความรู้สึกแบบนั้นแหละค่ะมาเขียนแบบเล่าเรื่องราวลงไป เป็นร้อยแก้ว ลำดับเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ มันเกิดอะไรขึ้นมาบ้างการเล่าเรื่องงาน ๆ มันมีหลักจำอยู่ง่ายนิดเดียวคือ ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร และผลของการเกิดเรื่องราว ๆ จบลงที่ตรงไหน แค่นี้แหละค่ะมาเอา.... การขึ้นต้นง่าย ๆ เพื่อที่จะเขียน สองข้อหลักวันนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้า...หรือ ถ้าเพียงแต่...เช่น มันจะเกิดอะไรขึ้นนะ ถ้าวันนั้นฉันไม่ยางรถรั่ว แล้วพี่ปรีชาไม่ได้เข้ามาเจอฉัน ช่วยเหลือฉันจนกลับบ้านอย่างปลอดภัยได้ ปัจจุบันผัวของฉันก็คงไม่ใช่พี่ปรีชา ... (จากนั้นก็เล่าต่อ อันนี้เป็นตัวอย่างเฉย ๆ ดูเหมือนผู้เขียนจะคับข้องใจว่าทำไม ถึงได้มาเจอกับพี่ปรีชา อิอิ)ถ้าเพียงแต่วันนั้น ฉันไม่หยิบเอาเงินห้าพันบาทไปจากกระเป๋าสตางค์ของคุณพี่รัตนา ฉันก็คงไม่ต้องมาอยู่ในคุก นี่มันเป็นเงินแค่ห้าพันบาทเท่านั้นนะ เธอจับลูกกรง และมองดูตำรวจที่กำลังนั่งเคาะแป้นพิมพ์ดีด รับแจ้งความจากคุณพี่รัตนา “โธ่! พี่รัตนาจ๋า ฉันขอโทษ”และก็เขียนต่อได้เลย เป็นต้นมาเขียนนิยายกันเถอะคิดชื่อเรื่องก่อนคิดชื่อเรื่องออกแล้ว พล็อตก็จะตามมาอย่างง่ายดาย บางทีแค่มีชื่อเรื่อง ก็เห็นพล็อต หรือเนื้อหาในเรื่องทั้งหมดแล้วเช่นชื่อเรื่องของคุณธิดาเอง เมีย(คู่นอน)พาร์ทไทม์ เจ้าสาว(ไม่)ปรารถนารัก กับดักหัวใจสามีกำมะลอ เป็นต้นปัจจุบันการตั้งชื่อเรื่องให้ไม่ซ้ำคนอื่นยากมากค่ะ ฉะนั้นก็ให้มันยาวเข้าไว้วิธีการตั้งชื่อเรื่องถ้าจะให้ไม่เหมือนเพื่อนเลย ก็ใส่ภาษาอังกฤษลงด้วยและต่อด้วยภาษาไทยค่ะหรือเอาชื่อตัวละครเช่นพระเอกนางเอกมาตั้งเป็นชื่อเรื่อง หรือสถานที่เกิดเรื่องก็ได้ ก็ลองคิดเป็นการบ้านค่ะ เราจะเขียนนิยายแนวไหนค่ะ ปัจจุบันนิยายแบ่งออกเป็นหลายหมวดมากค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ในเมพนี่แหละ ก็มีแยกแยะหลายหมวดให้นักเขียนได้เลือกลงนิยาย ซึ่งบรรยายไม่หมดแน่ แต่ก็มีตัวอย่างมาให้ดูเราเน้นเรื่องของนิยายหรือวรรณกรรมก็พอนะคะFan Fiction แฟนฟิคชั่น, นิยาย Girl Love/Yuri, นิยายกำลังภายใน, นิยายชีวิต/ดรามา, นิยายตลก, นิยายผจญภัย/บู๊แอกชัน, นิยายรัก, นิยายรักจีนโบราณ, นิยายรักวัยรุ่น, นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่, นิยายลึกลับ/เขย่าขวัญนิยายวาย Boy Love / Yaoi, นิยายสืบสวนสอบสวน/ทริลเลอร์, นิยายเสียดสีสังคม, นิยายแฟนตาซี, นิยายโรมานซ์, นิยายไซไฟ, พารานอร์มอล โรมานซ์, รวมเรื่องสั้น, วรรณกรรมคลาสสิก, วรรณคดีไทย, วรรณกรรมทั่วไป, วรรณกรรมเยาวชน และไลท์โนเวลโอ๊ย! นิยายมีหลายแนวมาก วันนี้ได้รู้แล้วว่า เว็บไซต์ที่ขายนิยายแบ่งนิยายเป็นแนวไหนบ้าง เราต้องเลือกแนวที่เราจะเขียน ที่เป็นตัวเราจริง ๆ อย่าฝืนเขียนงานแนวที่ตัวเองไม่ได้ชอบ เพราะมันไปต่อยากงานทุกงานสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ค่ะตอนนี้แนวที่ได้รับความนิยม แม้จะเป็นนักเขียนหน้าใหม่ มือใหม่ หรือแม้แต่หน้าเก่า มือเก่าแล้ว ก็มีการปรับเปลี่ยนแนวให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน และเลือกเขียนตามความนิยมของตลาด แนวนิยายที่ขายดี 1.) นิยายกำลังภายใน และ นิยายรักจีนโบราณ หรือเราจะเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ แนวจีนโบราณนั่นแหละ คือแนวนี้ได้รับความนิยมในทุกเว็บไซต์ค่ะมีนักเขียนไทยหลายคนผันตัวเองมาเป็นนักเขียนแนวจีนโบราณ บอกได้เลยว่าหลายคนเก็บเงินเข้ากระเป๋าเดือนละหกหลักค่ะ แต่ว่านิยายต้องสนุกนะคะ การดำเนินเรื่องสำคัญ พล็อตสำคัญและยังมีปัจจัยในเรื่องการโปรโมท และขยันหาแฟนคลับจ้า สำคัญสุด คุณต้องขยันฝึกปรือฝีมือ รับประกันเขียนแนวนี้แล้วขายได้จริง ๆอ่านให้เยอะ ๆ นะคะ เพื่อจะได้เข้าใจบริบทของการเขียนแนวจีนโบราณ หรือแม้กระทั่งคำศัพท์ต่าง ๆ ที่จำเป็น และใช้กัน ซึ่งนักอ่านแนวนี้ จับผิดเก่งที่สุด (55++) 2.) นิยายชีวิต นิยายรัก นิยายโรแมนติก แต่ว่าขอเน้นในแนวนี้ก็คือ จะต้องดรามาค่ะ แนวนี้ก็ยังได้รับความนิยมจากนักอ่านแบบไม่เสื่อมคลายจริง ๆ ไม่ว่าจะเมื่อไร ทั้งที่ชีวิตทุกคนปัจจุบันก็ดรามาขึ้นสุดลงสุด (ยุคลุง กรี๊ด... 55++ หยอก ๆ)ทว่าคนก็ยังอ่านดรามา ผัวมีเมียน้อย พ่อตายตามล้างแค้น เป็นต้นคนส่วนใหญ่มักจะเกลียดปลาไหลแต่กินน้ำแกง ขอให้ได้เสียน้ำตาก็มีความสุข หรือขอให้ได้อินและรู้สึกมีส่วนร่วม พออ่านไปได้ด่าพระเอกว่าโง่บ้าง ด่านางร้ายบ้าง ทำไมไม่เขียนแบบนี้นะ เฮ้อ... มันพอให้นักอ่านได้ชื่นหัวอกหัวใจบ้าง 3.) นิยายวาย Boy Love หรือ Yaoi จะไปอยู่ในหมวดแนวจีนโบราณก็ได้ นิยายรัก นิยายโรมานซ์ หรือแม้แต่นิยายสำหรับผู้ใหญ่ การันตีขายดีครับผมคุณอย่าคิดนะว่าคนที่ซื้ออ่านเป็นผู้ชาย ผิดค่ะ นักอ่านวายส่วนใหญ่เป็นสาว ๆ ค่ะ มีตั้งแต่มัธยม วัยมหา’ลัย วัยทำงาน ยันโน้นเลยค่ะ ห้าหกสิบปีรุ่นแม่รุ่นป้าก็ชอบอ่านจ้าเรื่องจริงนะคะ พี่ธิดาไม่ได้โกหก มีนักเขียนหลายคนยังได้รับความนิยมแบบไม่มีตก แถมนิยายวายยังขายหนังสือทำมือได้อีกด้วย โอ๊ย! อะไรมันจะดีขนาดนี้ 4.) และสุดท้ายที่พี่ธิดายกให้คือ แนวนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ อืม... มันไม่มีอะไร อย่าหาพูดแบบนี้เด็ดขาด ถ้าใครเป็นนักเขียนจะรู้ว่าการเขียนแนวนี้ มันสูบพลังงานมหาศาลค่ะ เหนื่อยที่ต้องคิดท่าทางประกอบ (55++)พอเขียนจบ ก็เหมือนกับว่าเสียตัวให้พระเอกในเรื่องไปแล้ว (อิอิ... เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ)เคยมีประเด็นที่ถกกันในกลุ่มนักเขียน เปรียบว่าเป็นนิยายปกขาว (ปกนางนวลสมัยโน้น) ที่จริงใครจะเห็นต่างยังไงก็ได้ มิควรที่จะไปเหยียดนักเขียนด้วยกัน หรือผลงานของเขานักอ่านชอบแบบแนวไหน เขาก็ไปหาซื้ออ่านกันเอาเอง นักอ่านเสียเงินซื้อค่ะ นักอ่านก็ต้องซื้อในงานที่เขาชอบแถมแนวนี้พี่ขอกระซิบว่าราคามันได้ สั้นแต่แพง คือมันดีค่ะ งานยอดนิยมต้องยกนิ้วให้คุณพี่กาสะลองเขียนนิยายถ้าจะให้ขายได้ ต้องเขียนแนวที่มีนักอ่านเยอะ ๆ นะคะ ถึงจะมีรายได้จากการเขียนนิยาย แต่ถ้าเราเขียนไม่เก่งไม่โดน แล้วยังไปลงในหมวดหรือแนวนิยายที่คนไม่อ่านอีก นิยายไม่ได้อยู่ในกระแส ก็อาจจะทำให้จิตตกได้ มีเพื่อนนักเขียนบางคนก็ลาออกจากอาชีพ เพราะเขาอิงยอดขาย บางคนก็อกหักจากการที่ไม่มีคนอ่านที่จริงมีหลายปัจจัยค่ะที่ขายไม่ได้ สุดท้ายเราต้องเขียนเรื่องใหม่ไปเรื่อย ๆ นิยายของคุณธิดาบางเรื่องก็ขายดี บางเรื่องก็แป๊ก แต่ว่าคุณธิดาถือคติ Move on เราจะขึ้นเรื่องใหม่ทันทีส่วนเรื่องที่ขายไม่ได้ เราสามารถเอามาวิเคราะห์หาสาเหตุได้ว่า ทำไมขายไม่ออก เราพลาดตรงไหน แล้วนำความผิดพลาดนั้น ๆ มาพัฒนางานเรื่องใหม่ของเราค่ะนักอ่านเป็นกระจกส่องงานของนักเขียนได้ดีที่สุดค่ะเน้นย้ำ จงเขียนในแนวทางที่ตัวเองถนัดและชอบค่ะ อย่าไปฝืนเขียนในเรื่องที่ไม่ถนัดอีกเรื่องหนึ่ง หากคุณยังขาดความรู้ในเรื่องที่จะเขียนอีก คงจะตกม้าตาย มันไม่โอเคเลยค่ะนอกจากคุณคิดว่าจะสร้างความแปลกใหม่ให้กับตัวเองแต่เชื่อคุณธิดาเถอะ 99.99 % พังเพราะการเปลี่ยนแนว (พี่เป็นมาก่อน ตรูจะบ้า)บทความแรกที่มาเขียนในนี้ ก็ฝากผลงานของตัวเองด้วยแล้วกันนะคะภาพทั้งหมดโดยครีเอเตอร์ : คุณธิดา Love Story by Khun Thida7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์