สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ ทุกคนวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ วันพักผ่อนของครอบครัวเราค่ะ ส่วนใหญ่แล้วถ้าเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์แบบนี้ เรามักจะพาลูกไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า ไปเดินเล่น หรือหาของกินอร่อย ๆ กินกัน ซึ่งทุก ๆ วันหยุด และเราออกไปทำกิจกรรมแบบเดิม ๆ ก็ทำให้รู้สึกจำเจเกินไป จึงมาคิดกันว่า เราน่าจะหากิจกรรมอะไรอื่น ๆ ที่แตกต่างจากเดิมบ้างจะดีไหม และวันหยุดสุดสัปดาห์อาทิตย์ของเราจึงชวนมาที่นี่กันค่ะ ศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน สวนประวัติศาสตร์พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ สงขลาศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ 888 หมู่ที่ 2 ต.พะวง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา อยู่บริเวณภายในสวนประวัติศาสตร์พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ค่ะ หากเพื่อน ๆ เดินทางมาจากหาดใหญ่ให้ใช้เส้นทาง ถ.กาญจนวณิชย์ หรือเรียกกันติดปากว่าถนนสายเก่า เมื่อถึงห้าแยกน้ำกระจายให้เลี้ยวซ้าย ตรงมาตามเส้นทางเรื่อย ๆ ผ่านโรงพยาบาลสงขลา ขับเลยมาอีกสักนิดหนึ่งก็จะถึงสวนประวัติศาสตร์พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนตั้งอยู่ภายในสวนประวัติศาสตร์แห่งนี้นั่นเอง ระยะทางจากหาดใหญ่ประมาณ 30 กิโลเมตร ใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง เราก็มาถึงจุดหมายปลายทางแล้วค่ะ ก่อนที่เราจะเข้ากันไปข้างใน เราสามคน พ่อ แม่ ลูก ก็เข้ามากราบสักการะหลวงปู่ทวดวัดช้างไห้ ซึ่งประดิษฐานอยู่หน้าสวนประวัติศาสตร์เพื่อความเป็นสิริมงคลกันก่อนค่ะหลังกราบสักการะแล้ว เราก็เข้าไปด้านในสวนประวัติศาสตร์กันเลยค่ะเมื่อเข้ามาถึงด้านใน เราเห็นเด็ก ๆ ปั่นจักรยานกันสนุกสนาน เรานึกเสียดายว่าเราน่าจะเอาจักรยานของลูกติดรถมาด้วย เพื่อจะได้ปั่นรอบ ๆ สวน แต่พอเราขับรถเข้ามาถึงด้านใน โชคดีมากค่ะ เพราะมีจักรยานสำรับเด็กให้เช่าปั่นบริเวณภายใน และแล้วเด็กน้อยก็ได้จักรยานคู่กายแล้วค่ะเราสองคนเดินตามเด็กน้อยที่ปั่นจักรยานอย่างสนุกสนาน เพื่อตรงไปยังศูนย์การเรียนรู้ บริเวณทางเข้าคึกคักมาก มีผู้คนมาออกกำลังกาย วิ่ง เดิน หรือปั่นจักรยานกันเยอะมากค่ะ ตื่นตาตื่นใจสำหรับครอบครัวเรามาก พื้นที่รอบ ๆ สวย สะอาด กว้างใหญ่มาก พวกเราเดินกันตามเส้นทางสักแป๊บนึงก็มาถึงแล้วค่ะ ศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน สวนประวัติศาสตร์พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ สงขลาที่มาของภาพ: ผู้เขียนบทความเป็นคนถ่ายรูปศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน (ข้อมูลแหล่งที่มา: www.generalprempark.com)ป่าชายเลน (Mangrove forest) เป็นระบบนิเวศที่ประกอบไปด้วยพันธุ์ไม้ พันธุ์สัตว์ หลายชนิดดำรงชีวิตร่วมกันกับสภาพแวดล้อมที่เป็นดินเลน น้ำกร่อย และน้ำทะเลท่วมถึงอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น มักพบป่าชายเลนปรากฎอยู่ทั่วไปตามบริเวณที่เป็นชายฝั่งทะเล ปากแม่น้ำหรืออ่าว พันธุ์ไม้ที่มีมากและมีบทบาทสำคัญที่สุดในป่าชายเลน คือป่าโกงกาง ป่าชายเลนจึงมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า ป่าโกงกาง ป่าชายเลนในบริเวณสวนประวัติศาสตร์ฯ คือสังคมพืชและสัตว์ที่เกิดอยู่ริมคลองวง ซึ่งเป็นคลองที่ไหลลงทะเลสาบสงขลา และได้รับอิทธิพลน้ำขึ้นน้ำลงจากทะเลสาบที่เชื่อมต่อกับทะเลน้ำเค็ม ทำให้คลองวงในบริเวณนี้มีสภาพน้ำกร่อย จึงเป็นปัจจัยแวดล้อมที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของพันธุ์ไม้ อีกทั้งในป่าชายเลนยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน รวมถึงสัตว์อื่น ๆ อีกนานับชนิด ความสำคัญและประโยชน์ของป่าชายเลนด้านสิ่งแวดล้อม - เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน แหล่งที่อยู่อาศัย การสืบพันธุ์ วางไข่และหลบภัยของสัตว์น้ำ สัตว์บก - เป็นแหล่งธาตุอาหารของพืช สัตว์ และอินทรียวัตถุที่มีความสำคัญ - เป็นแหล่งเก็บกักตะกอนและกลั่นกรองความสกปรกที่มาจากพื้นที่บกและถูกพัดมาจากน้ำทะเล - ช่วยลดความรุนแรงของปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางกระบวนการธรรมชาติ - ช่วยป้องกันการทำลายของชายฝั่งและช่วยให้เกิดแผ่นดินงอกขึ้นด้านสังคมและการศึกษา - ช่วยค้ำจุนวิถีชีวิตตามธรรมชาติของสังคมชนบทไทย ที่พึ่งพาป่าชายเลน เช่น การทำประมงพื้นบ้าน - เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของชุมชนซึ่งได้รับประโยชน์จากการจับสัตว์น้ำเป็นอาหาร - เป็นแหล่งสมุนไพรและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ - เป็นแหล่งค้นคว้าและให้ความรู้เรื่องพืช สัตว์ มนุษย์ นิเวศวิทยา และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนด้านเศรษฐกิจ - ให้ผลผลิตทางด้านประมง ได้แก่ สัตว์น้ำเศรษฐกิจ เช่น กุ้งแชบ๊วย กุ้งกุลาดำ ปลากะพง ปลากระบอก ปูดำ ปูทะเล หอยแครง หอยนางรม - เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง เช่น การเลี้ยงหอยแคลง การเลี้ยงหอยแมลงภู่ หอยนางรม การเลี้ยงกุ้งกุลาดำ ปลากะพง ปลาเก๋า - สร้างรายได้จากการเผาถ่านและการเก็บของป่า เช่น ลูกจาก ใบจาก - ลดค่าใช้จ่ายในการป้องกันชายฝั่งมิให้พังทลายและถูกกัดเซาะโดยรากไม้ป่าชายเลน - สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ได้ความรู้ที่เป็นเชิงวิชาการกันแล้วนะคะ เรามาเดินดูบริเวณรอบ ๆ ของศูนย์การเรียนรู้ป่าชายเลนกันดีกว่าค่ะ ร่มรื่น ลมพัดเย็นสบาย ต้นไม้เยอะแยะตลอดเส้นทาง เราชอบมาก ๆ ถ้าไม่เข้ามาเที่ยวก็คงไม่ได้สัมผัสกับธรรมชาติดี ๆ แบบนี้ เราชวนเด็กน้อยจอดจักรยานและเดินเข้าไปในอาคารริมน้ำกันก่อนค่ะ อาคารแห่งนี้เราสามารถจะเดินเข้าไปนั่งเล่นชมนก ชมไม้ ได้เลยค่ะ ยิ่งถ้ามาตอนเย็น ๆ อากาศเย็นสบาย บรรยากาศดีมากยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเดินออกมาจากอาคาร ก็จะเป็นบริเวณป่าชายเลนอันกว้างใหญ่ เราอธิบายความสำคัญและประโยชน์ต่าง ๆ ของป่าชายเลนให้ลูกฟัง เด็กน้อยรู้สึกตื่นเต้นกับธรรมชาติตรงหน้าที่ได้เห็น เหมือนได้เปิดโลกใหม่ ชวนกันเดินบริเวณรอบ ๆ ป่าชายเลน และถ่ายรูปมาฝากเพื่อน ๆ ด้วยค่ะเราพาลูกไปดูพื้นที่ป่าชายเลนของจริงกันสักพักหนึ่ง หลังจากนั้นจึงเดินออกมาด้านนอก และได้พบกับอุทยานไม้ประจำจังหวัดภาคใต้ค่ะเมื่อออกมาจากอุทยานไม้ และเดินต่อออกมาเรื่อย ๆ เราพบว่า กิจกรรมและความสนุกของเด็กน้อยยังไม่หมดแค่นี้ เพราะเมื่อเดินไปอีกนิด ก็จะเป็นพื้นที่สำหรับออกกำลังกาย ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายมากมาย ให้ผู้มาออกกำลังกายหรือเด็ก ๆ ได้ออกกำลังกายสนุกสนานกัน เราสามคนใช้เวลาออกกำลังกายกันประมาณครึ่งชั่วโมง ก็เริ่มพลบค่ำค่ะ ดวงอาทิตย์ลาขอบฟ้าไปแล้ว เด็กน้อยยังคงอยากจะอยู่ที่นี่ต่อ เราเองก็เสียดายที่ต้องกลับกันแล้ว แต่ไม่เป็นไรค่ะ เราสัญญากับเด็กน้อยว่าอาทิตย์หน้า เราจะกลับมาที่นี่ใหม่ และจะใช้เวลาอยู่ที่นี่ให้มากกว่าวันนี้หลังจากที่วันนี้ครอบครัวเราเปลี่ยนแนวเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ พาลูกมาที่นี่ ได้ปั่นจักรยาน ได้ออกกำลังกาย ได้มาชมศูนย์การเรียนรู้ที่เป็นความรู้ใหม่ ๆ แก่เขา แทนที่จะเป็นห้าง หรือร้านอาหารเหมือนวันหยุดอื่น ๆ การมาเที่ยวศูนย์เรียนรู้ในครั้งนี้มีค่ากับเด็กน้อยมาก และเห็นด้วยกับคำพูดว่าการพาเด็ก ๆ ออกมาเรียนรู้นอกบ้านมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการได้ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว ได้ใกล้ชิด พูดคุยกัน ซึ่งถือเป็นเวลาคุณภาพ, ได้เปิดโลกใบเล็ก ๆ ของเด็กน้อย ให้กว้างขึ้น เพราะส่วนใหญ่โลกของเขาอาจมีแค่บ้านหรือโรงเรียนเท่านั้น อีกทั้งได้กระตุ้นพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของเด็ก ซึ่งเด็กๆ ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่แล้ว การได้พาเขาไปเห็นและสัมผัสโลกของจริงนอกเหนือจากในตำรา เป็นสิ่งที่ควรทำที่สุดเลยค่ะ เขาจะมีความสุขกับการได้เรียนรู้นอกห้องเรียน เหมือนลูกเราที่ได้เจอตำราเล่มนี้นอกบ้านในวันนี้ค่ะแล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ สวัสดีค่ะ