ชอบเที่ยวค่ะ แล้วชอบไปทุกทีเลย ชอบไปต่างประเทศเพื่อเห็นวัฒนธรรมแปลกตา เห็นสิ่งใหม่ๆ ที่บ้านเราไม่มี และนี่คือเคล็ดลับกันตายของอ้อมเวลาเที่ยวต่างประเทศ! ไม่ใช่ว่าเราจะต้องเก่งภาษาอังกฤษเหมือนเจ้าของภาษา แต่แค่รู้คำถามสำคัญๆ หรือประโยคง่ายๆ ก็ช่วยชีวิตได้แล้วค่ะ นี่คือประโยคที่อ้อมใช้ประจำเวลาออกทัวร์ต่างแดน ทักทายแบบสุภาพ Hello! Hi! (สวัสดีค่า!) – เบสิคใช่ไหม แต่ยิ้มด้วยนะ อย่าแค่พูดแห้งๆ Excuse me. (ขอโทษนะคะ) – เวลาแทรกตัวผ่านฝูงชนหรือขอความช่วยเหลือ ใช้คำนี้แล้วจะดูน่ารักทันที Can you help me? (ช่วยหน่อยได้ไหมคะ?) – ต้องใส่น้ำเสียงแบ๊วๆ เพิ่มแต้มความน่าเอ็นดู หิวแล้ววว (เวลาเข้าร้านอาหาร) Can I have the menu, please? (ขอเมนูได้ไหมคะ?) – บางครั้งร้านที่ไม่ใช่นักท่องเที่ยวบ่อยๆ เขาอาจไม่ยื่นให้ก่อน What’s your recommendation? (แนะนำอะไรหน่อยสิคะ?) – เผื่อได้กินอะไรที่ไม่ได้อยู่ในลิสต์ Can I have this one, please? (เอาอันนี้ค่ะ) – ชี้นิ้วในเมนูแบบมั่นใจไปเลย ช็อปเพลินๆ How much is this? (อันนี้ราคาเท่าไหร่คะ?) – ใช้ทุกครั้ง เพราะแปะราคาไว้ไม่เคยดูตรงเลย! Can I get a discount? (ลดได้อีกไหมคะ?) – ลองสักหน่อยเถอะ! เราอาจได้อะไรดีๆ กลับมานะ หลงทางทำไง? Where is [ชื่อสถานที่]? (ที่ [ชื่อสถานที่] อยู่ไหนคะ?) – อย่าลืมโหลดแผนที่ไว้ช่วยด้วย Can you show me on the map? (ช่วยชี้บนแผนที่ได้ไหมคะ?) – เอาแอปฯ หรือแผนที่กระดาษขึ้นมาใช้เสริมทัพ สถานการณ์ฉุกเฉิน Help! (ช่วยด้วย!) – ใช้เมื่อจำเป็นจริงๆ I’m lost. (หลงทางค่ะ!) – เพิ่มหน้าตาเว้าวอนเข้าไป Call the police, please! (เรียกตำรวจให้หน่อยค่ะ!) – ใช้ในกรณีจำเป็นเท่านั้น คำชมติดปาก It’s beautiful here! (ที่นี่สวยจังเลย!) – เวลาเห็นวิวสวยๆ บอกเขาด้วย You’re very kind. (คุณใจดีมากเลยค่ะ) – เวลาได้รับความช่วยเหลือ ต้องไม่ลืมขอบคุณเสมอ ประสบการณ์ตรงจากผู้ประสบภัย เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่อ้อมไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกค่ะ พอถึงมื้อเที่ยง อ้อมกับเพื่อนก็หาร้านอาหารชิลๆ เจอร้านน่ารัก ๆ แถวเมืองเล็กๆ หน้าร้านดูอบอุ่นจนคิดว่าเจ้าของน่าจะเฟรนด์ลี่เลยแวะเข้าไป เริ่มสั่งอาหารด้วยความมั่นใจ เปิดเมนูมาก็ไม่รู้จักอะไรเลย! แต่ก็ทำเท่ พยายามใช้ทักษะภาษาอังกฤษที่สะสมมาอย่างดี (จากหนังและซีรีส์) เริ่มต้นด้วยคำว่า "Can I have this, please?" แล้วชี้แบบมั่วๆ ไปที่เมนู แต่เท่านั้นยังไม่พอ อ้อมดันอยากแสดงความเป็นนักชิมตัวจริง เลยพยายามพูดเสริมว่า "Umm... spicy, no... a little spicy, but not too spicy, okay?" พนักงานพยักหน้า ดูเข้าใจแต่ก็ทำหน้าครุ่นคิด อ้อมก็ยังไม่เอะใจค่ะ คิดว่าผ่านไปได้! มื้อโป๊ะแตกเริ่มขึ้นเมื่ออาหารมาเสิร์ฟ สิ่งแรกที่มาไม่ใช่อาหารที่อ้อมตั้งใจสั่งเลยค่ะ ดันกลายเป็นปลาดิบที่เราไม่กิน! สงสัยเพราะตอนชี้ไปที่เมนู ดันชี้ผิดจาน สุดท้ายอ้อมก็งงต่อไปเพราะอีกสองจานที่สั่งมาออกจะดู "ไม่ค่อยเกี่ยวกัน" กับที่คิดไว้ พอเจ้าของร้านเดินมาที่โต๊ะ เขาทำท่าเหมือนสงสารเล็กน้อย และพูดขึ้นมาเบาๆ ด้วยภาษาไทยสำเนียงน่ารักว่า "น้อง คนไทยเหรอ? พูดไทยได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ" โอ้โห! โลกแทบหยุดหมุนค่ะ ความมั่นใจที่สั่งไปเมื่อกี้ล่มสลายทันที เพื่อนที่นั่งข้างๆ หัวเราะจนแทบกลิ้งลงเก้าอี้ ส่วนอ้อมก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ พร้อมตอบกลับว่า "ค่ะ พี่ สั่งผิดไปเยอะเลย..." บทเรียนมื้อนั้น หลังจากโป๊ะแตก เจ้าของร้านใจดีมากค่ะ ช่วยเปลี่ยนอาหารให้ตามที่เราตั้งใจ แถมยังแนะนำเมนูอร่อย ๆ ของร้านให้อีก แบบไม่หงุดหงิดเลยซักนิด สุดท้ายอ้อมเลยได้เรียนรู้ว่า ควรเตรียมตัวโดยการซ้อมใช้ภาษาอังกฤษไว้บ้างแบบงูๆ ปลาๆ ก็ยังดี มือถือมีประโยชน์มา มี App ที่สามรถเแปลภาษาไทยเป็นอังกฤษหรือภาษาอื่นๆ ได้ด้วยนะ อย่างเช่น Google Translate ก็สามารถแปลจากเสียงพูดของเราได้เลย สรุป มื้อนั้นเป็นมื้อที่ขำสุดๆ แถมได้อาหารอร่อยเป็นของแถมกลับบ้านไปด้วยค่ะ ใครเคยมีโมเมนต์แบบนี้บ้าง มาเล่าให้ฟังบ้างนะ! 😂 ส่งท้าย ไม่ว่าจะไปที่ไหน ขอแค่เตรียมตัวดีๆ และไม่ลืมสนุกกับการเดินทาง อ้อมเชื่อว่าเราจะผ่านทุกสถานการณ์ไปได้ค่ะ แค่พกความมั่นใจ ใจดี และยิ้มกว้างๆ! ✈️ อ้างอิง ภาพโดยผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !