สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมารีวิวเกี่ยวกับโรงเรียนทุนสายการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ ชื่อดัง โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยปทุมธานีกันครับผม ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อนนะครับว่าทำไมผมถึงมารีวิวโรงเรียนแห่งนี้ได้ผมชื่อ เพทาย เป็นนักเรียนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยปทุมธานี ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2557-2564 เป็นนักเรียนรุ่นที่ 20-23 พูดง่ายๆคือผมเรียนที่นี่มา 6 ปีแล้วล่ะครับ ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าผมรู้ทุกซอกทุกมุมของที่นี่ ถ้าพร้อมแล้วเราไปเริ่มทำความรู้จักกับโรงเรียนแห่งนี้กันเลยดีกว่า เริ่มจากประวัติคร่าวๆนะครับ โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยปทุมธานี ตั้งอยู่ที่ อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ในที่นี้จะขอเรียกสั้นๆว่าโรงเรียนจุฬาภรณ์นะครับ โรงเรียนจุฬาภรณ์เป็นโรงเรียนทุนที่เน้นความเข้มข้นทางวิชาการในด้านวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีความพร้อมเพื่อเป็นนักประดิษฐ์ นักคิดค้น นักวิจัย ซึ่งมีทั้งหมด 12 ที่ ทั่วประเทศ ซึ่งทำการเรียนการสอนมามากกว่า 20 ปีแล้ว และสิ่งที่ไม่รู้ไม่ได้เลยคือโรงเรียนเราเป็นโรงเรียนประจำนะครับ โดยนักเรียนจะได้กลับบ้านสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งแต่ละจุฬาภรณ์ก็จะแตกต่างกันไปนะครับมาพูดถึงการสอบเข้ากันดีกว่า โดยปกติแล้วเราจะต้องสอบถึงสองรอบด้วยกันทั้ง ม.1 และ ม.4 รอบแรกจะเป็นข้อสอบสสวท.ซึ่งก็จะยากนิดนึง ส่วนใครสามารถผ่านรอบแรกมาได้ก็จะต้องมาสอบรอบสองที่โรงเรียน โดยจะเป็นข้อสอบของกลุ่มโรงเรียนเอง ซึ่งเป็นข้อเขียนนะครับ อาจจะไม่ยากแต่ต้องเน้นการวิเคราะห์พอสมควรเรามาพูดถึงสิ่งที่ทำให้ใครหลายๆคนสนใจบ้างดีกว่ากับเรื่องของทุน โดยใครที่ตัดสินใจจะเข้ามาเรียนที่นี่จะได้รับทุนคิดออกมาได้ตกคนละ 84,000 บาทเลยล่ะครับ แต่ 84,000 เนี่ยหมายถึง ค่าเสื้อ ค่าตู้ ค่าเทอม ค่าอาหาร อะไรทุกอย่างเบ็ดเสร็จทั้งสามปีแล้วนะครับ ในส่วนของค่าอาหารเราจะได้ตามวันที่มีการเรียนเลยครับวันละ 100 บาท ก็อยู่ที่ประมาณเดือนละ 2,000 บาท โดยเราจะมีบัตรประจำตัวอยู่สามารถไปรับเงินได้ที่จุดเติมเงิน เวลาจะซื้อของก็แค่แตะบัตรเท่านั้น เรียกได้ว่ากินฟรีอยู่ฟรีเลยครับ แล้วก็โรงอาหารของเรามีทั้งเครื่องปรับอากาศ พัดลม แล้วก็โทรทัศน์เลยนะครับ อาหารก็มีให้เลือกมากมาย มีมินิมาร์ทอยู่ใกล้ๆ แล้วล่าสุดก็มีคาเฟ่ เดอะ ศาลา ให้ไปนั่งชิลๆกันได้นะครับโรงเรียนเราล้อมรอบด้วยท้องนา ถือว่าห่างไกลความเจริญพอสมควร ไม่ต้องกลัวเลยว่าเด็กจะโดดไปไหนได้(แต่โดดเรียนไปเดินเล่นอันนี้อีกเรื่องนะครับ) แต่ในโรงเรียนเราก็มีให้พร้อมทุกอย่างนะครับ ไม่อดตายแน่ๆ บรรยากาศก็ดี อากาศปลอดโปร่งต่างกับในเมื่องเลยห้องเรียน 1 ห้องจะมี 24 คน โดย ม.ต้น จะมีสายชั้นละ 4 ห้อง ก็สายชั้นละ 96 คน ส่วนม.ปลาย จะมีสายชั้นละ 6 ห้อง ก็สายชั้นละ 144 คน ถือว่าน้อย ทำให้การดูแลเข้าถึงได้ง่าย เราก็จะได้รับความรู้ไปเต็มๆเลยล่ะครับ แล้วทุกห้องมีเครื่องปรับอากาศหมดนะครับ เหมาะแก่การนอน เอ้ย! การเรียนเอามากๆ ห้องแล็ปเราก็มีเยอะเช่นกันพร้อมอุปกรณ์ทำแล็ปอีกเพียบ หลังห้องก็มีล็อกเกอร์สำหรับเก็บของของแต่ละคนเลย มีชั้นวางรองเท้าให้ตามเลขที่ด้วย แล้วที่ห้องเรียนจะมีโปรเจคเตอร์ทุกห้องเพื่อรองรับสื่อการเรียนจากคุณครูนะครับพูดถึงเรื่องหอพักกันดีกว่า หอพักจะมีทั้งหมด 6 หอนะครับ โดยเป็นหอชาย 3 หอ คือ หอพักโกเมน(หอม่วง) หอพักนิลปัทม์(หอเขียว) และหอพักนิลกมล(หอน้ำตาล) และหอหญิงอีก 3 หอ คือ หอพักบุษกร(หอฟ้า) หอพักบัวชมพู(หอชมพู) และหอพักบัวอุบล(หอเหลือง) ด้วยความที่เราเป็นเด็กหอ ต้องอยู่กับเพื่อนๆตลอดทั้งวัน เราจะสนิทกับเพื่อนมากๆเลย เรียกได้ว่าเป็นคนในครอบครัวเลยครับ อยู่ในหอนอกจากจะมีเพื่อนแล้วเรายังได้อยู่กับพี่ๆน้องๆกันอีกด้วย ซึ่งพี่ๆก็จะดูแลน้องๆอย่างใกล้ชิด ให้คำแนะนำต่างๆ และคอยดูแลเราอยู่เสมอ และอีกคนที่จะคอยดูแลเราที่หอก็คือครูหอ สามารถปรึกษาชิวิตที่นี่กับครูหอได้เลยครับ อบอุ่นมากๆส่วนถ้าใครชอบเล่นกีฬาก็ไม่ต้องห่วงเพราะเรามีทั้งสนามฟุตบอล ฟุตซอล วอลเลย์บอล บาสเก็ตบอล มีโรงยิมสำหรับกีฬาในร่มทั้งปิงปอง แบตมินตัน และก็อีกเยอะแยะเลยครับ มีฟิตเน็ต แล้วก็มีที่ให้วิ่งทั่วโรงเรียนเลยเรื่องของกิจกรรมอื่นๆนอกจากการเรียนก็มีเยอะเลยทั้งนาฏศิลป์ การแสดง กีฬา วงดนตรี การแข่งขันความสามารถต่างๆ หรือการเต้นโคฟเวอร์ ก็มีมาให้ร่วมกิจกรรมกันอยู่บ่อยๆ เพราะเราเป็นโรงเรียนประจำก็จะมีการจัดงานกลางคืนอยู่บ่อยๆ ทั้งงานตามเทศกาล เช่น ลอยกระทง หรืองานประกวดความสามารถ ถ้าเราได้มาอยู่ที่นี่รับรองว่าสนุกแน่นอน กีฬาสีก็มีจัดประจำปี ยิ่งไปกว่านั้นยังมีกีฬาสานสัมพันธ์หรือกีฬาเครือที่เราจะได้ไปแข่งกีฬากับจุฬาภรณ์อื่นทั้ง 12 จุฬาภรณ์ด้วยส่วนเรื่องของวิชาการเนี่ยเราเป็นระดับท็อปของประเทศอยู่แล้วครับ มีผลสัมฤทธิ์ทั้งคะแนนo-net คะแนนข้อสอบpisa และก็อื่นๆที่อยู่ในระดับต้นๆของประเทศ แถมโรงเรียนเรายังได้รับรางวัลการแข่งขันมามากมายทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ เช่น โครงงาน เป็นต้น และนักเรียนโรงเรียนเราเป็นเด็กสอวน.เยอะมาก ถึงขั้นเป็นตัวแทนประเทศก็มี เนื้อหาการเรียนการสอนเราก็เกินหลักสูตรจากโรงเรียนอื่นไปด้วย แถมยังมีอาจารย์และพี่ๆที่มีความรู้สามารถติวหรือเรียนเพิ่มเติมได้ทั้งตอนเย็นและกลางคืน ส่วนโครงงานเราก็ต้องทำกันทุกคนนะครับเพราะอยู่ในหลักสูตร พอทำเสร็จโรงเรียนก็จะพาไปแข่งด้วย แต่ถ้าเราตั้งใจจริงๆเราก็มีโอกาสได้ผลงานในระดับนานาชาติติดไม้ติดมือไปด้วย เช่น อาจจะได้ไปแข่งที่อินโดนีเซีย จีน หรือยุโรป เป็นต้นแล้วด้วยความที่โรงเรียนเรามีความสัมพันธ์กับโรงเรียนในญี่ปุ่นค่อนข้างเยอะ ฉะนั้นก็จะมีนักเรียนและอาจารย์จากญี่ปุ่นมาศึกษาดูงาน และพักค้างที่โรงเรียนเราค่อนข้างบ่อย ถ้าเราเป็นคนที่คล่องภาษาก็สามารถไปช่วยงานรับญี่ปุ่นกับอาจารย์ได้นะครับ ถือเป็นโอกาสที่จะได้เพื่อนเป็นคนญี่ปุ่นด้วยพูดถึงการใช้ชีวิตที่นั่นเป็นอะไรที่ดีมากๆเลยครับ เราได้เข้าไปเรียนรู้อะไรใหม่ๆเหมือนเริ่มตั้งแต่ 0 เพราะตอนเข้าไป ม.1 เราก็เป็นน้องเล็กสุด ได้ลองใช้ชีวิตด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพ่อแม่ อะไรที่ไม่เคยทำก็ได้ลองทำ พอเราเริ่มโตไปเรื่อยๆมันก็คือการที่เราได้รู้ได้เห็นอะไรมากขึ้นด้วย พอเราเริ่มมีรุ่นน้อง จากการที่เราเป็นผู้รับอย่างเดียวเราก็ต้องเริ่มเป็นผู้ถ่ายทอดประสบการณ์ให้รุ่นน้องต่อไปเรื่อยๆ มันเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เรารักกัน เราอยู่แบบพี่น้อง ที่นี่เราแทบจะรู้จักกันทั้งโรงเรียน เราจะได้รู้จักกับมิตรภาพดีๆ เพื่อนที่ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ทิ้งกันตอนที่อยู่ที่นี่รับรองว่าสนุกครับ เราอาจจะเห็นรุ่นพี่ได้ทำอะไรหลายๆอย่าง แล้วเราก็จะรอว่าเมื่อไหร่จะได้ทำอย่างพี่ๆบ้าง เราอาจจะเติบโตไปพร้อมกับความคิดที่ว่ายังมีที่ไหนบ้างที่เราไม่เคยไปในโรงเรียน เราอาจจะได้ฟังเรื่องผีจากพี่ๆที่หอจนกระทั่งเราเติบโตจนถึงคราวที่เราต้องเล่าให้น้องๆฟังบ้าง และที่นี่ก็มักจะมีวัฒนธรรมบางอย่างที่ไม่เหมือนกับที่อื่นด้วย เช่น พิธีรับเข็ม การนั่งโต๊ะอาหาร การรวมหอ การซื้อชานมที่ปั๊ม และก็อีกเยอะเลย แล้วก็เครื่องแบบที่เรามีแตกต่างจากที่อื่นเลยก็คือเครื่องแบบพิธีการ ไว้ใช้เมื่อมีพิธีสำคัญ เช่น รับเข็ม ปัจฉิม งานเฉลิมพระเกียรติ เป็นต้นตอนที่เข้ามาแรกๆเราอาจจะยังต้องปรับตัวอยู่บ้าง แต่พอเราปรับตัวได้บางคนนี่แทบไม่อยากกลับบ้านเลยครับ คำว่าเพื่อนในสถานที่แห่งนี้มันเป็นมากกว่าคำว่าเพื่อน เราต้องผ่านช่วงเวลาทั้งสุขและทุกข์ ทั้งเฮฮาและยากลำบาก ทุกสิ่งทุกอย่างมันหลอมรวมให้เรากลายเป็นครอบครัว นี่คือสิ่งที่ผมกล้ารับประกันเลยครับว่าเราจะได้มันไม่แพ้กับวิชาการเลย โดยเฉพาะคนอย่างผมที่อยู่มาถึง 6 ปี จากสถานที่ที่ไม่เคยรู้จักจนกระทั่งผมเรียกมันว่าบ้านได้เต็มปากตอนเข้ามาครั้งแรกเราจะรู้สึกแบบนึง แต่ตอนที่เราจะจบเราจะรู้สึกอีกแบบนึงครับ ตอนเข้ามามันคือความตื่นเต้นที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แต่ตอนจบมันคือช่วงเวลาแห่งคราบน้ำตาเพราะเราจะคิดถึงทุกช่วงเวลาที่ได้ใช้ในสถานที่แห่งนี้ และต้องจากบ้านหลังนี้ไปถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้สามารถสอบถามได้ตามช่องทางนี้เลยนะครับIg : ppp_paetinefacebook : Panupong Paetineyoutube channel : 6P Protectionสุดท้ายนี้พี่ก็ยินดีต้อนรับน้องๆทุกคนนะครับที่ตัดสินใจเข้ามาสู่รั้วแคแสด โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยปทุมธานี สถานที่ที่ไม่ได้สอนแค่วิชาการแต่ยังเป็นบ้านให้กับพวกเรา ขอให้โชคดีและมีความสุขนะครับภาพ นักเขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !