ทำความรู้จัก “อาชีพนักจัดปาร์ตี้” จัดทั้งทีต้องเอาให้ปัง ถ้ามองหาอาชีพที่สร้างรายได้และสร้างความสุขให้กับใครหลาย ๆ คน อาชีพนักจัดปาร์ตี้ก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ไม่ควรมองข้าม เป็นอาชีพที่สร้างความทรงจำที่ดีทำให้ช่วงระยะเวลาหนึ่งของชีวิตมีสีสันเพิ่มมากขึ้น และเป็นที่น่าจดจำต่อใครหลาย ๆ คน นอกจากจะสรรค์สร้าง Happiness ทั้งยังสร้างรายได้เป็นหลักหมื่น หลักแสน ไปจนถึงหลักล้านอีกด้วย เราเริ่มไปทำความรู้จักอาชีพนักจัดปาร์ตี้กันเลย ! อาชีพนักจัดปาร์ตี้เป็นอาชีพที่คล้าย ๆ ออแกไนซ์ คือการดูภาพรวมของทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นออแกไนซ์สถานที่ ออแกไนซ์คน ออแกไนซ์หลาย ๆ อย่างก่อนที่งานจะเกิดขึ้น รวมไปจนถึงเมื่องานจบแล้วเราก็ต้องออแกไนซ์งานทุกอย่างให้มันจบเรียบร้อย การทำงานโดยของอานักจัดปาร์ตี้คือ การพูดคุยกับลูกค้าเพื่อรับบรีฟ ทำความเข้าใจลูกค้า เมื่อได้รับบรีฟงานแล้ว หลังจากนั้นก็เรียบเรียงบรีฟต่าง ๆ แบ่งออกมาเป็นส่วน ๆ เพื่อดูสโคปของงาน และบัดเจทของลูกค้าว่าสามารถเป็นไปได้ไหม และแบ่งหน้าที่จัดปาร์ตี้แต่ละคนในการทำงาน ในการทำงานนักจัดปาร์ตี้ที่ดีก็คือต้องมองภาพรวมให้ได้ว่าอะไรสำคัญที่สุด บัดเจทสำคัญที่สุดหรือในส่วนการดำเนินการหรือขั้นตอนต่าง ๆ สำคัญที่สุด เราต้องเป็นคนบอกลูกค้าได้ ว่าอันไหนคือซ้ายอันไหนคือขวา ที่เหลือลูกค้าอาจจะเป็นคนตัดสินใจเอง ซึ่งถ้าเป็นนักจัดปาร์ตี้ที่ดีคือพรุ่งนี้ต้องสามารถให้คำตอบลูกค้าได้ เพื่อให้งานดำเนินต่อไปได้จนจบ นั้นคือสิ่งที่สำคัญ ทั้งนี้อาชีพนักจัดปาร์ตี้ยังมีความสำคัญและยังประโยชน์กับคนในสังคมอีกด้วย คือการได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในช่วงเวลาของชีวิต ได้สร้างเมมโมรี่ความทรงจำที่ดีในการดำเนินชีวิต โดยเป็นส่วนหนึ่งในการสรรค์สร้างช่วงระยะเวลาหนึ่งทำให้รู้สึกว่าชีวิตมันมีสีสัน เพราะฉะนั้นคนที่เข้ามาหาเราอาจจะมีช่วงเวลาที่จดจำเป็นช่วงเวลานั้นที่จดจำ เช่น วันเกิดปีนี้คุณย่าอายุ 72 ปี มันเป็นส่วนหนึ่งที่เราทำให้เขาจำวันเกิดของเขาได้จากตรีมจาก Decoration จากอะไรก็ตาม มันเป็นการส่งผ่าน Happiness ไปในความทรงจำของเขา ในส่วนของรายได้ที่ได้รับนั้นไม่สามารถประมาณได้ เพราะขึ้นอยู่กับงานที่เข้ามา บางโปรเจคเข้ามาหน่วยเป็นหลักหมื่น บางโปรเจคก็เป็นหลักแสนหลักล้าน ขึ้นอยู่กับว่าเป็นงานขนาดไหน ไม่ใช่ว่างานใหญ่จะได้เงินเยอะ ไม่ใช่ว่างานเล็กจะได้เงินน้อย ทุกงานมีความแปรผันของมันอยู่ ขึ้นอยู่กับว่าเราจัดเป็นลักษณะไหน แต่ทุกงานจะต้องมีกำไรอย่างน้อย 30% การจัดการเงินในบริษัทในแต่ละเดือน ก็คือการทำบัญชี การทำบัญชีเราก็ต้องรู้ว่าอะไรสำคัญที่สุดหรือรู้ว่ารายรับรายจ่ายของเราคืออะไร และต้องรู้ว่าแต่ละโปรเจคเราจะ Spend เงินออกเป็นเท่าไหร่กี่เปอร์เซ็น เครดิตข้อมูล : คุณรัตนนันท์ กิติวัฒน์ ตำแหน่ง หนึ่งในหุ้นส่วน The Party Setterภาพประกอบกราฟิก : เว็บ freepikภาพแต่งโดย : นักเขียนภาพโดย : เพจ The Party Setter