ไอทียักษ์ใหญ่ขยับ ผนึกต้านจีนใช้กฎหมายความมั่นคง เซ็นเซอร์อินเตอร์เน็ตฮ่องกง

ไอทียักษ์ใหญ่ขยับ - วันที่ 7 ก.ค. เอเอฟพี รายงานความเคลื่อนไหวสถานการณ์การเมืองในฮ่องกงว่า ทางการจีนเริ่มใช้อำนาจตามกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ในฮ่องกงแล้วเพื่อเซ็นเซอร์และเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานทั่วเกาะ แต่ถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากบรรดาผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของโลกจากสหรัฐอเมริกา ขณะที่ทางการสหรัฐประณามการใช้อำนาจดังกล่าวของจีน และเตรียมพิจารณาคว่ำบาตรต่อบรรดาแอพพลิเคชั่นต่างๆ จากจีน รวมถึงแอพวิดีโอดาวรุ่งอย่างติ๊กต็อก (TikTok) ด้วย

รายละเอียดดังกล่าวถูกบรรจุไว้ในเอกสาร 116 หน้าของกฎหมายความมั่นคงข้างต้นที่เพิ่งเปิดเผยต่อสาธารณะ เผยอำนาจมากขึ้นของตำรวจ เช่น การบุกค้นโดยไม่ต้องอาศัยหมายศาลและการติดตามในทางลับกรณีคดีความมั่นคงของจีน นอกจากนี้ บรรดาผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตและเครือข่ายการสื่อสารจะต้องให้ความร่วมมือกับทางการ หากได้รับคำสั่งมอบข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานอย่างสมบูรณ์ ทางการอาจอายัดทรัพย์สินของให้บริการได้ และผู้บริหารอาจได้รับโทษสูงสุดจำคุก 1 ปี หากไม่ให้ความร่วมมือ

นายไมก์ พอมเพโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ประณามขอบเขตอำนาจตามกฎหมายใหม่ของจีนเป็นเผด็จการเพื่อจัดการกับนักรณรงค์ และการถกเถียงวิชาการ ฮ่องกงมีความเจริญก้าวหน้ามาได้ถึงวันนี้เพราะมีเสรีภาพความคิดและการแสดงความคิดเห็น รวมทั้งอำนาจตุลาการที่เป็นอิสระ แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว นอกจากนี้ นายพอมเพโอระบุว่าด้วยว่า สหรัฐกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาแบนแอพจากจีน แน่นอนรวมถึงติ๊กต็อก ที่ทางการอินเดียเพิ่งแบนเนื่องจากกังวลว่าอาจกระทบต่อความมั่นคง

นางแคร์รี หล่ำ ประธานคณะผู้บริหารเกาะฮ่องกง ระบุว่า จะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายฉบับใหม่จากจีนอย่างเด็ดขาด ฝากเตือนไปยังบรรดาผู้คิดจะท้าทายกฎหมายว่า หากละเมิดแล้วโทษทัณฑ์สาหัสมาก มีโทษสูงสุดถึงจำคุกตลอดชีวิต

อำนาจดังกล่าวตามกฎหมายใหม่ของจีนที่เข้ามาบังคับใช้ในฮ่องกงส่งผลให้เกิดแรงต่อต้านอย่างรุนแรงทันทีจากบรรดาผู้ให้บริการโซเชียลยักษ์ใหญ่ของโลกที่ดำเนินกิจการอยู่ในฮ่องกง อาทิ เฟซบุ๊ก กูเกิ้ล และทวิตเตอร์ ระบุว่า จะระงับการพิจารณาคำขอข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้บริการของค่ายจากหน่วยงานและตำรวจฮ่องกงทั้งหมดทันที

แถลงการณ์ของเฟซบุ๊กระบุว่า เฟซบุ๊กและว็อตส์แอพจะระงับการพิจารณาคำขอข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้จากหน่วยงานฮ่องกงระหว่างการพิจารณารายละเอียดกฎหมายใหม่ดังกล่าวว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เพราะเสรีภาพการแสดงออกโดยไม่ต้องเกรงกลัวต่อการลงโทษและสวัสดิภาพ ถือเป็นเสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษย์ที่เฟซบุ๊กส่งเสริมและเชื่อมั่น

เช่นเดียวกันกับทวิตเตอร์ และกูเกิล ระบุว่า จะยุติความร่วมมือกับหน่วยงานฮ่องกงอย่างไม่มีกำหนด ขณะที่แอพติ๊กต็อก ซึ่งเป็นแอพผู้ให้บริการวิดีโอที่กำลังมีแนวโน้มได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว พัฒนาโดยบริษัท ไบต์แดนซ์ จากจีน ระบุว่าจะยุติการธุรกิจในฮ่องกง ไบต์แดนซ์นั้นมีจุดยืนต่อต้านการส่งมอบข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้ให้ทางการจีนมาตลอด