"ไบเดน" ประกาศพร้อมตอบโต้หากเกาหลีเหนือยังดื้อดึงยิงขีปนาวุธ

วันนี้( 26 มี.ค.64) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ แถลงว่า สหรัฐฯยังคงเปิดกว้างสู่การแก้ปัญหาทางการทูตกับเกาหลีเหนือแม้ว่าจะทดสอบยิงขีปนาวุธ 2 ครั้งซ้อนในสัปดาห์นี้ แต่ก็เตือนว่าสหรัฐฯจะตอบโต้หากเกาหลีเหนือยังดื้อดึงที่จะยกระดับความตึงเครียด โดยไบเดน บอกว่า การทดสอบยิงขีปนาวุธต้องสงสัยของเกาหลีเหนือถือเป็นการละเมิดมติ 1718 ของสหประชาชาติ ซึ่งเป็นมาตรการในปี 2006 ที่องค์กรโลกแห่งนี้ใช้คว่ำบาตรเกาหลีเหนือ กรณีการทดสอบยิงขีปนาวุธและทดลองอาวุธนิวเคลียร์

ไบเดน กล่าวอีกว่า สหรัฐฯกำลังปรึกษาหารือกับบรรดาประเทศพันธมิตรและหุ้นส่วนและจะตอบโต้หากเกาหลีเหนือเลือกที่จะทดลองขีปนาวุธเพิ่มอีก อย่างไรก็ตามพร้อมที่จะแก้ปัญหาทางการทูตเช่นกัน แต่ก็ต้องมีเงื่อนไขผลสุดท้ายคือเกาหลีเหนือต้องยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเขาอ้างถึงความพยายามของสหรัฐฯในการโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือยกเลิกอาวุธนิวเคลียร์

ไม่นานหลังไบเดนแถลง เจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐประจำยูเอ็น แถลงว่า คณะกรรมการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น จะจัดการประชุมกันในวันศุกร์นี้ ตามคำเรียกร้องของสหรัฐฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับการทดลองขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นมาตรการตอบโต้โดยรัฐบาลของไบเดน ต่อการทดลองขีปนาวุธครั้งแรกของเกาหลีเหนือตั้งแต่ไบเดนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่การประชุมครั้งนี้ ะเป็นระดับต่ำกว่าที่เคยจัดขึ้นหลังเกาหลีเหนือทดลองขีปนาวุธครั้งสุดท้ายเมื่อหนึ่งปีก่อน

ทั้งนี้ เกาหลีเหนือทดลองขีปนาวุธต้องสงสัย 2 ลูกตกในทะเลใกล้ญี่ปุ่นในวันพฤหัสบดี ตอกย้ำให้เห็นความก้าวหน้าในโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ และเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลไบเดน ขณะรัฐบาลสหรัฐฯทบทวนนโยบายเกาหลีเหนือ ซึ่งขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการทบทวนนโยบาย หลังรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ซึ่งล้มเหลวที่จะโน้มน้าวให้รัฐบาลเปียงยางล้มเลิกอาวุธนิวเคลียร์ 

รัฐบาลสหรัฐฯชุดปัจจุบัน แสดงท่าทีแข็งกร้าวอย่างต่อเนื่องต่อปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน, การปลดอาวุธนิวเคลียร์และมาตรการคว่ำบาตร ขณะเดียวกัน ก็พยายามที่จะแก้ปัญหาทางการทูต ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า เกาหลีเหนือเมินเฉยต่อเรื่องนี้