รีเซต

ตลท.เปิดเป้าหมายคาดหวัง ยกระดับกำกับชอร์ตเซล-โปรแกรมเทรด

ตลท.เปิดเป้าหมายคาดหวัง  ยกระดับกำกับชอร์ตเซล-โปรแกรมเทรด
ทันหุ้น
27 กุมภาพันธ์ 2567 ( 19:01 )
23

#ตลท.#ทันหุ้น -ตลาดเปิดเป้าหมายคาดหวัง  ยกระดับกำกับชอร์ตเซล-โปรแกรมเทรด  คาดเริ่มทยอยบังคับใช้ ไตรมาส2/67 "คุณสมบัติหุ้นที่ขายชอร์ต-

-เปิดเผยข้อมูลข้อมูลนักลงทุนที่มีพฤติกรรมส่งคำสั่งซื้อขายไม่เหมาะสม-เพิ่มโทษสมาชิกกระทำผิดชอร์ตเซล 3 เท่า" 

 

จากที่คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้ความเห็นชอบมาตรการเพิ่มเติมเพื่อที่จะยกระดับการกำกับดูแลการขายชอร์ต และการใช้คอมพิวเตอร์ส่งคำสั่งซื้อขายหรือโปรแกรมเทรดดิ้ง พร้อมทั้งการปรับเพิ่มมาตรการการเปิดเผยข้อมูลแก่สาธารณชน 

 

นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมาย และ หัวหน้ากลุ่มงานเลขานุการองค์กร และกำกับองค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ได้แบ่งตามเป้าหมายที่คาดหวังเป็น 3 กลุ่มหลักดังนี้ 

 

กลุ่มที่ 1 มาตรการเกี่ยวกับการลดความผันผวนที่ผิดปกติของราคาหลักทรัพย์

 

กลุ่มที่2 มาตรการเกี่ยวกับดูแลพฤติกรรมซื้อขายที่ไม่เหมาะสม 

 

กลุ่มที่ 3 มาตรการที่เป็นการเพิ่มความคุ้มครองผู้ลงทุน 

 

1.มาตรการเกี่ยวกับการลดความผันผวนที่ผิดปกติของราคาหลักทรัพย์

สำหรับการทบทวนคุณสมบัติของหลักทรัพย์ที่สามารถขายชอร์ตได้นั้น โดยจะต้องมีมาร์เก็ตแคปเป็น 7,500 ล้านบาท จากเดิม 5,000 ล้านบาท และมีปริมาณการซื้อขายต่อเดือนเทียบกับจำนวนหุ้นทั้งหมดมากกว่า 2% ซึ่งจะทำให้มีหุ้นที่สามารถขายชอร์ตได้เหลือจำนวน 231 หุ้น จากปัจจุบันที่มี 292 หุ้น

 

2 มาตรการเกี่ยวกับดูแลพฤติกรรมซื้อขายที่ไม่เหมาะสม 

 

 

3. มาตรการที่เป็นการเพิ่มความคุ้มครองผู้ลงทุน

นายรองรักษ์ กล่าวว่า  กล่าวว่า มาตรการยกระดับกำกับชอร์ตเซล และProgram Trading คาดว่าเกณฑ์ที่จะสามารถบังคับใช้ภายในไตรมาส2 และไตรมาส3 ปี 2567 เช่น 1. การกำหนดคุณสมบัติของหุ้นที่สามารถขายชอร์ตได้

 

2.การเปิดเผยข้อมูลข้อมูลนักลงทุนที่มีพฤติกรรมสั่งคำสั่งซื้อขายไม่เหมาะสมให้แก่สมาชิกทุกรายเพื่อใช้พิจารณาดำเนินการกับนักลงทุนรายนั้นในทิศทางเดียวกัน 

 

3.การเพิ่มโทษปรับสำหรับสมาชิกกณรีกระทำผิดเกี่ยวกับขายชอร์ตเป็น 3 เท่า ฯลฯ

 

ส่วนมาตรการลดความผันผวนที่ผิดปกติของราคาหุ้น และมาตรการกำกับดูแลพฤติกรรมการซื้อขายไม่เหมาะสมนั้น ตลาดหลักทรัพย์จะบังคับใช้เป็นการทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะแต่โปรแกรมเทรด และคาดว่าจะมีความชัดเจนได้ในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 เช่น เพิ่ม Circuit Breaker รายหุ้นที่ +/- 10%ของราคาซื้อขายล่าสุด (หรือ Dynamic price band) เพื่อไม่ให้ราคาผันผวนเร็วเกินไป ,เพิ่ม Auto halt รายหุ้น กรณีมีจำนวนหุ้นรวมในคำสั่งมากกว่าที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดคิดเป็นกี่% ของ Free float shares เพื่อป้องกันการจับคู่ของคำสั่งซื้อขายที่อาจผิดปกติ

 

สำหรับการกำกับขึ้นต่ำของ order ก่อนที่จะสามารถยกเลิกคำสั่ง (minimum restingtime) เพื่อป้องกันการใส่ถอนคำสั่งที่ถี่เกินไป  Central order screening เพื่อเป็นระบบกลางในการคัดกรองคำสั่งซื้อขายที่ไม่เหมาะสม  การจัดให้มี Central Platform ในการ check หลักทรัพย์ก่อนขาย เพื่อใช้เป็นแหล่งข้อมูลกลางสำหรับบริษัทสมาชิกและตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการตรวจสอบการมีอยู่ของหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนก่อนขาย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง