สาธิต เผยเปิดปท.14 วัน พบ นทท.ติดเชื้อ 0.08% ยังห่วงคลัสเตอร์แรงงาน-ลอยกระทง
เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด- 19 ในพื้นที่ จ.กระบี่ ว่า วันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 86 ราย สะสม 8,800 ราย เสียชีวิต 39 ราย คิดเป็น ร้อยละ 0.43 การระบาดเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนถึงปลายเดือนตุลาคม ขณะนี้แนวโน้มลดลง โดยช่วง 20 วันที่ผ่านมา มีผู้ป่วยรายวันไม่เกิน 100 ราย สัดส่วนไม่เกิน 20 ต่อแสนประชากร การติดเชื้อช่วงหลังเป็นกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ส่วนผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดเป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว ไม่ได้รับวัคซีน โดยมีเพียง 3 ราย ที่เสียชีวิตจากการรับวัคซีน โดยฉีดเข็มเดียว 2 ราย และฉีดครบ 2 เข็ม 1 ราย
นายสาธิต กล่าวว่า สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 สามารถฉีดได้ 635,938 โดส แบ่งเป็น เข็มแรก 340,468 โดส หากพิจารณาจากทะเบียนราษฎร์ที่มีประชากร 5.03 แสนคน คิดเป็น ร้อยละ 67.57 ของประชากร แต่หากยึดตามฐานข้อมูล Health Data Center ของ MOPH IC และหมอพร้อมที่มีประชากรจริง 4.7 แสนราย ถือว่าเข็มแรกฉีดได้ ร้อยละ 71 สำหรับเข็มที่ 2 ฉีด 273,568 โดส คิดเป็นร้อยละ 54.3 และเข็มที่ 3 จำนวน 21,944 โดส คิดเป็น ร้อยละ 85.8 ของผู้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม จำนวน 25,575 โดส
“ในการเปิดประเทศนั้น กรณีนักท่องเที่ยวเข้ามาผ่านระบบ พบติดเชื้อเพียงร้อยละ 0.08 ถือว่าน้อย เพราะตรวจจับได้ ที่ห่วงคือ เมื่อเปิดประเทศมีการจ้างงานแรงงานต่างด้าว ต้องระมัดระวัง รวมถึงคลัสเตอร์ใหม่ๆ โดยเฉพาะประชาชนผ่อนคลายจากการอัดอั้นมานาน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลลอยกระทงที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ ก็อยากจะสื่อสารเพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่าถ้าทำสำเร็จ การรักษาวินัย ฉีดวัคซีนครอบคลุม โฟกัสกลุ่มเสี่ยง คิดว่า 14 วันนี้ ถ้าเรากลั้นใจอดทน รักษามาตรการ 14 วันนี้เราจะผ่านไปได้ไม่สะดุด” นายสาธิต กล่าว
รัฐมนตรีว่าการ สธ. กล่าวอีกว่า สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร วันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ ในส่วนของ สธ.จะเสนอ 2 เรื่อง คือ 1.การพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่ เนื่องจากการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินไป จ.ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ใช้เวลาไปจังหวัดละ 2 ชั่วโมงกว่า ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) จะเป็นเซ็นเตอร์ในการบริหารระบบ EMS และ 2.พัฒนาศักยภาพ รพ.กระบี่ เพื่อรองรับการดูแลผู้ป่วยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเพิ่มห้องผ่าตัดและไอซียู เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว
“นอกจากนี้ ในระยะถัดไปอยากจะขอโอกาสพัฒนา จ.กระบี่ ในส่วนของเกาะลันตา เป็น Wellness Center เนื่องจากช่วงฤดูหนาวจะมีชาวต่างชาติ โดยเฉพาะแถบสแกนดิเนเวียเดินทางไปพักผ่อนระยะยาว และส่งบุตรหลานไปเรียนโรงเรียนนานาชาติ แต่ไม่สามารถพาผู้สูงอายุไปอยู่ได้ เนื่องจากระบบการดูแลยังไม่เพียงพอ จึงต้องปรับเพิ่มศักยภาพให้มี Long Term Care โดยเชื่อมโยงกับน้ำพุร้อนคลองท่อม โดยส่งไปบำบัดฟื้นฟูหลอดเลือดสมอง และกลับไปพัก รพ. ซึ่งหากสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตาน้อยไปแผ่นดินแล้วเสร็จ จะใช้เวลาเดินทางเพียง 30 นาทีเท่านั้น” นายสาธิต กล่าว