เจอนร.-ผู้ปกครองติดแล้ว 19 ราย กลุ่มเสี่ยง 447 ราย สงสัยราวบันได-ประตูแพร่เชื้อ
เจอนร.-ผู้ปกครองติดแล้ว 19 ราย กลุ่มเสี่ยง 447 ราย สงสัยราวบันได-ประตูแพร่เชื้อ พร้อมประกาศหยุดเรียนกรณีพิเศษ 3 วัน โดยจะเปิดในวันที่ 29 พ.ย.64
วันที่ 23 พ.ย.64 ที่โรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์แห่งที่ 1 จ.อุตรดิตถ์ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มณฑลทหารบกที่ 35 โดยพ.อ.สมัย ขำพันธ์ ผอ.โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก นำทีมแพทย์ พยาบาล ออกปฏิบัติการคัดกรองตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เชิงรุก ด้วยรถชีวนิรภัยกองทัพบก ให้กับคณะครู และนักเรียนกลุ่มเสี่ยง 447 ราย พร้อมคัดกรองสัมผัสเสี่ยงสูงเพื่อขอความร่วมมือกักตัว หลังพบนักเรียนและผู้ปกครองของโรงเรียนดังกล่าวติดเชื้อโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อนแล้ว 19 คน แยกเป็นนักเรียน 15 ราย ผู้ปกครอง 4 ราย ซึ่งไม่รวมนักเรียนที่ติดเชื้อ 1 รายที่โรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์แห่งที่ 2 ซึ่งเป็นคนละคสัสเตอร์กัน
ขณะเดียวกันนายมงคล รุณธาตุ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1 ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบ การดำเนินงานตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ของโรงเรียนดังกล่าว โดยมีนายศักดิ์สิทธิ์ สิงห์ทอง ผอ.โรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์ พร้อมคณะครู ให้ข้อมูลตั้งแต่การการผ่านเครื่องเทอร์โมสแกน มูลค่าราว 5 แสนบาทของนักเรียนทุกคนที่บริเวณประตูทางเข้า การตั้งจุดเจลแอลกอฮอล์ก่อนขึ้นอาคารเรียน และ ลักษณะของอาคารเรียนสองภาษา ซึ่งเป็นจุดพบนักเรียน ชั้น ป.2 ป.3 และ ป.5 ติดเชื้อจำนวน 15 รายติดเชื้อโควิด-19 โดยโรงเรียนประสานกองสาธารณสุขเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ เข้าฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ และระดมเจ้าหน้าที่ล้างทำความสะอาดทุกพื้นที่ของโรงเรียน พร้อมประกาศหยุดเรียนกรณีพิเศษ 3 วัน โดยจะเปิดในวันที่ 29 พ.ย.64
นายศุภมิตร ปาณธูป รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า หลังพบเด็กนักเรียน ป.3 โรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์แห่งที่ 1 ติดเชื้อโควิด-19 ทีมสอบสวนโรคจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์และโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ลงพื้นที่ทันทีติดตามกลุ่มนักเรียนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในห้องเรียนเดียวกันพบติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย และชั้น ป.2 จำนวน 7 คน ,ชั้น ป.5 จำนวน 1 คน ผู้ปกครองรวมทั้งคนขับรถตู้รับ-ส่งนักเรียน อีก 4 ราย รวมติดเชื้อคลัสเตอร์โรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์แห่งที่ 1 จำนวน 19 ราย มาจากหลายสาเหตุแต่จุดที่พบเชื้อ อยู่ในอาคารและสภาพแวดล้อมเดียวกัน คือเป็นอาคารเรียนสองภาษา
จากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ยอมรับว่า อาคารเรียนของคลัสเตอร์ ยังน่าเป็นห่วงเนื่องจากเป็นการนั่งเรียนใกล้ๆกัน จากสภาพห้องเรียนระยะห่างของโต๊ะและเก้าอี้ แต่ละคนไม่ถึง 1 เมตร ถือว่าคับแคบ และไม่ได้แบ่งชั้นเรียน หรือ สลับมาเรียน แต่เป็นการมาเรียนเต็มรูปแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อได้ จุดที่เป็นข้อสังเกตอีกอย่างคือ อาคารเรียนจุดพบผู้ติดเชื้อ มีจุดที่สัมผัสร่วมของนักเรียนคือ ราวบันได ด้วยบันได้มีความชัน ดังนั้นเด็กๆขึ้น-ลง ต้องเกาะราวทุกคน ประตูห้องเรียนเป็นแบบกระจกบานเลื่อน เข้า-ออกห้องเรียนเด็กๆ ต้องจับที่จับประตูเพื่อเปิด-ปิด ตู้ทำน้ำเย็น ดังนั้นต้องทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม อย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง
นายศุภมิตร กล่าวว่า ภาพโดยรวมตั้งแต่เปิดภาคเรียนที่ 2 วันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นมา พบนักเรียนนักศึกษาติดเชื้อแล้ว 45 ราย กระจาย 5 อำเภอ คือ เมือง ลับแล น้ำปาด ท่าปลา และ บ้านโคก โดย 27 รายติดเชื้อแล้วมาเรียนในโรงเรียน เป็นคลัสเตอร์โรงเรียนแล้ว 2 แห่ง คือ โรงเรียนชุมชนไผ่ล้อมวิทยา อ.ลับแล และ โรงเรียนอนุบาลอุตรดิตถ์แห่งที่ 1
ทั้งนี้ การคัดกรองด้วยเครื่องเทอโมสแกน ที่ใช้ตามจุดเข้าออกสถานที่ต่างๆนั้น ใช้เพื่อสแกนอุณหภูมิร่างกายเป็นการคัดกรองได้ระดับหนึ่งเท่านั้น ถ้าเด็กไม่มีไข้ ก็ไม่สามารถบ่งบอกได้ว่า เป็นป่วย ซึ่งการติดเชื้อในระยะหลังผู้ติดเชื้อมักไม่มีไข้ แต่การคัดกรองที่สำคัญคือ การประเมินอาการเสี่ยงของนักเรียนทุกวันโดยการซักถามก่อนเข้าห้องเรียนหรือโรงเรียน และติดตามเมื่อนักเรียนหยุดเรียน เน้นมาตรการป้องกัน 44 ข้ออย่างสม่ำเสมอ