รีเซต

JRซิวงาน“อมตะ บี.กริม” แบ็กล็อกเด้งชน5.5พันล.

JRซิวงาน“อมตะ บี.กริม” แบ็กล็อกเด้งชน5.5พันล.
ทันหุ้น
28 กันยายน 2564 ( 00:20 )
67
JRซิวงาน“อมตะ บี.กริม” แบ็กล็อกเด้งชน5.5พันล.

ทันหุ้น – JR คว้างานใหม่สร้างโรงไฟฟ้าของ อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 3 มูลค่ารวม 165.85 ล้านบาท ดัน Backlog เพิ่มแตะระดับ 5.5 พันล้านบท กินยาวกว่า 3 ปี เดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อีกเพียบ เน้นงานมาร์จิ้นสูง รอเปิดประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-สีชมพู เฟส 2 มูลค่า กว่า 6,000 ล้านบาท มั่นใจผลงานปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

 

นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู.ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JR เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาการจ้างงานในโครงการสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยขนาด 115 kVและ 22k V มูลค่าโครงการรวม 165.85 ล้านบาท (รวม vat) ซึ่งเป็นโครงการของ บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 3 จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง โดยมีระยะเวลาในการก่อสร้าง 15 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 64 - 19 ธ.ค. 65) ซึ่งเป็นประเภทงานวิศวกรรม ก่อสร้าง และงานจัดซื้อของโครงการ

 

*แบ็กล็อกแตะ 5.5 พันล.

โดยการได้งานในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนให้บริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มขึ้นแตะระดับ 5,500 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้ในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนที่จะเข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในไตรมาส 4/2564 ยังมีที่คาดว่าจะประมูลอีกราว 200 ล้านบาท โดยเป็นงานวางระบบไฟฟ้า 180 ล้านบาท และงานวางระบบสื่อสาร 19 ล้านบาท

 

ส่วนในช่วงปี 2565 คาดว่าจะยังมีงานที่จะเข้าประมูลอีกราว 7,000ล้านบาท แบ่งเป็นงานวางระบบไฟฟ้า 6,700 ล้านบาท และงานวางระบบสื่อสาร 480 ล้านบาท ดังนั้นสะท้อนให้เห็นว่า JR ยังคงมีผลงานที่เติบโตต่อเนื่องในระยะยาว

 

*เน้นงานมาร์จิ้นสูง

สำหรับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลัง 2564 ยังเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากมีงานในมือรอรับรู้รายได้ไว้แล้ว ขณะที่มีการประมูลงานโครงการใหม่เข้ามาเพิ่มเติมต่อเนื่อง เน้นงานโครงการที่มีมาร์จิ้นสูง รวมทั้งเพิ่มสัดส่วนงานขายอุปกรณ์มากขึ้นในระหว่างที่รอการเปิดให้ประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-สีชมพู เฟส 2 มูลค่า กว่า 6,000 ล้านบาท รวมทั้งปัจจุบันประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายอยู่ในระดับที่ดี ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถรักษาอัตราการทำกำไรไว้ได้เป็นอย่างดีและมั่นใจว่าผลงานในปี 2564 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

 

นอกจากนี้ บริษัทยังใช้ความเป็น Engineering Base และ IT Solution Base ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทในการขยายงานไปยังประเภท Oil&Gas มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีกลุ่มลูกค้าและรายได้เริ่มทยอยเข้ามาแล้ว โดยจากที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปเจาะในกลุ่มฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ โดยเป็นงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยให้กับโครงการของบริษัทไทยออยล์ ซึ่งบริษัทฯรับงานจากกิจการร่วมค้า Petrofac South East Asia, Saipem Singapore และ Samsung Engineering ทำให้มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันธุรกิจของกลุ่มบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ต่อเนื่อง

 

*ลุ้นโอกาสได้งานใหญ่

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึง JR ว่า มีมุมมองบวกต่อภาพระยะยาวของบริษัทมากขึ้น จากโอกาสได้งานใหญ่ด้วยมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นกว่าประมาณการ รวมถึงการต่อยอดระยะยาวจากโอกาสรับงานลูกค้ากลุ่มพลังงานที่มีโอกาสมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เพื่อสะท้อนผลกระทบ COVID ซึ่งนำมาสู่การปรับลดเป้าหมายรายได้บริษัทในปีนี้ลง จึงปรับลดกำไรปี 2564 ลง 7% ให้สอดคล้องกัน โดยยังคงประมาณการปี 2565/2566 ไว้ตามเดิม โดยยังคงสมมติฐานอนุรักษนิยมให้ JR ได้งานใหญ่นำสายไฟอากาศลงใต้ดินตามแนวรถไฟฟ้าสีเหลืองและชมพู เฟส 2 ไว้ตามเดิมที่ 6.0 พันล้านบาท โดยให้ได้งานเข้ามาในช่วงปี 2565 และยังไม่รวมโอกาสได้งานจากลูกค้ากลุ่มพลังงานเพิ่มเติม ทั้งนี้ หลังปรับ ยังเห็นกำไรปี 2564 อยู่ที่ 278 ล้านบาท เติบโตสูง 215% ขณะที่ฐานปี 2564 ที่ต่ำลง หนุนคาดกำไรปี 2565 เติบโตได้อีก 15%

 

อย่างไรก็ตาม มูลค่าพื้นฐานปี 2564 ใหม่อิง PER 22.3 เท่า ลดลงเหลือ 8.2 บาท (เดิม 8.8 บาท) แต่ยังมี Upside จากราคาหุ้นนับจากวันที่มีคำสั่งปิดแคมป์คนงานปรับตัวลดลง 8.9% ใกล้เคียงผลกระทบกำไรที่ลดลงจากประมาณการเดิม จึงเชื่อว่าผลกระทบกำไรระยะสั้นที่เติบโตต่ำกว่าคาดได้สะท้อนในราคาหุ้นแล้ว ขณะที่หากพิจารณาปัจจัยบวกนับจากนี้ที่จะทยอยเข้ามา โดยเฉพาะเรื่องมูลค่างานใหญ่ที่คาดจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยฯ คาดต่อยอดการเติบโตกำไรปัจจุบันที่โดดเด่นด้วยงาน Backlog หลักงานนำสายไฟอากาศลงดินรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลือง เฟส 1 ต่อเนื่อง คงแนะนำ ซื้อ

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง