เด็กป.2 ถูกเพื่อนผลักตกชั้นสอง เลือดออกในสมองเข้าไอซียู ผอ.จ่าย 2 หมื่นขอจบเรื่อง
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 10 มีนาคม ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้เชิญ นายนิสิต เนินเพิ่มพิสุทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมประชุมหาแนวทางช่วยเหลือเด็กนักเรียนชายชั้นป.2 วัย 8 ขวบ ซึ่งตกจากชั้น 2 อาคารเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ได้รับบาดเจ็บกะโหลกร้าว เลือดคั่งในสมอง
โดยวันนี้ นางวิ (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี ชาวจ.ชลบุรี ได้พาด.ช.เอ็ม (นามสมมุติ) ลูกชายวัย 8 ขวบ ที่ได้รับบาดเจ็บเข้าพบนางปวีณา เพื่อขอความช่วยเหลือและร่วมประชุมกับตัวแทนกระทรวงศึกษาธิการด้วย
นางวิ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 12.20 น. ได้รับโทรศัพท์จากครูประจำชั้นว่าลูกชายตกอาคารเรียนชั้นสอง ขณะนี้ได้นำตัวส่ง รพ.บ้านบึง ได้ทำการรักษาเบื้องต้น โดยหมอระบุเบื้องต้นว่าศีรษะแตกและได้ทำการเย็บ 4 เข็ม ก่อนจะส่งตัวไปที่รพ.ชลบุรี เพื่อทำการซีทีแสกนสมอง ก่อนจะพบว่า ด.ช.เอ็ม กะโหลกร้าว เศษกะโหลกไปบาดเส้นเลือดทำให้เลือดออกในสมองมาก ต้องทำการผ่าตัดด่วนในเย็นวันนั้น และรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู 2 วัน ห้องธรรมดา 7 วัน รวม 9 วัน
หลังจากที่ลูกชายได้สติแล้วตนได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ลูกชาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ปีนไปเก็บดินสอที่กันสาด ระหว่างจะปีนกลับเข้ามามีเพื่อนผลักทำให้พลัดตกลงไป ซึ่งลูกชายบอกชัดเจนว่าเป็นคนไหน ชื่ออะไร ต่อมาแพทย์อนุญาตให้ลูกกลับบ้านได้ในวันที่ 26 ก.พ. ซึ่งแพทย์ได้เน้นย้ำให้ทานยาตรงเวลา และในระยะเวลา 3 เดือนจากนี้ให้ระมัดระวังอย่าให้เด็กกระทบกระเทือน มิฉะนั้นลูกชายอาจจะไม่ปกติเหมือนเดิม
นางวิ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุผู้อำนวยการโรงเรียน และคุณครูได้ตามมาดูอาการน้องที่รพ. และผู้อำนวยการโรงเรียนได้มอบเงินให้ 10,000 บาท บอกว่าช่วยเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างดูแลลูกชายที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นผู้อำนวยการโรงเรียนได้มาพบตนอีกครั้งจะมอบเงินเพิ่มให้อีก 10,000 บาท และขอให้ตนจบเรื่องจะได้ไม่เสียเวลา แต่ตนไม่ขอรับจนกว่าลูกชายจะหายเป็นปกติ และตนบอกกับทางโรงเรียนว่า ควรมีความรับผิดชอบมากว่านี้ และครูควรดูแลเด็กนักเรียนให้มากขึ้น
นางปวีณา กล่าวว่า ปัญหาเด็กนักเรียนเกิดอุบัติเหตุในโรงเรียน ปัจจุบันมีประกันอุบัติเหตุแต่บางรายได้ค่าประกันอาจจะไม่เพียงพอกับการรักษาอาการป่วย ขอเสนอให้กระทรวงศึกาธิการตั้งกองทุนช่วยเหลือเด็กนักเรียน รวมทั้งครู เจ้าหน้าที่ที่เกิดอุบัติเหตุในโรงเรียน เพื่อให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที