รีเซต

บุรีรัมย์ใช้ยาแรง! กลุ่มเสี่ยงไม่ฉีดวัคซีนโควิดติดคุก

บุรีรัมย์ใช้ยาแรง! กลุ่มเสี่ยงไม่ฉีดวัคซีนโควิดติดคุก
TNN ช่อง16
14 พฤษภาคม 2564 ( 11:40 )
158
บุรีรัมย์ใช้ยาแรง! กลุ่มเสี่ยงไม่ฉีดวัคซีนโควิดติดคุก

 

ข่าววันนี้ ( 14 พ.ค. 64 )คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ยกเลิกประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ เรื่อง การป้องกันการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ฉบับที่ 4) แล้วให้ออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ที่ 13 / 2564 เรื่องการป้องกันการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ดังมีข้อความต่อไปนี้

 

 

ข้อ 1. เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไว้รัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ให้ประชาชนทุกคน ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่หรือบุคคลที่มาปฏิบัติงานในจังหวัดบุรีรัมย์ และหรือพักอาศัยในจังหวัดบุรีรัมย์ ทำการประเมินตนเองตามแบบประเมินความเสียงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 

 

 

จังหวัดบุรีรัมย์ ที่กำหนดตามเอกสารแนบท้ายาคำสั่งนี้ ต่ออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)ในชุมชน/หมู่บ้าน ที่ท่านพักอาศัยอยู่ โดยกระบวนการ อสม.เคาะประตูบ้าน หรือผ่านระบบออนไลน์ ในฐานข้อมูลกลางจังหวัดบุรีรัมย์ สำหรับบริการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือผ่านศูนย์ประสานงานรับบริการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของโรงพยาบาล/โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน เกี่ยวกับความเสียงการติดเชื้อฯ ตั้งแต่วันที่ 13 - 31  พฤษภาคม นี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารสุขในพื้นที่จัดกลุ่มการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อฯ

 

 

ข้อ 2. ในกรณีที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ/เจ้าหน้าที่สาธารสุขตรวจพบหรืออาจตรวจพบว่าบุคคลในหรือบุคคลดังกล่าวในข้อ 1 เป็นผู้ที่มีความเสียง/อาจมีความเสียงที่จะติดโรคติดเชื้อฯ

 

 

ให้เจ้าพนักงานนั้นมีอำนาจสั่งให้ผู้ที่มีความเสี่ยง อาจมีความเสี่ยงที่จะติดโรคนั้น ได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อฯ ตามวัน เวลา และสถานที่ซึ่งเจ้าพนักงานนั้นกำหนด เพื่อป้องกันมิให้โรคคิดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่หรืออาจแพร่ออกไป

 

 

ข้อ 3. หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งตามข้อ 1 มีโทษตามนัยมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ ต้องระวางโทษจำคิกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท และผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งตามข้อ 2 มีโทษตามนัยมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท และอาจมีความผิดตามมาตร 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

 

ทั้งนี้ หลังจากคณะกรรมการโรคคิดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ประกาศ ผ่านเครือข่าย อสม.และผู้นำชุมชนไปตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้มีประชาชนมาลงทะเบียนขอฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่บริเวณสนามแข่งรถช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ซึ่งเป็นจะฉีดวัคซีนใหญ่ ได้มีประชาชนเดินทางไปลงทะเบียนขอรับวัคซีนไม่ขาดสาย

 

 

 

 

 

บุรีรัมย์แจงปม ไม่ฉีดวัคซีนติดคุก ชี้ไม่ถึงขั้นนั้น แต่อาจห้ามออกบ้าน-เข้าร้านอาหาร

 

 

กรณีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ออกหนังสือคำสั่งให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด โดยใช้วิธีเคาะประตูบ้าน หากฝ่าฝืนอาจจะได้รับโทษตาม พรบ.โรคติดต่อ จนกระทั่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้างว่าสมควรหรือไม่ เป็นการละเมิดหรือไม่ หรือจะทำเป็นบุรีรัมย์โมเดล เพื่อเอาไปบังคับใช้ทั่วประเทศหรือไม่ ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

 

 

ความคืบหน้าล่าสุด นพ.พิเชษฐ์ พืดขุนทด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาระบุว่า ตามที่ประชาชนวิตกกังวนว่าถ้าหากไม่ฉีดจะมีความผิดหรือไม่นั้น วัตถุประสงค์หลักคือต้องการให้ชาวบุรีรัมย์ เข้าไปบันทึกข้อมูลชื่อ "BURIRAM IC" ซึ่งเป็นฐานข้อมูลการบริหารวัคซีนของ จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงวัคซีน เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันเป็นสถานการณ์โรคติดต่ออันตราย หากปล่อยให้ทำตามอำเภอใจจะฉีดก็ได้ไม่ฉีดก็ได้ โดยไม่ชัดเจน ทำให้ไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนได้เข้ามาบันทึกข้อมูล ว่ามีความจำนงฉีดหรือไม่ฉีดวัคซีน

 

 

นพ.พิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่ไม่ประสงค์ที่จะฉีดวัคซีน หลังจากนี้จังหวัดบุรีรัมย์ อาจจะมีมาตรการเข้มกว่านี้ เช่นอาจจะมีกฎข้อบังคับห้ามไม่ให้ออกจากนอกสถานที่ หรืออาจจะไม่ให้เข้าไปสถานบริการต่างๆ โดยจะขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ หากไม่ได้แสดงบัตรการฉีดวัคซีน ทั้งเป็นมาตรการของจังหวัดบุรีรัมย์แบบเข้มข้น เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย

 

 

 

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆ พบว่าส่วนใหญ่อยากให้มีการฉีดวัคซีนเหมือนกันทุกคน เพราะไม่อยากระแวงว่าลูกค้าคนใดมีเชื้อโควิดมาด้วยหรือไม่ มีเพียงบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการบังคับให้ฉีดวัคซีน โดย นายไพทูรย์ พศวีร์ธากุล อายุ 33 ปี อาชีพพนักงานส่งอาหาร บอกว่า ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว เพราะเป็นการบังคับเกินไป และยังไม่รู้ว่าจะปลอดภัยหรือไม่ จึงอยากจะชะลอไปก่อนเพื่อรอวัคซีนที่มีคุณภาพมากกว่านี้ โดยใช้วิธีป้องกันตัวเองเอาจะดีกว่า

 

 

ด้าน น.ส.ณทชา อยู่ประพัต เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเจ๊อ๋า บอกว่า ได้ไปฉีดพร้อมกับพนักงานตั้งแต่ก่อนจะมีคำสั่ง เพราะคิดว่าถ้าเราปลอดภัย ลูกค้าปลอดภัย ชีวิตความเป็นอยู่ของสังคมก็จะกลับคืนมาเหมือนปกติ แต่ถ้าฉีดบ้างไม่ฉีดบ้าง จะต้องระแวง ระวังไม่รู้จักจบสิ้น

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง