ความจริง ปัญหา เบื้องหน้า ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ขยะ และรถไฟฟ้า
ประหนึ่งว่าเส้นทางการเมืองของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หลังได้ “ฉันทานุมัติ” กว่า 1.3 ล้านเสียงอยู่ในกำมือแกร่ง
ไม่ว่า “ดนตรีในสวน” ไม่ว่า “ปัญหาน้ำรอระบาย”
การประสานขานรับปรากฏขึ้นด้วยความคึกคัก เปี่ยมด้วยความเชื่อมั่น เปี่ยมด้วยความหวัง
“เพื่อนร่วมงาน” ให้ “ความร่วมมือ” อย่างอบอุ่น
ประชาชนหลั่งไหลเข้าหนุนเสริม ไม่ว่าจะเป็นที่สวนรถไฟ ไม่ว่าจะเป็นที่สวนลุมพินี ไม่ว่าจะเป็นที่สวนเบญจกิติ
หรือแม้กระทั่งใน “ป่าช้า” ที่ “สาทร”
กระนั้น เมื่อแตะเข้าไปยังโรงกำจัด “ขยะ” เมื่อยื่นมือยาวเข้าไปในแต่ละปมของรถไฟฟ้าสาย “สีเขียว” ก็ต้องนะจังงัง
เป็นนะจังงังพร้อมกับสะดุดหยุดลง
สภาพความเป็นจริงของโรงงานกำจัด “ขยะ” มากด้วยความซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นที่อ่อนนุช ไม่ว่าจะเป็นที่หนองแขม ไม่ว่าจะเป็นที่สายไหม
ใบหน้าของ “เพื่อนร่วมงาน” เหน็ดเหนื่อย
เป็นความเหน็ดเหนื่อยบนพื้นฐานแห่ง “สัญญา” ที่ซับซ้อนมากด้วยเงื่อนงำ เป็นความเหน็ดเหนื่อยซึ่งอยู่ห่างจากคำว่า “โปร่งใส”
ยิ่งมองถึง “ประชาชน” ยิ่งเหน็ดเหนื่อย
ขณะเดียวกัน การมอบงานตรวจสอบสัญญาโครงการรถไฟฟ้า “สายสีเขียว” ให้กับ นายธงทอง จันทรางศุ แม้จะมากด้วยความเชื่อมั่น
กระนั้น ความเชื่อมั่นนั้นก็เหมือนอยู่บน “เส้นด้าย”
สภาพของโครงการรถไฟฟ้าสาย “สีเขียว” กับ สภาพของโรงงานกำจัด “ขยะ” กำลังกลายเป็นภาระอันหนักหน่วง
ทั้งหมดเนื่องแต่ “กรุงเทพธนาคม” ทั้งสิ้น
ใครที่ติดตามการไลฟ์อย่างต่อเนื่องของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เมื่อเดินทางไปยังซอยอ่อนนุช เมื่อเดินทางไปยังหนองแขม เมื่อเดินทางไปยังสายไหม
ย่อม “สัมผัส” และ “รับรู้”
รับรู้ผ่านอาการงันชะงักอย่างฉับพลัน รับรู้ผ่านแต่ละคำถามที่โยนไปยัง “เพื่อนร่วมงาน”
ว่าแต่ละก้าวย่างสาหัส
แม้จะพยายามมองโลกในแง่งาม
เหมือนกับการทำความเข้าใจต่อสถานการณ์ “ถนนลูกรัง” เหมือนกับการทำความเข้าใจต่อ “ถุงดำ” เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
คำถามก็คือ ปัญหา “ขยะ” ปัญหารถไฟฟ้าสาย “สีเขียว”
จะใช้ท่าที “สุนิยม” ในการเผชิญประสบแบบที่มองเข้าไปยัง “ถนนลูกรัง” แบบที่มองลงไปในรายละเอียดของ “ถุงดำ” ได้หรือไม่
นี่คือปัญหา นี่คือภาระที่ต้องแบก
มีความจำเป็นที่ไม่ว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ไม่ว่า “เพื่อนร่วมงาน” ไม่ว่ากองเชียร์ซึ่งเป็นแฟนานุแฟนจะต้องมองอย่างเข้าใจ
เข้าใจใน “ความจริง” แต่ละ “ปัญหา”
ความจริงที่สะสมและหมักหมมอยู่ใน “กรุงเทพมหานคร” ความจริงที่มี “ผลประโยชน์” เป็นเครื่องต่อรองและเสวยประโยชน์
ความจริงเหล่านี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะตัดสินใจอย่างไร