โคราชยังหนัก น้ำทะลักเข้าท่วม "ปรางค์พะโค" รุนแรงสุดในรอบ 10 ปี

สถานการณ์น้ำท่วม ในจ.นครราชศรีมา ยังไม่คงไม่ดีขึ้น ล่าสุดเข้าท่วมปรางค์พะโค โบราณสถาน อายุกว่า 900 ปี จนท.ทำพนังกั้นน้ำแล้วแต่เอาไม่อยู่ หนักสุดในรอบ 10 ปี

วันที่ 20 ต.ค. 2563 จ.ส.อ.บุญเยี่ยม หมั่นกระโทก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกระโทก เปิดเผยว่า มวลน้ำที่ล้นออกจากเขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ส่วนหนึ่งได้ไหลหลากไปถึงพื้นที่ อ.โชคชัย แล้ว ซึ่งเป็นอำเภอที่อยู่ถัดมาจาก อ.ปักธงชัย ส่งผลทำให้เริ่มมีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำหลายจุด อย่างเช่น "ปรางค์พะโค" ซึ่งเป็นโบราณสถาน อายุกว่า 900 ปี ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 224 สายโชคชัย - ครบุรี ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 37 ท้องที่บ้านปรางค์พะโค ม.11 ต.กระโทก อ.โชคชัย

โดยมวลน้ำจากลำน้ำลำพระเพลิงที่อยู่ด้านหลังของปรางค์ ได้เอ่อล้นเข้าท่วมที่ตั้งของปรางค์พะโค ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร แต่ยังโชคดีที่น้ำท่วมเพียงพื้นฐานราก ยังไม่เอ่อท่วมตัวปรางค์ที่มีอยู่ 2 หลัง แม้ว่าก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลกระโทก และหน่วยทหารจะช่วยกันนำกระสอบทรายมาทำพนังกั้นน้ำเอาไว้แล้ว แต่ก็ไม่สามารถต้านทานมวลน้ำจำนวนมหาศาลที่ไหลลงมาอย่างต่อเนื่องได้ กระทั่งมวลน้ำเริ่มเอ่อเข้าตัว อ.โชคชัย ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 ต.ค. 2563

นอกจากนี้ มวลน้ำส่วนหนึ่งยังล้นออกจากตัวปรางค์ ไหลไปท่วมทางหลวงหมายเลข 224 บางส่วน และเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านบ้านปรางค์พะโค ม.11 และบ้านหนองคล้า ม.2 ได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า 70 หลังคาเรือน ขณะที่ทางองค์การบริหารส่วนตำบลกระโทก ได้ตั้งจุดให้บริการความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และส่งกำลังเข้าช่วยชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นการเร่งด่วนแล้ว

สถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ แม้ว่าจะเป็นช่วงเริ่มต้นของสถานการณ์ แต่ก็ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี โดยน้ำบางส่วนได้ไหลเข้าท่วมตัวปรางค์พะโค โบราณสถานที่สำคัญของอำเภอโชคชัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าจะพยายามป้องกันทุกวิถีทางแล้ว เพราะมวลน้ำไหลทะลักมาอย่างต่อเนื่องจำนวนมหาศาล ประกอบกับสภาพที่ตั้งของปรางค์พะโค เป็นที่ลุ่มต่ำ มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ จึงทำให้มวลน้ำเกือบทั้งหมดไหลลงมารวมกัน ส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมปรางค์ปราสาทดังกล่าว