อนุทิน นำทีมรับมอบวัคซีนโควิด 'แอสตร้าเซนเนก้า' เล็งฉีดบุคคลสำคัญ-บุคลากรแพทย์ 60 ปีขึ้นไป
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ อาคาร 6 คลังวัคซีน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดสธ. และคณะผู้บริหารกระทรวงฯ เดินทางมาเพื่อรับมอบและตรวจรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 117,000 โดส
นายอนุทิน กล่าวว่า ตนได้เข้าตรวจสอบเรียบร้อยแล้วว่า วัคซีนอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และถูกเก็บรักษาไว้ในห้องควบคุมอุณหภูมิตามมาตรฐานที่กำหนด โดยกรมควบคุมโรคจะนำวัคซีนส่งตรวจรับรองรุ่นการผลิตที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ภายในเย็นวันนี้ คาดว่าจะใช้เวลาตรวจ 1-2 วัน ส่วนแผนการกระจายวัคซีนล็อตนี้ก็จะกระจายให้กลุ่มเสี่ยง เช่น บุคลากรทางการแพทย์ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี บุคคลสำคัญของประเทศ หรือ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ในพื้นที่ 5 จังหวัดควบคุม ได้แก่ สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานีและสมุทรปราการ
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า วันนี้ได้พบกับ นายหยาง ซิน อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย หารือกันใน 4 เรื่อง คือ เรื่องที่ 1 การยืนยันส่งวัคซีนบริษัทซิโนแวค ล็อตที่ 2 จากประเทศจีนในเดือนนี้ เป็นไปตามแผนซึ่งคาดว่าไม่เกินวันที่ 25 มี.ค. ส่วนเรื่องที่ 2 ท่านอุปทูตรักษาการแทนฯ เสนอให้ สธ. ช่วยพิจารณาฉีดวัคซีนให้กับประชาชนจีนในไทย ซึ่งท่านก็บอกว่าให้รัฐบาลไทย ทำจดหมายขอรับวัคซีนฯ จากจีนในฐานะมิตรประเทศ ทางเราก็รับในหลักการ เพียงแต่ขอให้ท่านเสนอมาว่า จะมอบให้กี่โดสพร้อมกำกับเงื่อนไขมา
“ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการฉีด เราก็ต้องคุยกันอย่างเช่นเขาให้เรามาหลายล้านโดสแต่เขามีประชากรจีนในไทยเพียง 2 แสนคน เราก็ต้องดูว่าจะทำอย่างไรเพื่อเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในฐานะมิตรประเทศ” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องที่ 3 หารือให้ประเทศไทยพิจารณาร่วมกัน ตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนให้ชาวจีนโพ้นทะเลในภูมิภาคเอเชีย ดังนั้นจะต้องให้กรมควบคุมโรคไทยและจีนประสานความร่วมมือหามาตรการดูแลผู้ที่มาฉีดวัคซีน ในระหว่างการฉีดเข็มที่ 1 และ 2 เพื่อให้เราได้ประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวด้วย และเรื่องที่ 4 เสนอให้มีการยอมรับซึ่งกันและกันในเรื่องของวัคซีนพาสปอร์ตระหว่างประเทศ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อยืนยันว่าบุคคลที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วในรูปแบบของบับเบิ้ล(Bubble) เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวและกลับมาสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด
“เราจะต้องเริ่มทำก่อนที่คนอื่นจะทำ ให้มีการเดินทางมาท่องเที่ยวประกอบธุรกิจ ซึ่งท่านหยาง ซิน ก็ได้ประสานความช่วยเหลือที่เป็นประโยชน์ให้กับประเทศไทยมาตลอด” นายอนุทินกล่าว