โรงงานไอศกรีมถูกน้ำท่วม โวยขออบต.ช่วย แต่ถูกปฏิเสธ น้ำทะลัก สูญ 5 ล้าน

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม นายสุวิทย์ บัวคำ เจ้าของบริษัทบีโอเค 201 ผู้แทนจำหน่ายไอศครีมเนสท์เล่จังหวัดเพชรบูรณ์ ร้องเรียนว่า เนื่องจากน้ำคลองกะเต็งซึ่งอยู่บริเวณท้ายพื้นที่โรงงาน หลังจากน้ำจากแม่น้ำป่าสักไหลเข้าหนุนเป็นจำนวนมาก ทำให้น้ำเอ่อล้นคันดินกั้นน้ำที่ตนทำไว้ จนทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมออฟฟิศ ห้องเย็น บ้านพัก รถขนไอศครีม 2 คัน โดยระดับน้ำสูงราว 80-100 เซนติเมตร

ก่อนหน้านี้พยายามร้องขอความช่วยเหลือจากทาง อบต.นาป่า เพื่อให้ช่วยเปิดเส้นทางแต่ถูกปฎิเสศ แต่ตนและคนงานพยายามระดมกระสอบทรายตั้งแนวบล็อกน้ำ แต่เนื่องจากน้ำมีปริมาณมาก กระทั่งเมื่อราว 09.15 น.ของวันนี้ แนวกระสอบทรายกั้นน้ำแตก ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมเร็วมากกระทั่งขนย้ายสิ่งของหาน้ำไม่ทัน

“เมื่อถูกปฏิเสธผมก็พยายามช่วยเหลือตัวเอง โดยระดมซื้อทรายและกระสอบให้คนงานช่วยกันกรอกเพื่อทำแนวบล็อกน้ำ แต่เนื่องจากปริมาณน้ำมีมากและขึ้นรวดเร็ว ถึงแม้พยายามใช้เครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก 2 เครื่อง ทำการสูบน้ำออกจากภายในพื้นที่ แต่สุดท้ายก็ต้านไว้ไม่อยู่

ส่วนความเสียหายประเมินราว 5 ล้านบาท แต่ที่น่าเสียใจมาก หากได้รับการเหลียวแลจากท้องถิ่น โดยไม่ปล่อยทิ้งเราแบบนี้ คิดว่าคงไม่ได้รับความเสียหายมากมายขนาดนี้ เราพยายามพึ่งพาตนเองมาตลอด สแต่สู้ไม่ไหวจริงๆจึงร้องขอความช่วยเหลือจากท้องถิ่นน่าเศร้าใจมาก” นายสุวิทย์กล่าว

อย่างไรก็ตามหลัง นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับทราบจึงปนะสานให้ทางนายอำเภอเมืองและหน่วยทหารเข้าไปช่วยเหลือ ต่อมานายอำเภอเมืองได้โทรศัพท์ติดต่อสอบถามสถานการณ์ โดยนายสุวิทย์ถึงกับปาดน้ำตาโดยเล่าระบายด้วยความอัดอั้น หลังจากพยายามต่อสู้กู้วิกฤตช่วงน้ำทะลักเข้าท่วมโรงงาน ในขณะที่ถูกเมินจากทางท้องถิ่น ในขณะที่หมวดการทางเพชรบูรณ์ได้พยายามเข้าช่วยเหลือขุดหาท่อระบายข้ามถนนที่ถูกอุดตัน เพื่อระบายน้ำที่ท่วมเอ่อท่วมขังบริเวณรอบนอก

ต่อมา นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เข้าไปติดตามดูสถานการณ์น้ำท่วมที่โรงงานดังกล่าว โดยนายสุวิทย์แจ้งว่า ห้องเย็นที่ถูกน้ำท่วมขณะนี้คอมเพสเซอร์ขัดข้องทำให้ไอศครีมที่อยู่ในห้องราว 3,000 กล่องมูลค่าราว 1.8 ล้านบาทแนวโน้มจะได้รับความเสียหาย ฉะนั้นหากระบายน้ำออกได้อาจจะเร่งระบายไอศครีมออกเพื่อลดความเสียหาย ซึ่งนายกฤษณ์แนะให้เร่งเสริมกระสอบทราย เพื่อบล็อกน้ำไม่ไหลทะลักเข้าเพิ่มเติมอีก จากนั้นเร่งสูบน้ำระบายออกและรอสถานการณ์ว่าใน 2 ชั่วโมงจะลดลงขนาดไหน จากนั้นนายกฤษณ์ประสานงานไปยังหน่วยทหารและทางนายอำเภอเมือง

ต่อมาเวลา 17.30 น.วันเดียวกัน นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิ์ผล นายอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ได้ระดมกำลังเจ้าฝ่ายปกครอง พร้อมนำกระสอบจำนวน 2,000 ใบและทรายอีก 5 คิว เข้าช่วยเพื่อนพกระสอบทรายดังกล่าว เสริมแนวกั้นน้ำให้สูงขึ้น พร้อมซ่อมแซมแนวกั้นกระสอบทรายที่แตกออกจนทำให้น้ำทะลัก โดยมีทหาร กองพล ม.1 จ.เพชรบูรณ์ เข้าช่วยเหลือ จนทำให้นายสุวิทย์รู้สึกซึ้งใจผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเมืองใจและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่หยิบยื่นความช่วยเหลือให้