ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วนะครับในปีนี้ ซึ่งทางอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศแล้วว่าไทยจะเข้าสู่ฤดูหนาว ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 โดยลมที่พัดบริเวณประเทศไทยที่ระดับความสูง 100 เมตร ถึงความสูง 3500 เมตร ได้เปลี่ยนเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือหรือลมตะวันออก ส่วนลมระดับบนที่มีความสูงตั้งแต่ 5000 เมตรขึ้นไป ได้เปลี่ยนเป็นลมฝ่ายตะวันตกอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับอุณหภูมิที่ต่ำสุดในช่วงเข้าบริเวณประเทศไทยตอนบนลดลงอยู่ในเกณฑ์อากาศเย็นเกือบทั่วไป ในช่วงเริ่มต้นฤดูหนาวของปีนี้ ทางอุตุนิยมวิทยายังบอกอีกว่า ลักษณะอากาศประเทศไทยตอนบนยังคงแปรปรวน ยังจะมีฝนตก ในบางช่วงแต่ปริมาณไม่มากนัก ส่วนทางภาคใต้จะยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นต่อไป (ข้อมูลจาก Facebookกรมอุตุนิยมวิทยา) ทางอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศว่ากำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาวในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 นี้แล้ว ซึ่งโดยที่ผ่านมาฤดูหนาวมักเริ่มต้นเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของอีกปี แต่ไม่ได้หนาวยาวแบบต่อเนื่อง ปัจจุบันบริเวณกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งเป็นเขตที่ผมอาศัยนั้น ก็เริ่มรู้สึกถึงอากาศที่หนาวเย็นบางแล้ว แต่ทว่าก็ยังไม่เย็นมาก รู้สึกอากาศจะเย็นลงกว่าปกติ โดยเฉพาะตอนช่วงเช้ากับช่วงค่ำๆจะรู้สึกได้ ถึงแม้ว่าจะรู้สึกว่าอากาศจะเย็นลง แต่ยังสามารถใส่เสื้อธรรมดาได้โดยที่ไม่ได้รู้สึกเย็นอะไรมากนัก แต่ถ้าเป็นไปตามที่อุตุนิยมวิทยาได้ประกาศออกมานั้น ก็คาดว่าอากาศน่าเย็นลงอีก แม้ว่าจะเข้าสู่ฤดูหนาว แต่สิ่งที่ได้พบเจอมาตลอดคือ อากาศหนาวมักจะไม่หนาวมากดังที่หวัง โดยเฉพาะกรุงเทพและปริมณฑลเขตที่ผมอาศัยอยู่นั้น หลายปีที่ผ่านมา ความหนาวมักจะไม่มาก หรือมีความหนาวเย็นเป็นช่วงเวลาไม่กี่วันไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น แล้วก็จะเว้นระยะออกไป แล้วก็จะกลับมาอีกครั้ง ไม่นานก็หายไป อุณหภูมิมักจะอยู่ประมาณต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส ก็ถือว่าหนาวแล้ว เป็นแบบนี้มาโดยตลอดเป็นเวลาหลายปีที่ผ่านมา แต่ทว่าในภาคเหนือ หรือภาคอีสาน ก็จะแตกต่างออกไป เพราะเมื่อเข้าฤดูหนาวแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะหนาวกว่านานกว่าในกรุงเทพ โดยเฉพาะยอดดอยทางภาคเหนือภาคอีสาน จะมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียสเลย จึงมักจะมีนักท่องเที่ยวไปสัมผัสอากาศหนาวทุกๆปีเป็นประจำ ปีนี้ถึงแม้ว่าจะมีโควิด แต่หลังสถานการณ์เริ่มดีขึ้น มีการเปิดประเทศ สถานที่ท่องเที่ยวในช่วงอากาศหนาวนี้ก็น่าจะกลับมาดีอีกครั้ง เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว สิ่งสำคัญที่เรารู้และต้องเตรียมรับมือกับความหนาวเย็น ที่จะเกิดขึ้นนั้นจะมีดังนี้ 1. สวมเสื้อผ้าที่สามารถป้องกันความหนาวเย็นและถ่ายเทอากาศได้ดี 2. กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ครบทั้ง 5 หมู่ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ 3. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มักเป็นสาเหตุการเสียชีวิตจากช่วงอากาศหนาว 4. ดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำสะอาด จะช่วยการไหลเวียนโลหิตมีประสิทธิภาพ และน้ำอุ่นยังช่วยให้ลดความหนาวเย็นได้ด้วย 5. โรคภัยที่มาพร้อมกับความหนาวเย็น ที่มักจะเป็นโรคติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ เช่นเดียวกับ โรคโควิดที่ระบาดอยู่ในปัจจุบันที่น่าจะสามารถอยู่ในช่วงอากาศหนาวได้ดี ดังนั้น ควรใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือ เจลล้างมือ แอลกอฮอล์ล้างมือ เมื่อสัมผัสสิ่งของสงสัย และยังคงต้องรักษาระยะห่างกันอยู่ ในช่วงที่โรคยังระบาดอยู่ตอนนี้ สุดท้ายแล้วฤดูหนาวปีนี้จะหนาวเย็น จะได้ใส่เสื้อกันหนาว ดั่งที่หวังเอาหรือไม่ แล้วจะหนาวยาวนานไหม หรืออาจแค่หนาวไม่กี่วันเหมือนหลายๆปีที่ผ่านมาคงต้องลุ้นเอาแล้วครับ คนไทยส่วนใหญ่มักรอช่วงอากาศหนาวเย็นเพื่อที่จะสัมผัสกับช่วงเวลาที่ไม่ค่อยได้พบมากนัก เพราะส่วนใหญ่มักเจออากาศร้อนหรือฝนตกเกือบตลอดทั้งปี ผมเป็นคนหนึ่งที่รอเพื่อจะได้สัมผัสอากาศที่หนาวในฤดูหนาวนี้ หวังว่าอากาศจะหนาวเย็นอย่างที่หวังไว้ครับ.... เครดิต ภาพปก โดย DigitalDDay จาก pixabay ภาพที่1 จาก FBกรมอุตุนิยมวิทยา ภาพที่2 จาก streetwindy จาก pixabay ภาพที่3 จาก NARENRITTATONGJAI จาก pixabay ภาพที4 จาก nastya_gepp จาก pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !