รีเซต

สธ.ย้ำ "โควิดโอมิครอน" รุนแรงน้อย สัดส่วนผู้เสียชีวิตยังต่ำเมื่อเทียบเดลต้า

สธ.ย้ำ "โควิดโอมิครอน" รุนแรงน้อย สัดส่วนผู้เสียชีวิตยังต่ำเมื่อเทียบเดลต้า
TNN ช่อง16
11 มีนาคม 2565 ( 12:00 )
67
สธ.ย้ำ "โควิดโอมิครอน" รุนแรงน้อย สัดส่วนผู้เสียชีวิตยังต่ำเมื่อเทียบเดลต้า

วันนี้ (11 มี.ค.65) นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิดในขณะนี้ที่มีติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้เสียชีวิตเพิ่มด้วย แต่ยืนยันว่าเชื้อโอมิครอนไม่รุนแรง จำนวนผู้เสียชีวิตขณะนี้ยังมีสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดลต้าระบาด

โดยในช่วงที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนเท่าๆ กันช่วงที่เดลต้าระบาดมีผู้เสียชีวิตสูงถึงวันละ 200-300 คน แต่ขณะนี้จำนวนผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่หลักสิบ และพบว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังเป็นผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคมะเร็งระยะสุดท้าย 

นพ.ธงชัย ยังระบุด้วยว่า เมื่อตรวจสอบเชิงลึกลงไปถึงการเสียชีวิตของกลุ่มเหล่านี้ บางส่วนไม่ได้มีภาวะปอดอักเสบที่เกิดจากโควิด แต่เป็นการเสียชีวิตเพราะโรคประจำตัวที่มีอยู่เดิมแต่บังเอิญติดโควิดเพราะโอมิครอนติดง่าย

ด้วยเหตุนี้ทางกรมควบคุมโรคจึงมีแนวทางที่จะจำแนกสาเหตุการเสียชีวิตให้ชัดเจน ซึ่งขณะนี้ทางนักวิชาการกำลังดำเนินการเพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับโรคโควิดที่ระบาดอยู่ในขณะนี้

ส่วนแนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ล่าสุด นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า แผนการรักษาผู้ป่วยโควิดปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้สอดรับกับแผนการให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นในวันที่ 1 กรกฎาคม 

การรักษาจะเน้นการรักษาแบบผู้ป่วยนอก และหากแน่ชัดว่าโรคไม่รุนแรง ไม่มีการกลายพันธุ์ที่น่ากังวลก็จะใช้การรักษาแบบผู้ป่วยนอกแบบที่ไม่ต้องกลับไปกักตัวที่บ้าน ขณะที่การฉัดวัคซีนก็จะใช้ลักษณะไข้หวัดใหญ่ฉีดตามฤดูกาลปีละ 1 ครั้ง

ส่วนเรื่องของยารักษา จะเน้นการรักษาตามอาการ จ่ายยาตามความเหมาะสม ไม่จำเป็นที่ทุกคนต้องกินยาฟาวิพิราเวียร์ เพราะจะได้รับผลข้างเคียงจากยา ทั้งผลต่อตับ ไต ตาและผิวมีสีฟ้าด้วย.


ภาพจาก แฟ้มภาพ AFP

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง