ส่งออกไทยดีตามคาด หนุนเงินไหลเข้า SET คัด 16 หุ้นได้ประโยชน์

บล.เอเชียพลัส (ASPS) ระบุ กระทรวงพาณิชย์เผยมูลค่าส่งออก เดือน ก.ย.65 อยู่ที่ 24,919.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 7.8% (สูงกว่าคาดที่ +4.4%YoY) ทำให้การส่งออกในช่วง 9 เดือนของปีนี้ (ม.ค. – ก.ย. 65) ขยายตัว 10.6% ที่มูลค่า 221,366.1 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสินค้าที่มีส่งออกได้ดี ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ, เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ
ส่วนการนำเข้าในเดือน ก.ย. มีมูลค่า 25,772.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 15.6% (ต่ำกว่า คาดที่ +20.0%YoY) ส่งผลให้การนำเข้าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัว 20.7% ที่ มูลค่า 236,351.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ดุลการค้าในเดือน ก.ย.65 ขาดดุล 853.2 ล้าน เหรียญสหรัฐ (41.4 หมื่นล้านบาท) ซึ่งลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขาดดุลกว่า 4,215 ล้าน เหรียญสหรัฐ โดยหากนำดุลการค้ามาคิดเป็นสัดส่วนต่อ GDP ที่ระดับ -1.22% ซึ่งเริ่ม ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ระดับ -6.04%
โดยหากพิจารณาดุลบัญชีเดินสะพัดที่สะท้อนภาคเศรษฐกิจจริงในช่วง 8 เดือนแรกของปี2565 (ม.ค.-ส.ค.) ขาดดุลกว่า 18,310 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบ กับช่วงก่อนเกิดการระบาดของ COVID อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยประเมินว่าในช่วงที่เหลือของ ปี 2565 เศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัว และทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดมีพัฒนาการเชิงบวก โดยมี 2 ปัจจัยหลัก ดังนี้
- ดุลการค้าขาดดุลลดลง หลังมูลค่าการส่งออกดีขึ้นตามการเปิดประเทศของ ประเทศต่างๆ(อ้างอิงจากเนื้อหาด้านบน) ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรง ในช่วง 2 -3 เดือนที่ผ่านมา โดยไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มูลค่า การนำเข้าลดลง ผลักดันดุลการค้าให้สูงขึ้นในอนาคต
- ดุลบริการปรับตัวดีขึ้น ซึ่งล่าสุดจีนวางแผนเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศมากขึ้น เป็น 840 เที่ยวต่อสัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. – 25 มี.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้น 106% จาก ช่วงเดือนต.ค. 2564 อีกทั้งจีนยังมีโอกาสลดช่วงเวลากักตัวสำหรับนักเดินทาง ต่างชาติ ลงเหลือ 7 วัน คาดทำให้ภาคการท่องเที่ยวของไทยฟื้นตัวเด่นต่อไป
ขณะที่หากพิจารณารายได้จากนักท่องเที่ยวทั้งนอกและในประเทศในภาวะปกติ ณ ปี 62 มีมูลค่าราว 1.97 ล้านล้านบาท (คิดเป็นสัดส่วน 12.1% ของ GDP) ซึ่ง หากนำสมมุติฐานของ ททท. ที่คาดมีนักท่องเที่ยว 10 ล้านคน ณ สิ้นปีนี้ คิดเป็น สัดส่วน 1.44% ของ GDP เท่านั้น ทำให้ภาวะปัจจุบันเศรษฐกิจไทยยังมีช่องว่างให้ เติบโตได้จากส่วนของรายได้จากนักท่องเที่ยวทั้งนอกและในประเทศ
โดยหุ้นที่คาดว่าได้ประโยชน์จากปัจจัยข้างต้นมีดังนี้
• กลุ่มท่องเที่ยว AOT CENTEL ERW MINT
• กลุ่มคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ KCE HANA DELTA
• กลุ่มการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ RCL AMA TTA III
• หุ้น Theme เปิดเมืองของจีน CBG KISS TKN BEAUTY AU
ขณะที่ฝั่ง Dollar Index ล่าสุดอยู่ระดับ 109.78 จุด โดยมีแนวโน้มอ่อนค่าลงจากการ แทรกแซงค่าเงินของธนาคารกลางของฝั่งเอเชีย ทั้งญี่ปุ่น และ จีนที่พยายามทำให้ค่าเงิน ประเทศตนเองแข็งค่าขึ้น บวกกับ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีแนวโน้มดำเนินนโยบายทางการเงินเชิงรุกลดลง โดยคาดดอกเบี้ยสิ้นปีนี้อยู่ที่ 4.50% และดอกเบี้ยสิ้นปีหน้าอยู่ที่ 4.75% เท่านั้น
ประเด็นดังกล่าว บวกกับการขาดดุลการค้าที่ลดลง ทำให้ส่งผลให้เงินบาทเป็นตัวขึ้นแข็งค่า ในทันทีราว 37.7 บาท/เหรียญฯ คาดทำให้Flow ต่างชาติมีโอกาสไหลเข้าในอนาคต และ เป็นแรงหนุนหลักในการผลักดัน SET Index