นายกฯ ร่วมกับผู้นำ 17 ประเทศออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ปล่อยตัวประกันทั้งหมดในกาซา
เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยข้อความผ่านแอปพลิเคชั่น X Srettha Thavisin @Thavisin โดยระบุว่า วันนี้ ผมร่วมกับผู้นำ 17 ประเทศที่มีตัวประกันที่ยังอยู่ในกาซา ออกถ้อยแถลงร่วมเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันทั้งหมด รวมถึงพี่น้องคนไทยทั้ง 8 คน ผมมองเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนและเป็นเรื่องมนุษยธรรม และมีความบริสุทธิ์ใจที่จะดำเนินการทุกวิถีทาง เพื่อความปลอดภัยและการปล่อยตัวประกันคนไทยให้ได้กลับบ้านได้เร็วที่สุดครับ
Today, I joined fellow leaders of 17 countries with remaining hostages in Gaza in the Joint Statement, calling for the immediate release of all hostages, including our 8 Thai nationals. I view this matter as an urgent humanitarian issue and will continue to do my utmost for the safety and the release of our Thai nationals so that they can return home as soon as possible.
ขณะที่ กระทรวงการต่างประเทศ ได้เผยแพร่ ถ้อยแถลงร่วมจากผู้นำของอาร์เจนตินา ออสเตรีย บราซิล บัลแกเรีย แคนาดา โคลอมเบีย เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี ฮังการี โปแลนด์ โปรตุเกส โรมาเนีย เซอร์เบีย สเปน ไทย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันในกาซา โดยระบุว่า เราขอเรียกร้องให้ปล่อยตัวประกันทั้งหมดที่กลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันในกาซามาแล้วมากกว่า 200 วันในทันที ตัวประกันเหล่านี้มีพลเมืองของเรารวมอยู่ด้วย ชะตากรรมของตัวประกันและประชากรพลเรือนในกาซา ซึ่งได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ เป็นข้อห่วงกังวลระหว่างประเทศ
เราขอเน้นย้ำว่า ข้อเสนอเพื่อปล่อยตัวประกันจะนำไปสู่การหยุดยิงในกาซาในทันทีและในระยะยาว ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นเพิ่มเติมในกาซาอย่างทั่วถึง และนำไปสู่การยุติความขัดแย้ง ชาวกาซาจะสามารถกลับไปยังบ้านและดินแดนของตน โดยมีการเตรียมการล่วงหน้าเพื่อให้มีที่พักพิงและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
เราสนับสนุนความพยายามที่ดำเนินอยู่อย่างเต็มที่ในการไกล่เกลี่ย เพื่อนำพลเมืองของเรากลับสู่มาตุภูมิ เราย้ำการเรียกร้องให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันและร่วมกันยุติวิกฤตนี้ เพื่อที่พวกเราจะได้ร่วมกันมุ่งเน้นความพยายามในการนำสันติภาพและเสถียรภาพมาสู่ภูมิภาค
ข้อมูลจาก กระทรวงการต่างประเทศ / @Thavisin
ภาพจาก AFP