รีเซต

ตร.หิ้วแม่สาวสำนักงานโกงงบหลวง 40 ล้าน ส่งเรือนจำ หลังศาลประจวบฯไม่ให้ประกันตัว

ตร.หิ้วแม่สาวสำนักงานโกงงบหลวง 40 ล้าน ส่งเรือนจำ หลังศาลประจวบฯไม่ให้ประกันตัว
มติชน
22 กรกฎาคม 2563 ( 16:49 )
72

ตร.หิ้วแม่สาวสำนักงานโกงงบหลวง 40 ล้าน ส่งเรือนจำ หลังศาลประจวบฯไม่ให้ประกันตัว

จากกรณี น.ส.ขนิษฐา หอยทอง อายุ 28 ปี พนักงานราชการ สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บุตรสาวของ อดีตกำนัน ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบฯถูกแจ้งดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ ปลอมเอกสารของทางราชการ และใช้เอกสารปลอม เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2563 หลังจากนำเงินงบประมาณของทางราชการกว่า 40 ล้านบาท จากการโอนเงินผ่านระบบการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเลคทรอนิคส์ หรือ GFMIS โอนเข้าบัญชีส่วนตัว และ พบการกระทำความผิดในการทำข้อมูลหลักฐานเท็จจากการปลอมเช็ครวม 165 ครั้ง ขณะนี้ถูกควบคุมตัวจากการฝากขังผัดที่ 3 ในเรือนจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 16.00 น วันที่ 22 กรกฎาคม ร.ต.อ.หญิง สุภาภรณ์ ดวงกัลยา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ นำนางสายพิณ ดิบดีคุ้ม อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/21 หมู่ 8 ต.คลองวาฬ อ.เมือง มารดาของ น.ส.ขนิษฐา พนักงานราชการขออำนาจศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังจากศาลออกหมายจับข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ผู้ใดกระทำประการใด ๆ อันเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด แม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นก็ตาม ผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุนนั้น และมาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

สำหรับการฝากขังผัดแรก 12 วัน พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว แต่ผู้ต้องหานำโฉนดที่ดิน 2 ไร่ ที่ ต.คลองวาฬ ตีมูลค่าหลักทรัพย์ 3 แสนบาท ยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ต่อมา ศาลพิเคราะห์จากพยานหลักฐานแล้วเห็นว่าคดีมีมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี อีกทั้งเป็นคดีการทุจริตที่มีประชาชนให้ความสนใจ จึงไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งเรือนจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์

นายนฤพนธ์ แก้วเทศ ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัวผู้ต้องหามาทำการฝากขัง เจ้าหน้าที่จะนำมารดาไปขังแยกจาก น.ส.ขนิษฐาบุตรสาวทันที ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดเพราะเป็นจำเลยร่วมในคดีเดียวกัน ขณะที่ น.ส.ขนิษฐาซึ่งถูกคุมขังผัดที่ 3 สามารถปรับตัวเข้ากับผู้ต้องขังรายอื่นได้ตามปกติไม่มีการเครียด