จีนพบ 'เถ้ากระดูกวัว' ในกาวโบราณยุคราชวงศ์ฮั่น คาดถูกเผาที่อุณหภูมิ 250°C

(แฟ้มภาพซินหัว : ผู้เยี่ยมชมชมนิทรรศการที่พิพิธภัณฑ์ชิงโจว ในเมืองชิงโจว มณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน วันที่ 14 ก.พ. 2024)

ปักกิ่ง, 23 พ.ค. (ซินหัว) -- คณะนักวิจัยของจีนค้นพบเถ้ากระดูกวัวเป็นครั้งแรกในสารยึดติดหรือ "กาว" จากยุคโบราณที่พบในม้าดินเผา ซึ่งขุดพบจากหลุมศพยุคราชวงศ์ฮั่น (202 ปีก่อนคริสต์ศักราช-ปี 220) ในพื้นที่ทางตะวันออกของจีน

นักวิจัยจากคณะมรดกวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยซีเป่ย และพิพิธภัณฑ์ชิงโจว มณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน ระบุว่าการค้นพบนี้เผยแพร่ในวารสารเจอร์นัล ออฟ คัลเจอรัล เฮอริเทจ (Journal of Cultural Heritage) ฉบับเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ซึ่งถูกใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับการศึกษากาวโบราณและพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สำหรับการผลิตเครื่องปั้นดินเผาโบราณนักโบราณคดีกู้หลุมศพใกล้กับสุสานในเมืองชิงโจวเมื่อปี 2006 และค้นพบรูปสลักดินเผามากกว่า 2,000 ชิ้นที่ทำจากดินเหนียวสีเทา

หนึ่งในนั้นเป็นม้าดินเผาที่ดูเหมือนเคยได้รับการซ่อมแซมโดยใช้สารยึดติดนักวิจัยตรวจสอบตัวอย่างกาวจากชิ้นส่วนต่างๆ โดยใช้หลายเทคนิค อาทิ การสังเกตด้วยกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง ใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด เทคนิควิเคราะห์การเลี้ยวเบนของรังสีเอ็กซ์ (XRD) เพื่อวิเคราะห์และระบุชนิดสารประกอบ และเทคนิคอินฟราเรดสเปคโตรสโคปี

ซึ่งผลการวิจัยบ่งชี้ว่ามีเถ้ากระดูกและดินเหนียวที่ถูกเผาอยู่ในตัวอย่างข้างต้นโปรตีโอม (Proteome) หรือโปรตีนที่มีอยู่ในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต เปิดเผยว่ากระดูกสัตว์ที่พบในกาวมีที่มาจากสัตว์จำพวกวัว และเชื่อว่าเถ้ากระดูกนี้ผลิตขึ้นจากการเผาที่อุณหภูมิประมาณ 250 องศาเซลเซียสหลังจากถูกบดนอกจากนี้ กาวโบราณที่พบยังมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับกระบวนการประกอบและซ่อมแซมเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งแสดงให้เห็นระดับทางเทคนิคในช่วงเวลานั้น

ช่างฝีมือชาวจีนโบราณมักนำสารอินทรีย์มาใช้เป็นกาวอย่างแพร่หลาย ตัวอย่างเช่น ยางเหนียวจากต้นไม้และน้ำมันดินที่ถูกนำมาใช้ซ่อมแซมภาชนะที่แตกหัก หรือเพื่อซ่อมแซมของประดับตกแต่ง ขณะที่ไขมัน กาวจากสัตว์ (กาวเหลวที่ทำจากหนังและกระดูกของสัตว์) ยางจากพืช และไขผึ้ง ล้วนถูกนำมาใช้เพื่อยึดสิ่งของต่างๆ เข้าด้วยกัน