ยักษ์ใหญ่ลุ้นชอฟต์โลน แพ็กเก็จเที่ยวเข้าครม.

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (23 มีนาคม) นี้ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจะเสนอมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศทั้งโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เพื่อขออนุมัติ สิทธิ์การจองที่พักใหม่ 2 ล้านสิทธิ์ หรือ 2 ล้านห้อง, และโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” ให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติรายละเอียดการดำเนินโครงการทั้ง 2 โครงการ จากนั้นจะประสานกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ปรับปรุงรายละเอียด และขั้นตอนการใช้สิทธิ์ให้ชัดเจน ดังนั้นคาดว่าทั้ง 2 ล้านสิทธิ์จะไม่สามารถเปิดให้จองใช้ได้ทันในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์เดือนเมษายน 2564 ที่จะถึงนี้แต่ก็จะเปิดให้ใช้สิทธิ์ได้ถึงเดือนกรกฎาคม 2564

อย่างไรก็ตามยังมีสิทธ์ห้องพักจากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เดิมที่ผู้ใช้สิทธิ์ได้จองห้องพักแล้ว แต่เลื่อนระยะเวลาการเดินทางออกมาเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมาเหลืออยู่ประมาณ 6 ล้านสิทธิ์ ที่คาดว่าจะสามารถกระตุ้นบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวนี้ได้

@เปิดประเทศไตรมาส 3

พร้อมกันนี้ ททท.ได้เร่งปรับแผนการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทย ในลักษณะทยอยเปิดประเทศ เบื้องต้นยังคงกรอบระยะเวลาตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 3/2564 – ต้นไตรมาส 4/2564 และคงเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปี 2564 ที่ 6.5 ล้านคน

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า วันนี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะนำร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 (พ.ร.ก. Soft Loan 5 แสนล้านบาทของ ธปท.) ฉบับปรับปรุง, รวมถึงโครงการโกดังพักหนี้ หรือ Asset Warehousing บรรจุในวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อขอมติดำเนินการ

ทั้งนี้กระทรวงการคลัง ร่วมกับธนาคารแหงประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับปรุงร่าง พ.ร.ก.สินเชื่อฯ ในหลายๆ กรณีทั้งหลักการและสาระสำคัญให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยืดเยื้อส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก  ขณะเดียวกันยังได้ขยายกรอบความช่วยเหลือไปถึงผู้ประกอบการรายใหญ่มากขึ้น

สำหรับมาตรการโกดังพักหนี้ (asset warehousing) วงเงิน 1 แสนล้านบาท นั้นเปีนอีก 1 ในเครื่องมือช่วยผู้ประกอบการ ที่ไม่ได้ต้องการสินเชื่อหรือก่อหนี้เพิ่ม แต่ต้องการพักหนี้เพราะธุรกิจยังไปต่อไม่ได้ การ “แช่แข็งหนี้” จึงถือเป็นกลไกช่วยให้เจ้าของธุรกิจ ยังมีโอกาสรักษาทรัพย์สินไว้ โดยมีโอกาสกลับมาไถ่ถอนคืน

กระตุ้นจิตวิทยาลงทุน

นายธีระพล อุดมเวศย์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุ ความชัดเจนของ พ.ร.ก. Soft Loanถือเป็นปัจจัยกระตุ้นจิตวิทยาการลงทุนหุ้นกลุ่มสายการบิน เนื่องจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหากมีสินเชื่อรักษาสถานการจ้างงานเข้ามาเสริมให้กลุ่มสายการบิน มีบุคลลากรไว้รองรับการบริการนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศ-ระหว่างประเทศ ย่อมเป็นปัจจัยหนุนอย่างมีนัยสำคัญ แนะนำ “ซื้อลงทุน” AAVหากพ.ร.ก. Soft Loan มีความชัดเจน

ขณะที่กลุ่มท่องเที่ยว – โรงแรมแม้มาตรการภาครัฐฯ มีความชัดเจน แต่ราคาหุ้นหลายตัวโดยเฉพาะCENTEL นั้นถือว่าราคา outperform ตลาดฯ มาโดยตลอด แต่หากมีความชัดเจนของกรอบระยะเวลาการเปิดประเทศก็สามารถเข้าซื้อได้ ฝ่ายวิเคระห์แนะนำ “ซื้อ” ERW และ AOT

“ถ้า Soft Loan ผ่านราคา AAV คงวิ่งรับพอสมควร เพราะเป็นสายการบินเดียวที่จะได้อานิสงส์ทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ส่วนโรงแรม MINT กลับมามีความเสี่ยงการระบาดระยะสั้นในยุโรป ดังนั้นการลงทุนจึงน่าจะมองที่ ERW และ AOT ส่วน CENTEL นั้นแข็งแกร่งมาตลอด และก็จะแข็งแกร่งต่อไป ถ้าเข้าลงทุนก็ปลอดภัย แต่ระยะสั้นราคาถือว่านำกลุ่มไปมากแล้ว”