ศึกษาประวัติศาสตร์เส้นทางมรณะ ในกาญจนบุรี ขออนุญาตแนะนำตนเองคร่าวๆค่ะ ผู้เขียนเป็นนิสิตแพทย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศไทย กำลังจะขึ้นปีสุดท้ายของการเรียนแพทย์ ชื่นชอบการออกเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวเป็นอย่างมาก (สาวขาลุยนั่นเอง) ในบทความนี้จะมาเล่าถึงประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านการเดินทางในจังหวัดกาญจนบุรีโดยไม่ใช้รถส่วนตัว 1 วันกว่าๆ โดยผู้เขียนได้มาถึงตัวเมืองกาญจนบุรีโดยรถตู้ขึ้นจากรังสิต ออกเดินทางเมื่อเวลา 16.00 น. ของเย็นวันศุกร์ ถึงตัวเมืองกาญจนบุรีเวลาประมาณ 18.00 น. บอกรถตู้ขอลงที่แถวสะพานข้ามแม่น้ำแควค่ะ “สะพานข้ามแม่น้ำแควถูกสร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นซึ่งเกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรและอื่นๆจำนวนมากมาก่อสร้างเพื่อเป็นเส้นทางไปสู่พม่า หลังสงครามสิ้นสุดลงไทยได้ซ่อมแซมใหม่ให้เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ” หลังจากชมทัศนียภาพจากสะพานข้ามแม่น้ำแควแล้ว ท้องฟ้าเริ่มมืด ผู้เขียนได้เรียกรถอีแต๋นพาไปยังที่พักที่ได้จองไว้ใกล้ๆในตัวเมือง เช้าวันถัดมาเริ่มต้นวันใหม่ในวันเสาร์ ผู้เขียนโทรติดต่อรถตุ๊กๆจากเบอร์โทรที่หาจากเว็บไซค์รถตุ๊กๆรับจ้างต่างๆ รถตุ๊กๆมารับถึงหน้าที่พัก ผู้เขียนบอกสถานที่จุดหมายต่อไปซึ่งก็คืออำเภอไทรโยค สถานที่แรกที่ไปในวันนี้คือปราสาทเมืองสิงห์ “ที่แห่งนี้มีหลายโบราณสถานอยู่ข้างในอีกที โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธศาสนสถานในศาสนาพุทธ ซึ่งคล้ายกับสถาปัตยกรรมสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7” หลังจากนั้นจึงได้เรียกตุ๊กๆไปยังสถานที่ถัดไป... ถ้ำกระแซ “เป็นจุดสร้างทางรถไฟไทย-พม่า สมัยสองครามโลกครั้งที่ 2 ภายในถ้ำเคยเป็นที่พักของเชลยศึกทั้งหลายทั้งมวล” เมื่อเดินมาตามทางรถไฟสายมรณะนี้ได้ข้ามฝั่งมาที่ตลาดด้านตรงข้าม ได้เรียกรถตุ๊กๆที่จอดอยู่ไปยังสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกแห่ง... ช่องเขาขาด แต่ แต่ แต่... ระหว่างทางผ่านน้ำตกไทรโยคน้อย จึงแวะข้างทางลงมาถ่ายรูปดับร้อนเสียหน่อย และแล้วก็เดินทางมาถึงช่องเขาขาด “เรียกอีกชื่อว่าช่องไฟนรก เป็นเส้นทางของรถไฟทางเชื่อมไทย-พม่าสมัยสองครามโลกครั้งที่ 2 เช่นกัน ผ่านช่องเขาที่ถูกตัดขาดและก่อสร้างโดยเชลยศึก” เดินจนเหนื่อยแล้ว ถึงเวลา 11.30 น. ออกมาเรียกรถตุ๊กๆไปยังเมืองมัลลิกาที่อยู่ไม่ไกลนักเป็นสถานีต่อไปค่ะ “เมืองแสดงบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาสมัยก่อนในสมัยรัชกาลที่ 5 ร.ศ.125 ซึ่งมีการประกาศเลิกทาส มีการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ค้าขายเพื่อการดำรงชีพ” ก่อนที่กลับสู่จังหวัดกรุงเทพมหานคร ผู้เขียนได้ไปเยือนทุ่งหญ้า ชมเทือกเขาบริเวณสองข้างทางก่อนขึ้นรถตู้กลับกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ ข้อมูลทางประวัติศาสตร์เหล่านี้ผู้เขียนได้สรุปส่วนสำคัญมาจากการได้ฟังหรืออ่าน ณ สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้ไปเยือนซึ่งแท้จริงแล้วมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมายที่รอให้ผู้อ่านได้ไปศึกษา ถึงความรู้สมัยของครามโลกครั้งที่ 2 รวมถึงความเจ็บปวด ยากลำบากของเชลยศึกทุกๆคน การหลั่งเหงื่อ หลั่งน้ำตา และความเสียสละค่ะ รูปภาพและบทความ : นิสิตแพทย์ชั้นคลินิก