โปรตุเกสเริ่มฉีด 'วัคซีนป้องกันโควิด-19' ให้กองกำลังความมั่นคงแล้ว

ลิสบอน, 14 ก.พ. (ซินหัว) -- เมื่อวันเสาร์ (13 ก.พ.) โปรตุเกสเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ให้กับกองกำลังความมั่นคงของประเทศแล้ว โดยตั้งเป้าสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเจ้าหน้าที่ราว 20,000 คนภายใน 3 สัปดาห์จากนี้

“ในระยะแรกเราจะดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับผู้คน 2 กลุ่มที่มีความสำคัญสูงสุด ได้แก่ ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงกว่าในการติดเชื้อ และผู้ที่มีบทบาทหน้าที่ในการปกป้องพวกเรา” อันโตนิโอ คอสตา นายกรัฐมนตรีโปรตุเกส กล่าว ณ สำนักงานใหญ่ของกองกำลังพิทักษ์สาธารณรัฐแห่งชาติโปรตุเกสหรือจีเอ็นอาร์ (GNR) ในกรุงลิสบอน เมืองหลวงของโปรตุเกส

คอสตากล่าวว่า กองกำลังจีเอ็นอาร์และกองกำลังตำรวจสันติบาลเป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาตั้งแต่ต้น นอกจากนั้นยังประกาศว่ากลุ่มผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 80 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปซึ่งมีความเสี่ยงติดเชื้อ ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งเป็นแนวหน้าในการรับมือการแพร่ระบาด

คอสตาระบุว่า โปรตุเกสซึ่งมีจำนวนประชากร 10.3 ล้านคน หวังว่าจะบรรลุเป้าหมายในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชน 1.4 ล้านคนภายในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้

ขณะที่ทั่วโลกดิ้นรนกับการควบคุมการระบาดใหญ่ดังกล่าว บางประเทศได้เริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ผู้คนด้วยวัคซีนต่างๆ ที่ได้รับการอนุมัติแล้ว

ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (9 ก.พ.) ระบุว่ามีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 242 ตัวทั่วโลก โดยในจำนวนนี้ มีวัคซีน 63 ตัวที่อยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิกในหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงเยอรมนี จีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา