ตอนนี้ทุกคนต่างกักตัวอยู่ที่บ้าน เป็นผลมาจากโรคระบาดอย่าง COVID - 19 ซึ่งแน่นอนการกักตัว 14 วันอาจจะทำให้เกิดสภาวะต่าง ๆ ตามมาไม่ว่าจะเป็น เครียด เบื่อ หรือบางคนที่เป็นโรคซึมเศร่าอยู่ก็ค่อข้างหนักหน่อย หลายคนมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นในการกักตัว ไม่เคร่ง อยากให้เปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะบางทีคุณอาจจะเป็นต้นเหตุในการสร้างปัญหาให้ประเทศก็ได้ วันนี้ " ทิวเขาเงาตะวัน " จะมาชวนทุกคน " เปลี่ยนความคิดเพื่อพิชิตโควิด " กัน (เครดิตภาพ : เว็บไซต์ Pixabay) ก่อนอื่นทิวเขาต้องเล่าเท้าความให้ฟังก่อนะครับ คือทิวเขาเองเรียนที่นครปฐม ปล้วมหาลัยประกาศปิดแบบด่วนก็เลยเดินทางกลับบ้านทันที พอมาถึงบ้านก็ปฏิบัติตามมาตรการนการป้องกันของรัฐบาลก็คือกักตัว 14 วัน ในขณะที่มีบางคนที่ทิวเขารู้จักเดินทางกลับมาจากกรุงเทพ ใช่ครับ กรุงเทพ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงด้วย แต่กลับไปเที่ยวตามปกติ เมื่อถามว่าทำไมไม่กักตัว เขาตอบว่า ก็ไม่ต้องทำตามก็ได้ หยุดความคิดนี้ไปเลยนะครับ ปรับความคิดใหม่ ถ้าเราเผลอมีเชื้อโดยที่ไม่รู้ตัวล่ะ จากที่โรคกำลังจะหมดไป แต่อาจจะเพิ่มเพราะคุณ อย่าอ้างว่าไม่มีใครตรวจ ไม่เป็นอะไร เราควรมีความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อมาเมื่อกักตัว 14 วัน ทุกคนต่างมีคามคิดที่เบื่อ ๆ ไม่มีอะไรทำ ไม่มีงานได้เงิน ถ้าลองปรับความคิดว่า ช่วงนี้ให้ใช้เวลากับครอบครัว เป็นช่วงที่เราทำในสิ่งที่เราอยากทำ นอนหลับพักผ่อน ฟังเพลง ดูหนัง เราจะมาสรุปวิธีพิชิต หยุดอยู่บ้าน ออกข้างนอกยามจำเป็น อยู่ห่างกัน 2 เมตร ถ้ามาจากพื้นที่เสี่ยง กักตัว 14 วัน กินร้อน ช้อนใครช้อนมัน ถ้ากลับมาแล้วมีเหงื่อให้รีบอาบน้ำทันที ใช้แอลกอฮอล์ล้างมือตลอด ส่วมใส่หน้ากากอนามัย ไม่เสพสื่อที่ให้ข้อมูลเท็จ (เครดิตภาพ : เว็บไซต์ Pixabay) แล้วคุณกำลังคิดมากแพนิคว่าจะเป็นไหม จนเกิดอาการวิตกเกินไป อยากให้เปลี่ยนความคิด ลองเปลี่ยนมากินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย ดื่มน้ำเยอะ ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ เปลี่ยนจากความแพนิึมาเป็นการดูแลตัวเอง ส่วนใครที่กำลังหมดหวังก็ลองให้นึกถึงพยาบาล คุณหมที่กำลังปฏิบัติหน้าที่กันอยู่ เราไม่เสี่ยงเท่าเขา เรายังมีโอกาสน้อยที่จะติด แต่หมอ คือคนที่สามารถติดได้ตลอดเวลา เขายังสู้เลย เราก็ต้องสู้ ในกรณีที่ไม่มีอะไรกิน เงินหมด ลองปรับความคิดมาสร้างสรรค์เมนู ปรับการใช้เงินดู อาจจะทำให้เรารู้จักการจัดเก็บเงินก็ได้ สุดท้ายนี้ทิวเขาอยากจะส่งกำลังใจให้ทุก ๆ คน เพื่อก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน สู้ ๆ นะครับ (เครดิตภาพ : เว็บไซต์ Pixabay)