ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟังครับคุณผู้อ่าน เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมานี่เอง (28 ม.ค. 2566) คือผมได้มีโอกาสไปเดินซื้อของที่ตลาดเปิดท้ายในย่านที่ผมอยู่มา แล้วก็ได้เอามอเตอร์ไซต์ไปจอดไว้ตรงจุดจอด ข้างกันเป็นถนนใหญ่และข้างถนนก็จะมีรถยนต์มาจอดชิดกับขอบฟุตบาทไว้ ซึ่งก็เป็นอะไรที่ปกตินั่นล่ะครับแต่วันนี้มันดันมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นน่ะสิ! เพราะผมดันสังเกตเห็นงูตัวหนึ่งเลื้อยระเรี่ยมากับขอบฟุตบาทด้วย! ตลาดนี้เป็นตลาดใหญ่ครับ เรียกได้ว่าตรงจุดจอดรถตรงนี้จะมีคนเดินอยู่ตลอด แต่ลักษณะการเดินจะเป็นการเดินแบบรีบเร่งไม่สนใจไม่มองอะไรเลยจิตใจของคนจะจดจ่อไปที่การเข้าไปในตลาด ทำให้มีคนสังเกตเห็นงูพิษตัวนี้น้อยมาก ผมคิดว่านอกจากผมแล้วก็น่าจะมีคนที่เห็นไม่ถึง 10 คน.แต่ตลกร้ายก็เกิดขึ้นครับคุณผู้อ่าน เพราะแต่ละคนก็ไม่มีใครทำอะไรเลย บางคนก็เอาโทรศัพท์มาถ่ายรูปงูตัวนี้เก็บไว้ บางคนก็ยืนขวางทางงูคอยกันมันไม่ให้เลื้อยเข้าไปในรถของตัวเอง บางคนก็ได้แต่ชี้นิ้วแล้วบอกว่า "งูๆระวังนะ!" แล้วก็ยืนดู ไม่เว้นแม้กระทั่งผมเองที่ยืนดูอยู่แป๊บนึงในใจก็คิดว่าจะรีบก้าวหนีไปจากจุดนี้ให้พ้นๆ ไม่อยากให้ตัวเองเดือดร้อน ใครจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ไม่ชี้แล้ว เรียกได้ว่าเป็นการหนีเอาตัวรอดแบบเต็มขั้น งูตัวนี้เป็นงูเขียวหางไหม้ขนาดเล็กมากครับ แต่เป็นงูพิษล้านเปอร์เซ็นต์กัดเด็กนี่คือตายสถานเดียว ผมเห็นผู้หญิงบางคนนี่ถึงกับกระโจนวิ่งหน้าตั้งพร้อมกับกรีดร้องเลยก็มี แต่ครานั้นก็ยังไม่มีใครคิดจะทำอะไรกับมันอยู่ดี จนกระทั่งมีพี่ผู้ชายคนหนึ่งอายุน่าจะราวๆ 20 - 25 ปี แกเดินมาพร้อมกับแฟนสาว ผู้หญิงนี่ชี้นิ้วตะโกนบอกก่อนเลยว่างู! แต่แทนที่พี่แกจะจับมือแฟนเดินเลี่ยงไปทางอื่นเหมือนคู่อื่นๆ .พี่คนนี้กลับควักกระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วก็ครี่ออก จากนั้นแกก็เอาไปเขี่ยตัวงูมันซะอย่างงั้น! งูมันก็ดิ้นครับคุณผู้อ่านมันเลื่อยของมันอยู่ดีๆ มันคงตกใจและแว้งจะหันมาทำร้าย! ส่วนพี่ผู้ชายแกก็เริ่มกำหางงูแล้วก็ดึงๆๆๆ! เพื่อไม่ให้ตัวงูเลื่อยเข้าไปใต้ท้องรถเก๋ง ก็เลยเกิดเป็นการฉุดรั้งต่อสู้กันอยู่พักใหญ่ โดยที่บริเวณรายรอบไม่เหลือใครเลยนอกจากผมกับแฟนของพี่เขา ที่ยืนถอยห่างออกมามากกว่า 5 เมตรแล้วสุดท้ายงูก็หลุด! มันเลื้อยเข้าไปใต้ท้องรถเก๋งเรียบร้อย! พี่พลเมืองดีแกรีบวิ่งไปที่รถตัวเองเพื่อหยิบอุปกรณ์ตัวช่วย ส่วนผมก็เห็นท่าไม่ดีผมว่าผมต้องทำอะไรสักอย่างเลยวิ่งสวนไปอีกทางเพื่อรีบไปบอกยามเฝ้าตลาด ไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้ไหมแต่จังหวะนี้ต้องทำเท่าที่ทำได้ไปก่อน พอผมกลับมาพร้อมยามผมก็เห็นพี่แกก้มๆเงยๆส่องหางูที่อยู่ใต้ท้องรถ ในมือแกมีร่มอยู่คันหนึ่ง ส่วนยามที่มาพร้อมกับผมไม่มีอะไรเลยนอกจากกระบอกไฟฉาย .สิ่งที่ยามทำได้คือช่วยส่องไฟ แล้วก็เป็นพี่พลเมืองดีนั่นล่ะครับที่เป็นฮีโร่แกเสี่ยงชีวิตดึงงูออกมาจนได้ แล้วก็ใช้คันร่มในมือกดหัวงูเอาไว้กับพื้นพลางบอกให้ยามไปหาของที่จะใช้ใส่งูมา จังหวะนั้นผมหันไปคุยกับแฟนพี่เขาอีกครั้งเธอบอกว่าพี่คนนี้แกจับงูบ่อย แต่ปกติแกจะตีให้ตายไปเลยไม่ใช้วิธีทะนุถนอมแบบนี้หรอก คุณผู้อ่านคิดเหมือนผมไหมครับ ว่าลุงยามแกน่าจะกลับมาพร้อมกับกระสอบปุ๋ยหรือถุงผ้าอะไรสักอย่างที่มันหนาๆหน่อย แต่ไม่เลยเพราะแกดันกลับมาพร้อมกับขวดพลาสติกเพียงแค่ใบเดียว! แถมไม่ใช่ขวดแกลลอน 5 ลิตรด้วยนะครับ แต่เป็นขวดน้ำเล็กๆขวดละ 10 บาท เล็กจนแทบจะพอดีกับตัวงูเลย ทว่าพี่แกก็ไม่สนใจแกน่าจะเซียนพอ ผมยืนดูแกค่อยๆ สอดปากขวดสวมเข้าไปในหัวงู พลางปล่อยคันร่มออกช้าๆ ให้งูมันกระดืบๆ เข้าไปในขวดอย่างละมุนละม่อม ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเข้าง่ายขนาดนี้ เผลอแป๊บเดียวทั้งตัวก็เข้าไปอยู่ในขวดปิดฝาเรียบร้อย.แกยื่นขวดนั้นให้ยามแล้วยามก็เดินยิ้มแป้นจากไปเลย รอบบริเวณไม่มีใครรู้ว่าวีรกรรมของพี่แกช่างน่าสดุดีขนาดไหน แกเดินกลับมาหาแฟนอีกครั้งแล้วก็มีแค่ผมเพียงคนเดียวที่ยกมือไหว้ขอบคุณแกด้วยความชื่นชมจริงใจ ไม่มีแกไม่รู้วันนี้จะจบลงยังไง กระบอกไฟฉายยามคงจับงูไม่ได้แล้วก็มีผู้คนมากมายที่เพิกเฉยกับเรื่องนี้ รวมทั้งตัวผมด้วยที่แสนจะไร้ประโยชน์พี่คนนี้จะเดินผ่านไปเลยก็ได้แต่แกเลือกที่จะไม่ทำ แกเลือกที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆแม้ว่ารอบตัวจะไม่มีใครเห็น คนแบบนี้ควรจะได้รับการสรรเสริญครับคุณผู้อ่าน คนที่ทำดีโดยไม่หวังผลตอบแทนและถ้าพลาดตัวเองก็อาจจะตายได้เลย (งูเขียวหางไหม้มีพิษเป็นรองแค่งูเห่ากับจงอางเท่านั้น) แล้วรู้อะไรไหมครับว่าหลังจากนั้นผมยังเตร็ดเตร่อยู่แถวนั้นอยู่.ผมเห็นเจ้าของรถเก๋งคันนั้นกลับมา คนขับเป็นผู้หญิงเธอมาพร้อมกับลูกน้อยที่น่าจะอยู่ในวัยอนุบาล จินตนาการไม่ออกเลยครับว่าผู้หญิงกับเด็กและงูพิษพอขับรถออกไปอะไรจะเกิดขึ้น บอกได้คำเดียวว่าถ้าไม่มีวีรกรรมของพี่แกอาจจะเกิดเรื่องเศร้าในสังคมเราไปแล้วก็ได้ ประเทศเรามีคนหลายแบบครับคุณผู้อ่าน ร้อยพ่อพันแม่แตกต่างผ่านการเลี้ยงดู ถ้าผมขอพรได้ผมอยากให้มีคนแบบพี่คนนี้ในบ้านเมืองเราเยอะๆๆ! แต่ถ้ามันยากเกินไปเอาเป็นว่าผมขอให้บ้านเมืองเรามีคนแบบผมน้อยลงหน่อยก็คงจะดี! คนแบบนี้มีมากเกินไปจนรกประเทศแล้วครับ! เครดิตรูปภาพภาพปก 1 : Petr Ganaj / pexels.comภาพปก 2 : Anna Shvets / pexels.comภาพที่ 1 : John M / pexels.comภาพที่ 2 : Victoria Akvarel / pexel.comภาพที่ 3 : Petr Ganaj / pexels.comภาพที่ 4 : Sarah Chai / pexel.comภาพที่ 5 : Mengliu Di / pexel.comเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !