คำสั่ง IF เป็นคำสั่งพื้นฐานที่ใช้งานบ่อยอีกคำสั่งหนึ่ง ซึ่งจะช่วยให้เราใช้ในการเปรียบเทียบเงื่อนไขว่าเป็นจริงหรือเท็จ (true หรือ false) และคำสั่งนี้จะมีในโปรแกรม Spreadsheet ทั้ง Excel, Google Sheet และอื่นๆ อีกด้วยคำสั่ง IF อาจดูน่ากลัวเล็กน้อย 😣 แต่ก็เป็นหนึ่งในคำสั่งที่มีประโยชน์ที่สุดในโปรแกรม Google Sheet ที่จะช่วยให้เราสามารถคำนวณโดยพิจารณาว่าข้อมูลของเรานั้นตรงตามเงื่อนไขที่ต้องการหรือไม่ และคำสั่ง IF สามารถใช้ร่วมกับคำสั่งอื่นๆ เพื่อสร้างสูตรที่ตรงกับความต้องการของเราได้คำสั่ง IF ทำอะไรคำสั่ง IF พูดง่ายๆ ก็คือจะตรวจสอบเงื่อนไขที่เราใส่ลงไปว่าเงื่อนไขนั้นเป็นจริงหรือเท็จ (true หรือ false) อย่างที่กล่าวไปข้างต้น โดยเราสามารถตรวจสอบเงื่อนไข และให้ทำสิ่งหนึ่งเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง และให้ทำอีกสิ่งหนึ่งเมื่อเงื่อนไขเป็นเท็จ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เราจะพิมพ์คำว่า "ผ่าน" ในกรณีที่คะแนนของนักเรียนมีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 60 ขึ้นไป และถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จ หรือคะแนนน้อยกว่า 60 จะให้พิมพ์คำว่า "ไม่ผ่าน" และนอกจากนี้เรายังสามารถใช้คำสั่ง IF ซ้อนๆ กันหลายชั้นหรือใช้ร่วมกับคำสั่งอื่นๆ เพื่อหาตรวจสอบหลายเงื่อนไขที่ซับซ้อนอีกด้วยรูปแบบคำสั่ง IF ใน Google Sheetรูปแบบของคำสั่ง IF ในโปรแกรม Google Sheet นั้นมีลักษณะดังนี้ คำสั่ง IF มีส่วนประกอบดังนี้IF คือคำสั่งที่เราต้องการใช้งาน เป็นการบอก Google Sheet ว่าเราจะเปรียบเทียบเงื่อนไขว่าเป็นจริงหรือเท็จlogical_expression คือเงื่อนไขที่ต้องการตรวจสอบในคำสั่ง IF และจะส่งค่าคืนมาเป็นจริงหรือเท็จอย่างใดอย่างหนึ่งvalue_if_true คือค่าหรือสิ่งใดก็ตามที่จะส่งค่าคืนจากคำสั่ง IF เมื่อเงื่อนไขใน logical_expression เป็นจริงvalue_if_false คือค่าหรือสิ่งใดก็ตามที่จะส่งค่าคืนจากคำสั่ง IF เมื่อเงื่อนไขใน logical_expression เป็นเท็จมาว่ากันที่ตัวอย่างการใช้งานตัวอย่างที่ 1 (ตัวอย่าง IF แบบง่าย)ต้องการตรวจสอบผลคะแนนของพนักงานในการอบรมว่าถ้าจะผ่านต้องมีคะแนนตั้งแต่ 50 คะแนนขึ้นไป เราสามารถใช้สูตร เมื่อเราพิมพ์คำสั่งเสร็จและคัดลอกคำสั่งลงมาในเซลล์อื่นๆ เป็นที่เรียบร้อยก็จะได้ผลลัพธ์ดังภาพข้างต้น แต่คำสั่ง IF และส่วนประกอบภายในนั้นทำงานอย่างไรบ้าง ไปดูกันB2>=50 คือเงื่อนไขที่เราต้องการตรวจสอบโดย B2 คือตำแหน่งเซลล์ที่ต้องการตรวจสอบและ >= คือเป็นการใส่เงื่อนไขว่าเซลล์ B2 จะต้องมีค่า "มากกว่าหรือเท่ากับ" ดังนั้น B2>=50 จะหมายถึงถ้า B2 มีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 50 เงื่อนไขจะเป็นจริงแต่ถ้า B2 มีค่าต่ำกว่า 50 จะมีค่าเป็นเท็จ"Pass" และ "Fail" เป็นการบอก Google Sheet ว่าถ้าเงื่อนไขที่ตรวจสอบเป็นจริงจะให้คำสั่ง IF คืนค่าคำว่า "Pass" ออกมา ส่วนในกรณีที่ไม่ผ่านเงื่อนไขหรือเงื่อนไขเป็นเท็จก็จะคืนค่าคำว่า "Fail" กลับคืนมาตัวอย่างที่ 2 (คำสั่ง IF แบบซ้อนกันมากกว่า 1 คำสั่ง)เราสามารถใช้งานคำสั่ง IF หลายๆ คำสั่งซ้อนๆ กันได้ เพื่อความง่ายในการทำความเข้าใจ ขออ้างอิงจากโจทย์ที่แล้วคือ ถ้าคะแนนมากกว่าหรือเท่ากับ 50 จะถือว่าผ่านและต่ำกว่า 50 คือไม่ผ่าน นอกจากนี้ถ้าคะแนนน้อยกว่า 40 จะต้องทำการฝึกอบรมใหม่โดยเงื่อนไขที่เพิ่มมาเพิ่มเติมคือคะแนนน้อยกว่า 40 จะต้องทำการฝึกอบรมใหม่อีกครั้งหนึ่งเราจะเขียนเงื่อนไขได้เป็น =IF(B2>=50, "No", IF(B2<40, "Yes", "No"))ก็จะได้ผลลัพธ์ดังภาพนะครับจริงๆ แล้วขอสารภาพว่าคำสั่งเพื่อตรวจสอบว่าต้องทำการฝึกอบรมใหม่นั้นใช้คำสั่ง IF สั้นๆ ไม่ต้องซ้อนคำสั่ง IF ก็ได้นะครับ เช่น IF(B2<40, "Yes", "No") แค่นั้นก็เพียงพอแล้วนะครับ แต่ตัวอย่างเพื่อให้เห็นการใช้งานได้ชัดเจนเลยทำเป็นตัวอย่างขึ้นมา 😁เพื่อความเข้าใจง่ายว่าคำสั่ง =IF(B2>=50, "No", IF(B2<40, "Yes", "No")) มีขั้นตอนการทำงานอย่างไร จะเขียนเป็นแผนผังให้พิจารณานะครับโดยลำดับการทำงานจะเริ่มจากตรวจสอบ B2>=50 (B2 มากกว่าหรือเท่ากับ 50) หรือไม่ถ้ามากกว่าก็จะไปทางด้านขวามือและส่งคำว่า "No" กลับคืนมา)ถ้าค่า B2 น้อยกว่า 50 จะมาทางแกนด้านซ้ายมือและมาตรวจสอบ IF(B2<40) ถ้า B2 น้อยกว่า 40 จะส่งคำว่า "Yes" กลับมา แต่ถ้ามากกว่าหรือเท่ากับ 40 จะคืนคำว่า "No" กลับมาน่าจะพอเข้าใจนะครับ 🙄 รอบหน้าจะมาว่ากันถึงเรื่องการตรวจสอบสองเงื่อนไขพร้อมๆ กัน ด้วยการใช้เงื่อนไขแบบ AND หรือ OR กันต่อนะครับภาพโดยนักเขียนหมีขั้วโลก ทอดกรอบ〔´(エ)`〕อัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !