เตือนพายุคาจิกิถล่มน่าน! เสี่ยงน้ำป่า-น้ำท่วมใหญ่ เปราะบางสุดในภาคเหนือ

ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับ พายุคาจิกิกับความเสี่ยงน้ำท่วมใหญ่ในจังหวัดน่าน
จังหวัดน่านเป็นพื้นที่ที่มีความสวยงามทางธรรมชาติและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ในอีกด้านหนึ่งก็มีความเปราะบางทางสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดพายุฝนฟ้าคะนองหรือพายุหมุนเขตร้อน พื้นที่แห่งนี้มักประสบกับปัญหาน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าพายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” จะอ่อนกำลังลงและเคลื่อนเข้าสู่จังหวัดน่านในวันที่ 26 ส.ค. ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ และมีแนวโน้มที่จะเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ได้
สาเหตุที่ทำให้จังหวัดน่านมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดน้ำท่วมมีหลายประการ ประการแรก ลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดน่านเป็นภูเขาและพื้นที่ลาดชันมากถึงร้อยละ 85 ของพื้นที่ทั้งหมด มีพื้นที่ราบเพียงส่วนน้อยซึ่งกระจายอยู่ตามลุ่มแม่น้ำน่าน เมื่อเกิดฝนตกหนัก น้ำจากภูเขาสูงจึงไหลลงสู่ที่ราบอย่างรวดเร็วตามความลาดเอียงของภูมิประเทศ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันอยู่บ่อยครั้ง
ประการที่สอง การสูญเสียพื้นที่ป่าต้นน้ำถือเป็นปัจจัยสำคัญ พื้นที่ป่าจำนวนมากถูกบุกรุกเพื่อทำการเกษตร โดยเฉพาะการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บนพื้นที่ลาดชัน ส่งผลให้ดินขาดความสามารถในการซึมซับน้ำตามธรรมชาติ เมื่อฝนตกหนัก น้ำฝนที่ควรจะถูกดูดซับโดยป่าต้นน้ำจึงไหลบ่าลงสู่พื้นที่ราบและแม่น้ำน่านอย่างฉับพลัน
ประการที่สาม แม่น้ำน่านที่ไหลผ่านกลางจังหวัด เป็นลำน้ำสายหลักที่รับน้ำจากพื้นที่สูงลงสู่ที่ต่ำ โดยไหลผ่านอำเภอบ่อเกลือ ทุ่งช้าง ปัว เมืองน่าน เวียงสา และอีกหลายอำเภอก่อนจะไหลต่อไปยังจังหวัดอุตรดิตถ์ ลักษณะการไหลของแม่น้ำทำให้เมื่อมีฝนตกหนัก ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นรวดเร็วและอาจล้นตลิ่งเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจในเมืองได้ง่าย
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ที่ถือว่าเป็นจุดเสี่ยงภัยน้ำท่วมและดินถล่ม ได้แก่ อำเภอปัวและอำเภอนาน้อย ซึ่งมักประสบปัญหาน้ำป่าไหลหลากเป็นประจำ รวมถึงอำเภอบ่อเกลือและท่าวังผาที่มักเกิดน้ำท่วมซ้ำซากทุกครั้งที่มีพายุพาดผ่าน
กล่าวโดยสรุป จังหวัดน่านมีความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่จาก “พายุคาจิกิ” อันเนื่องมาจากลักษณะภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูงชัน การสูญเสียพื้นที่ป่าต้นน้ำ และการไหลผ่านของแม่น้ำน่าน ปัจจัยเหล่านี้ล้วนทำให้จังหวัดน่านเปราะบางต่อภัยธรรมชาติและควรได้รับการเฝ้าระวังและเตรียมการป้องกันอย่างใกล้ชิด เพื่อบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่