AGEเข้าธุรกิจสีเขียว ลุยลดคาร์บอน-ลิสซิ่ง
#AGE #ทันหุ้น – AGE ดันธุรกิจเข้าโหมดกรีนเอนเนอร์จี แย้มศึกษาความเป็นไปได้ธุรกิจคาร์บอนเครดิต บิ๊กบอส “พนม ควรสถาพร” ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2566 แตะ 2 หมื่นล้านบาท จากปีนี้คาดจบที่ 1.8 หมื่นล้านบาท จับตามาร์จิ้นฟู คาดอัตรากำไรสุทธิใกล้เคียง 10% มองราคาถ่านหินท้ายปีพุ่ง ดีมานด์ล้นพร้อมลุยลิสซิ่งล็อตแรก
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติสก์แบบครบวงจร ขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า เปิดเผยว่า บริษัทจะผลักดันธุรกิจ AGE สู่กรีนเอนเนอร์จี หรือธุรกิจเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยธุรกิจในเครือ AGE ธุรกิจด้านโลจิสติกส์จะปรับไปใช้พลังงานไฟฟ้าจากเดิมใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานที่สะอาดและบริสุทธิ์
*ลุยคาร์บอนเครดิต
ขณะเดียวกันบริษัท แอท เอนเนอจี โซลูชั่น จำกัด หรือ AT ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง AGE และบริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในธุรกิจคาร์บอนเครดิต รวมถึงซัพพลายที่จะใช้ดำเนินธุรกิจ โดยมีบริษัท เอเชีย ไบโอแมส จำกัด (มหาชน) หรือ ABM เป็นผู้ซัพพลายของให้ในอนาคต
ขณะที่ทิศทางธุรกิจการจำหน่ายถ่านหิน ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก (Core Business) ในปี 2566 คาดยอดขายจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามดีมานด์และราคาถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้คาดในช่วงท้ายปี 2565 ราคาถ่านหินจะยืนอยู่ในระดับสูง เพราะช่วงฤดูหนาวในแถบประเทศยุโรปอีกทั้งดีมานด์ช่วงท้ายปีจะมีปริมาณมากขึ้น
*รายได้ชน 2 หมื่นล.
บริษัทคาดทิศทางรายได้รวมปี 2566 จะเติบโตเพิ่มขึ้นไปถึง 2 หมื่นล้านบาท จากปีนี้คาดทำได้ไม่ต่ำกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท สำหรับรายได้หลักจะมาจากธุรกิจจำหน่ายถ่านหิน ปัจจุบันบริษัทมีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ล่วงหน้าประมาณ 3-4 แสนตัน โดยจะทยอยส่งมอบตั้งแต่ช่วงที่เหลือปีนี้ไปจนถึงต้นปี 2566
ส่วนธุรกิจโลจิสติสก์ ขนส่งทางน้ำ ทางบก ท่าเรือ คลังสินค้าคาดปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 2.4 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ 2 พันล้านบาท จากการให้บริการโลจิสติกส์กลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการขนส่งเกี่ยวกับสินค้าประเภทปูนซีเมนต์ ทราย แก้ว และกากอุตสาหกรรม
ด้านการขยายธุรกิจด้านโลจิสติกส์ต่อจากนี้ บริษัทจะลงทุนรถบรรทุกเพิ่ม 20 คัน มูลค่า 80 ล้านบาท ลงทุนโกดังเก็บสินค้ามูลค่า 40 ล้านบาท และลงทุนในระบบบริหารจัดการ IT มูลค่า 10 ล้านบาท เพื่อรองรับการให้บริการด้านโลจิสติกส์ ในระยะยาว และเสริมสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของผลการดำเนินงานรวมของกลุ่ม
*ปล่อยสินเชื่อล็อตแรก
นอกจากนี้บริษัทจะขยายธุรกิจลิสซิ่ง ภายใต้ชื่อบริษัทย่อย เอจีอี ลิสซิ่ง จำกัด เบื้องต้นจะเริ่มปล่อยสินเชื่อรถให้กับรถร่วมที่เป็นพันธมิตร โดยตั้งเป้าปล่อยลิสซิ่งล็อตแรกจำนวน 12 คัน และจะทยอยเพิ่มขึ้นเป็น 50 คัน ในปี 2566 คาดจะใช้เงินสำหรับปล่อยลิสซิ่งประมาณ 200-250 ล้านบาท โดยจะเริ่มปล่อยสินเชื่อในไตรมาส 4/2565 นี้
“ปีนี้เราปรับรายได้จาก 1.6 หมื่นล้านบาท เป็น 1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งดูจากแนวโน้มแล้วมีโอกาสจะทำได้ตามเป้าจากออเดอร์ถ่านหินที่มีเข้ามา รวมถึงราคาถ่านหินที่ปรับตัวสูง จะช่วยดันรายได้และมาร์จิ้นให้เติบโตเพิ่มขึ้น รวมถึงบริหารจัดการต้นทุนที่ดี จะทำให้อัตรากำไรสุทธิ หรือ Net Profit Margin ปีนี้เราปรับตัวดีขึ้น หรือใกล้เคียง 10%” นายพนม กล่าว