ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทย เรากินข้าววันละ 3 มื้อ กินอยู่ทุกวัน เรารู้ว่าข้าวมีหลากหลายสายพันธ์ แต่เคยสังเกตุหรือไม่ ว่าข้าวที่เรากินแต่ละครั้ง แต่ละช่วงปีนั้นมีรสชาติ มีกลิ่น และมีความแตกต่างกันอย่างไร วันนี้เราจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับข้าวใหม่ข้าวเก่า ข้าวใหม่ ข้าวเก่า คืออะไร? หลายๆคนยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร ทำไมต้องเรียกแบบนี้ ข้าวใหม่ ก็คือข้าวที่เพิ่งเก็บเกี่ยวมา ในช่วงเกี่ยวข้าวนั้นเอง ข้าวเก่า ก็คือข้าวที่เก็บเกี่ยวไว้นานแล้ว ส่วนมากจะใช้เรียกข้าวที่มีอายุการเก็บเกี่ยวมาเกือบๆ 1 ปี ใกล้ช่วงเก็บเกี่ยวอีกครั้ง ความแตกต่างของข้าวใหม่ข้าวเก่าล่ะ? ข้าวใหม่จะมีกลิ่นหอมของข้าวคุณเคยกินข้าว หุงข้าวแล้วมีกลิ่นหอม อ่อนๆออกมามั้ย ในข้าวใหม่จะมีมากกว่าข้าวเก่ามาก เพราะข้าวใหม่จะยังความสดจากต้นอยู่ ส่วนข้าวเก่าเพราะว่าเก็บเกี่ยวมานาน ความสดจะหายไป จะทำให้ไม่ค่อยมีความชุ่มชื้นในเมล็ดข้าว ความหอมก็จะไม่ค่อยมี แล้วเราจะแยกออกอย่างไรล่ะ ในข้าวเปลือกอาจจะดูยาก แต่ก็ยังคงเห็นความแตกต่างบ้าง ข้าวใหม่ เม็ดข้าวจะดูสีสดกว่าเล็กน้อย เพราะยังมีความชื้นอยู่ ข้าวเก่าสีจะค่อยข้างอ่อน ดูแห้งๆในข้าวสาร จะดูง่ายกว่า และมีข้อแตกต่างค่อนข้างชัดเจน ข้าวใหม่ สีจะใส ปะปนเขียวในข้าวที่บางเมล็ดยังไม่แก่เต็มที่ ดมดูมีกลิ่นหอมชัดเจน ข้าวเก่า สีของข้าวจะค่อนข้างขุ่น ดมดูไม่ค่อยมีกลิ่น เคล็ดลับการหุงข้าว พอได้รู้ว่าข้าวใหม่ข้าวเก่าต่างกันอย่างไร มีอีกอย่างที่อยากฝากทุกคน นั้นคือการหุงข้าวของข้าวแต่ละชนิด การหุงข้าวใหม่ ควรใส่น้ำให้น้อยลง เพราะอย่างที่รู้กันว่าข้าวใหม่จะมีความชื้นอยู่ เวลาหุงในน้ำที่มากไปข้าวจะแฉะ ให้ลดปริมาณของน้ำลง จะได้ข้าวที่นุ่มพอดี การหุงข้าวเก่า ปริมาณน้ำต้องมากขึ้นเพราะข้าวเก่าความชื้นจะน้อย ข้าวมีความแข็งมากกว่าปกติ จึงต้องเพิ่มน้ำ สำหรับเรามีสูตรเวลาหุงข้าวไฟฟ้าจากคุณน้า นั้นคือ ใส่น้ำโดยใช้นิ้ววัดค่ะ โดยในน้ำเท่ากับข้อนิ้วข้อแรก หรือประมาณ เกือบ 2 ซม. ค่ะ ส่วนถ้าข้าวใหม่มากๆ ก็ลดลง แต่ถ้าเก่ามากๆ ก็เพิ่มน้ำขึ้นอีกค่ะ ไม่ว่าจะใส่ข้าวมากแค่ไหนก็ใช้สูตรนี้ สำหรับหุงข้าวหม้อไฟฟ้านะคะ หวังว่าความรู้เรื่องข้าวนี้จะทำให้ทุกคนสังเกตุ และเลือกซื้อข้าว และหุงข้าวได้ถูกวิธีนะคะ