รีเซต

ส่องหุ้น 2 แบงก์ใหญ่ BBL-SCB หลังประกาศงบ Q3/63, คาดแนวโน้ม Q4

ส่องหุ้น 2 แบงก์ใหญ่ BBL-SCB หลังประกาศงบ Q3/63, คาดแนวโน้ม Q4
ทันหุ้น
21 ตุลาคม 2563 ( 12:13 )
254
ส่องหุ้น 2 แบงก์ใหญ่ BBL-SCB หลังประกาศงบ Q3/63, คาดแนวโน้ม Q4

ทันหุ้น-สู้โควิด : โบรกเกอร์ มองผลประกอบการไตรมาส 3/63 ของธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BBL และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) หรือ SCB ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ขณะที่มองแนวโน้มไตรมาส 4/63 ยังไม่สดใส จึงหั่นประมาณการกำไรปีนี้และปีหน้าลง พร้อมปรับลดราคาเป้าหมาย

 

บล.โนมูระ พัฒนสิน มีมุมมองเชิงลบเล็กน้อยต่อกำไรสุทธิไตรมาส 3/63 ของ BBL ซึ่งอยู่ที่ 4 พันล้านบาท ลดลง 57% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 30% จากไตรมาส 2/63 ซึ่งกำไรต่ำกว่าคาด 37% จากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงกว่าคาด ด้านกำไรที่ลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะรายได้ค่าธรรมเนียมอ่อนแอลง ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น หลังรวม Permata แต่หากเทียบกับไตรมาส 2/63 ที่ฟื้นตัว เพราะค่าใช้จ่ายสำรองที่ต่ำลง

 

ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/63 หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน คาดว่าจะลดลง เพราะในไตรมาส 4/62 ธนาคารมีบันทึกกำไรจากเงินลงทุนราว 1.5 หมื่นล้านบาท, รายได้ค่าธรรมเนียมอ่อนแอลง และ NIM ลดลงจากการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ แต่หากเทียบกับไตรมาส 3/63 คาดว่าจะฟื้นตัว เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษเหมือนในไตรมาส 3/63 

 

อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการกำไรปี 2563-2564 ลง 11% และ 19% ตามลำดับ จากการปรับเพิ่มสมติฐานค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน เพื่อสะท้อนต่อค่าใช้จ่ายไตรมาส 3/63 ที่มากกว่าคาด เป็นผลให้กำไรในปี 2563 และ 2564 จะอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท  และ 2.3 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ  

 

โดยยังคงแนะนำซื้อหุ้น BBL แต่ปรับลดราคาเป้าหมายของปี 2564 ลงมาที่ 110 บาทต่อหุ้น จากเดิมที่ 125 บาทต่อหุ้น ซึ่งยังเลือกเป็นหุ้น Top pick ของกลุ่ม เพราะนโยบายจัดชั้น NPL ที่เข้มงวด การตั้งสำรองล่วงหน้า ทำให้ downside risk ของค่าใช้จ่ายสำรองต่ำ 

 

ส่วนหุ้น SCB ก็มีมุมมองเชิงลบต่อกำไรสุทธิไตรมาส 3/63 ซึ่งอยู่ที่ 4.6 พันล้านบาท ลดลง 69% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 45% จากไตรมาส 2/63 ต่ำกว่าที่คาด เพราะค่าใช้จ่ายสำรองสูงกว่าคาด ส่วนแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/63 คาดหดตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเทียบกับไตรมาส 3/63 เพราะค่าใช้จ่ายสำรองปรับขึ้นต่อเนื่อง 

 

โดยได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2563-2564 ลดลง 17% และ 21% ตามลำดับ ตามการปรับเพิ่มสมมติฐานค่าใช้จ่ายสำรอง เป็นผลให้กำไรปี 2563 และ 2564เป็น 2.6 หมื่นล้านบาท และ 2.8 หมื่นล้านบาท โดยแนะนำ Neutral และปรับลดราคาเป้าหมายลงมาอยู่ที่ 64 บาทต่อหุ้น จากเดิมที่ 78 บาทต่อหุ้น 

 

ราคาหุ้น BBL ช่วงเที่ยง อยู่ที่ 95 บาท บวก 3.25 บาท หรือ 3.54% มีมูลค่าการซื้อขาย 538.26 ล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง