สำหรับในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านของวัฒนธรรม เทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีแนวโน้มที่มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง จนกลายเป็นค่านิยมใหม่ในการใช้ชีวิตและการเรียนรู้ ซึ่งแน่นอนสิ่งเหล่านี้ คือ ดาบสองคม ถ้ารู้มากเกินไปแล้วนำไปใช้ในทางที่ผิด ก็จบ แต่ถ้านำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็น่ายินดีอย่างยิ่ง แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของทุกๆชีวิตและทุกภาคส่วน ทุกๆธุรกิจ ไม่เว้นแม้แต่การเรียนรู้ของเจ้าลูกน้อย ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่ให้พวกเขาจับต้องสิ่งเหล่านี้ แต่จะทำอย่างไรให้อยู่ขอบเขตและมีความเหมาะสมมากที่สุด มันจะไร้ค่ามากถ้าหาก คุณพ่อ คุณแม่ เลือกที่จะใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายและปล่อยให้ลูกเล่นมือถือ แท็บเล็ต หรือดูการ์ตูนอยู่เพียงลำพัง โดยที่เราไม่ได้ให้ความใกล้ชิดหรือสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับลูกของเรา นั่นจะส่งผลต่อสุขภาพจิตและสมาธิ ซึ่งทำให้มีพัฒนาการที่ช้า อีกทั้งยังส่งผลให้มีพฤติกรรมที่เป็นไปในทางลบและยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้สิ่งรอบตัว นั่นก็คือ กิจกรรมที่เราทำอยู่เป็นประจำในชีวิตประจำวัน ทั้งภายในบ้านและภายนอกบ้าน จากที่เคยทำเพียงคนเดียวและรวดเร็ว ก็หันมาทำให้ช้าลงและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น โดยการเริ่มปลูกฝังให้เจ้าลูกน้อยของเราได้รู้จักหน้าที่และมีความรับผิดชอบ พร้อมทั้งได้เรียนรู้ วิธีการทำ การแก้ไขปัญหา ความอดทน และได้ออกกำลังกาย และอย่าลืมที่จะถือโอกาสนี้ให้กับลูกในการบอกคำศัพท์ของสิ่งของต่างๆเหล่านั้น การใช้คำพูดในการให้ความช่วยเหลือ การขออนุญาต คำแนะนำ การยอมรับและฟังความคิดเห็น การขอบคุณและกล่าวคำขอโทษเมื่อทำผิดหรือทำผิดพลาด กำลังใจถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากและการแสดงออกในเชิงบวกที่ไร้การตำหนินั้น จะทำให้ลูกของเรามีจิตใจที่ดีและพร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ และลืมในส่วนของสิ่งไร้ประโยชน์ไปได้ และมีพื้นฐานชีวิตที่ดีและพร้อมจะโตไปใช้ชีวิตในโลกที่สามารถเอาตัวรอดได้ภาพถ่ายโดยผู้เขียนทั้งหมดในส่วนของคุณพ่อ คุณแม่ แบบอย่างที่ดีนั้นสำคัญมากๆนะคับ และอย่าหงุดหงิดใส่ลูกเด็ดขาด เด็กเป็นวัยที่ยังไร้เดียงสา เพราะฉะนั้นแล้ว พฤติกรรมที่เราแสดงออกไป พวกเขารับรู้และลอกเลียนแบบได้ทุกอย่าง อยู่ที่ตัวเราแล้วนะคับว่าต้องการให้ลูกของเราเป็นแบบไหน และอย่าลืมใช้ความรู้และประสบการณ์ของเรามาผสมผสานกับคลังความรู้จากธรรมชาติที่รายล้อมพวกเรามาถ่ายทอดให้กับลูกน้อยของเราให้มากที่สุดกันนะคับ