เปิดแผนรัฐบาล ระดมทุกกระทรวงเร่งช่วย “ภาคเหนือน้ำท่วม”

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า วันนี้เป็นการประชุมฉุกเฉิน เนื่องจากภาคเหนือเกิดอุทกภัย ฝนที่ตกลงมาอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง รัฐบาลจึงไม่ได้นิ่งนอนใจ 

ขณะนี้สถานการณ์น้ำยังไม่ส่งผลกระทบต่อเส้นทางขนส่ง มีเพียงบางเส้นทาง อาจจะต้องเร่งระบายน้ำบ้าง และมองว่า สถานการณ์น้ำในขณะนี้ ยังไม่รุนแรงเท่ากับปี 54 แต่ก็ต้องเฝ้าดูอย่างเข้มข้น

นายภูมิธรรม ระบุว่า  น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้มีความเป็นห่วง และกำชับให้ช่วยดูแลพี่น้องประชาชนที่กำลังประสบภัย วันนี้ขอให้มุ่งไปยังพื้นที่ภาคเหนือในจุดที่น้ำท่วม เช่น จังหวัดเชียงราย แพร่ น่าน พะเยา เป็นต้น เพื่อหาแนวทางคลี่คลายปัญหาโดยเร็ว โดยได้มอบนโยบายและสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

1.กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดให้ดำเนินการจัดตั้งหน่วยศูนย์ปฏิบัติการป้องกันฯ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้าศูนย์ฯ ในการปฏิบัติการของจังหวัดนั้น ๆ รวมทั้งให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นำเครื่องมือเข้าไปช่วยระบายน้ำเร็วที่สุด ส่วนกรมทรัพยากรน้ำให้จัดเตรียมข้อมูลที่ชัดเจน ตรงไปตรงมา รวมทั้งจัดรถโมบายเข้าไปยังจุดน้ำท่วมหนัก จัดทำเชื่อมโยงข้อมูลไปยังหน่วยงานราชการต่าง ๆ และส่วนกลาง พร้อมทั้งประสานขอความร่วมมือจากกองทัพภาคที่ 3 นำเครื่องมือและกำลังพลช่วยเหลือประชาชน

2.กระทรวงศึกษาธิการ ให้พิจารณาปิดโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการปิดการเรียนการสอนชั่วคราว โดยให้ดูตามสถานการณ์ตามจริงในพื้นที่ เน้นความปลอดภัยของนักเรียนเป็นสำคัญ

3.กรมชลประทาน ให้ตรวจสอบประตูระบายน้ำต่าง ๆ ในทุกพื้นที่ตั้งแต่พื้นที่ด้านบน-ล่าง หากพบปัญหาให้รีบแก้ไข

4. สทนช.ให้นำโดรน รถโมบาย สำรวจข้อเท็จจริง เพื่อใช้ประเมินข้อมูลเหตุที่มีความรุนแรงวิกฤติ ให้ได้ตรงจุดที่สุด และสามารถแก้ไขปัญหาตรงนั้นได้อย่างดีและเร็วที่สุด

5.กระทรวงคมนาคม ให้ตรวจดูเส้นทาง ถนนที่กั้นขวางทางน้ำหลาก ให้พิจารณาเจาะถนนปล่อยน้ำไหลต่อไปได้ และขอให้แจ้งการดำเนินการให้หมู่บ้านที่อยู่ปลายน้ำรับรู้สถานการณ์ด้วย

6.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดูตามแนวสันป่าอยู่แล้ว และให้เร่งเข้าดำเนินการช่วยเหลือประชาชน

7.กระทรวงสาธารณสุข ขอให้ลงพื้นที่เข้าไปดูแลประชาชนที่อาจได้รับความเจ็บป่วย ต้องการความช่วยเหลือสุขภาพและสาธารณสุข

8.กระทรวงพาณิชย์ ให้ดูแลเรื่องราคาอาหาร ข้าวของต่าง ๆ ไม่ให้มีราคาแพง ผู้บริโภคต้องมีของกินของใช้ตลอดเวลา

9.ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดตั้งวอร์รูมแก้ไขปัญหาน้ำท่วมทันที และติดตามช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ด้วย

นายภูมิธรรม คาดว่า ภายใน 3-4 วันนี้สถานการณ์น้ำจะเริ่มคลี่คลาย แต่ขณะนี้เป็นห่วงร่องกดอากาศต่ำที่กำลังอยู่ที่ลาว และจะมีพายุจากมหาสมุทรแปซิฟิกเข้ามาอีก 1 ลูก ซึ่งตามหลักการ น้ำจะต้องมีที่อยู่และที่ไป เพราะฉะนั้นตอนนี้เป็นน้ำป่าที่หลากเข้ามา โดยสถานการณ์ขณะนี้ ที่เชียงรายไม่น่ากังวลมาก เพราะน้ำสามารถลงแม่น้ำโขงได้หมด ส่วนที่จังหวัดน่าน พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ และพิษณุโลก เป็นน้ำป่าหลากลงมาที่แม่น้ำยม ต้องเร่งหาทางออก

ขณะที่สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และขนาดกลางทั่วประเทศ ปัจจุบัน (22 ส.ค.) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 45,430 ล้าน ลบ.ม. (60% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) ยังสามารถรองรับน้ำได้รวมกันอีกกว่า 30,907 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 12,420 ล้าน ลบ.ม. (50% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) ยังสามารถรองรับน้ำได้รวมกันอีกกว่า 12,451 ล้าน ลบ.ม.

ภาพจาก: สำนักประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่