วิจัยเผย ! ชม “งานศิลปะ” 20 นาที ช่วยลด “ความเครียด-การอักเสบ” ของร่างกาย

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย คิงส์คอลเลจลอนดอน (King's College London) ในสหราชอาณาจักร เผยผลงานวิจัยสุดทึ่ง ที่พบว่าการชมภาพวาดต้นฉบับ (original paintings) ในแกลเลอรีศิลปะ สามารถช่วยลดความเครียดและการอักเสบของร่างกายลงได้ ภายในเวลาเพียง 20 นาที

งานวิจัยนี้เป็นการทดลองขนาดเล็ก ดำเนินการที่หอศิลป์คอร์ทอลด์(Courtauld Gallery) ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยเป็นการศึกษาวิจัยกับผู้ใหญ่ 50 คน อายุระหว่าง 18 - 40 ปี ซึ่งกลุ่มหนึ่งจะถูกแบ่งให้ไปชมผลงานที่มีชื่อเสียง 5 ชิ้น (five well-known works) ในแกลเลอรีห้องเดียว และอีกกลุ่มหนึ่ง จะถูกแบ่งให้ไปชมภาพวาดจำลอง (reproductions) ในพื้นที่ที่คล้ายกัน แต่ไม่ใช่แกลเลอรี

ดร. โทนี วูดส์ (Dr Tony Woods) นักสรีรวิทยาและหัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่า สิ่งที่ทีมวิจัยต้องการค้นหาคือ ทำไมผู้คนถึงรู้สึกดีขึ้น เมื่อพวกเขามองดูงานศิลปะ และมีอะไรเกิดขึ้นทางสรีรวิทยาบ้าง ?

โดยก่อนและหลังการรับชมภาพ นักวิจัยจะเก็บตัวอย่างน้ำลาย เพื่อวัดระดับคอร์ติซอล (cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดหลัก และโปรตีนสองชนิดที่เชื่อมโยงกับการอักเสบ คือ อินเตอร์ลิวคิน-6 (interleukin-6) และ ทูมอร์ เนโครซิส แฟกเตอร์-อัลฟ่า (tumour necrosis factor-alpha) โดยให้ผู้เข้าร่วมวิจัยสวมอุปกรณ์ที่ติดตามการทำงานของหัวใจและอุณหภูมิผิวหนังด้วย

ทีมวิจัยพบว่าสำหรับผู้ที่รับชมภาพอยู่ในแกลเลอรี มีระดับคอร์ติซอลโดยเฉลี่ยลดลงร้อยละ 22 ในขณะที่ผู้รับชมภาพจำลอง มีระดับคอร์ติซอลลดลงเพียงแค่ร้อยละ 8 เท่านั้น นอกจากนี้กลุ่มที่รับชมภาพในแกลเลอรี ยังมีระดับอินเตอร์ลิวคิน-6 และทูมอร์ เนโครซิส แฟกเตอร์-อัลฟ่า ลดลงร้อยละ 30 และ 28 ตามลำดับ ในขณะที่กลุ่มที่ชมภาพจำลอง ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ข้อมูลจากอุปกรณ์สวมใส่ยังชี้ให้เห็นว่า ผู้ร่วมทดลองรู้สึกมีส่วนร่วมและผ่อนคลายไปพร้อมกัน โดยมีการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นในช่วงสั้น ๆ และอุณหภูมิผิวหนังลดลงเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่า เมื่อผู้คนได้ชมงานศิลปะในแกลเลอรี พวกเขาจะมีช่วงเวลาแห่งการจดจ่อ และมีสมาธิอย่างเข้มข้น ทำให้เกิดความ ตื่นตัวทางจิตใจ และส่งผลต่อการผ่อนคลายได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามทีมวิจัยเตือนว่า การทดลองนี้มีขนาดเล็ก เกิดขึ้นในสถานที่เดียว และเป็นการทดสอบเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาขนาดใหญ่ขึ้น ที่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ (peer-reviewed) เพื่อประเมินว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเหล่านี้ จะนำไปสู่ประโยชน์ที่ยั่งยืนต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีหรือไม่