รีเซต

ศูนย์จีโนมฯ พบโควิดโอมิครอนสายพันธุ์ใหม่ BA.2.2 จากฮ่องกง อาจเป็นภัยร้ายในอนาคต

ศูนย์จีโนมฯ พบโควิดโอมิครอนสายพันธุ์ใหม่ BA.2.2 จากฮ่องกง อาจเป็นภัยร้ายในอนาคต
TNN ช่อง16
11 มีนาคม 2565 ( 16:40 )
96
ศูนย์จีโนมฯ พบโควิดโอมิครอนสายพันธุ์ใหม่ BA.2.2 จากฮ่องกง อาจเป็นภัยร้ายในอนาคต

วันนี้ (11 มี.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยข้อมูล โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน “BA.2.2”  (B.1.1.529.2.2) จาก "ฮ่องกง" ที่อาจเป็นภัยร้ายในอนาคต โดยระบุว่า 

การระบาดใหญ่ระลอกล่าสุดของโอมิครอนบนเกาะฮ่องกง ได้ก่อให้เกิดสายพันธุ์ใหม่  "BA.2.2"  หรือ  B.1.1.529.2.2 ที่มีการกลายพันธุ์เด่นตรงหนามแหลมซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงกรดอะมิโนตำแหน่งที่ 1221 จาก I (Isoleucine) เป็น T (Threonine) หรือ "S:I1221T" 

และการกลายพันธุ์ตรงยีน "ORf1a: T4087I" (ภาพ 1-4) โดยพบมีการแพร่ระบาดไปยังอังกฤษแล้วเช่นกัน (ภาพ2)




ในเบื้องต้นทราบแล้ว BA.2.2 มีการกลายพันธุ์ไป 2 ตำแหน่งที่ไม่พบในสายพันธุ์หลัก
และสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ คือ "S:I1221T" และ "ORf1a: T4087I"


แสดงจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ สายพันธุ์ BA.2 +S:l1221T หรือ ฺBA.2.2 ที่เพิ่มขึ้นตามเวลาที่ผ่านมา


โอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2.2 หรือ ฺB.1.1.529.2.2 อาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งหรือไม่
ที่ทำให้บนเกาะฮ่องกงมีอัตราผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 สูงที่สุดในโลกในขณะนี้


การระบาดระลอกใหม่นี้ทำให้มีอัตราผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในฮ่องกงพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดในโลก โดยมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยในรอบ 7 วันอยู่ที่ 30 คนต่อประชากร 1 ล้านคน ในขณะที่ประเทศไทยอยู่ที่ 0.85 คนต่อประชากร 1 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน (ภาพ 5) ดังนั้นท่านที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนควรรีบไปฉีด

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในฮ่องกงเพิ่มขึ้นอย่างมากเฉลี่ยในรอบ 7 วันอยู่ที่ 5,425 คนต่อประชากร 1 ล้านคน
ในขณะที่ประเทศไทยอยู่ที่ 315 คนต่อประชากร 1 ล้านคน

ที่ฮ่องกงมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยในรอบ 7 วันอยู่ที่ 30 คนต่อประชากร 1 ล้านคน
ในขณะที่ประเทศไทยอยู่ที่ 0.85 คนต่อประชากร 1 ล้านคน


ที่น่ากังวลคือจากการที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จากโอมิครอนในฮ่องกงเพิ่มขึ้นอย่างมากเฉลี่ยในรอบ 7 วันอยู่ที่ 5,425 คนต่อประชากร 1 ล้านคน เมื่อเที่ยบกับอันดับสองประเทศลัตเวียจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ใกล้เคยงกันคือ 5,278 ต่อประชากร 1 ล้านคน ประเทศไทยอยู่ที่ 315 คนต่อประชากร 1 ล้านคน 

แต่ปรากฏว่าอัตราผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 บนเกาะฮ่องกงสูงมากคือโดยมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยในรอบ 7 วันอยู่ที่ 30 คนต่อประชากร 1 ล้านคน ในขณะที่ทั้งลัตเวียและไทย อยู่ที่ 10.7  และ 0.7  ตามลำดับ (ภาพ 6) กล่าวคือที่ฮ่องกงมีอัตราผู้เสียชีวิตสูงกว่าลัตเวียถึง 2 เท่า 

โดยทั้งลัตเวียและไทยมีการะบาดของสายพันธุ์ BA.1 และ BA.2 ไม่พบ ฺBA.2.2 ทำให้มีแนวโนมว่าโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ย่อย BA.2.2 อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อัตราผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในฮ่องกงพุ่งขึ้นจนทำสถิติสูงที่สุดในโลก



ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์ฮ่องกงและทั่วโลกกำลังประมวลผลรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของ BA.2.2 กับข้อมูลทางคลินิกเพื่อตอบปัญหาสำคัญ 6 ประการ

1. BA.2.2 กลายพันธุ์ไปมากกว่า BA.2 หรือไม่ และตำแหน่งใดบ้างโดยเฉพาะในส่วนยีนที่ควบคุมโครงสร้างของหนาม (spike) ที่เปลือกของอนุภาคไวรัส

ในเบื้องต้นทราบแล้ว BA.2.2 มีการกลายพันธุ์ไป 2 ตำแหน่งที่ไม่พบในสายพันธุ์หลักและสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ คือ "S:I1221T" และ "ORf1a: T4087I" (ภาพ 1)

2. BA.2.2 แพร่ระบาด (transmissibility) รวดเร็วกว่า BA.2 หรือไม่

3.  BA.2.2 ก่อให้เกิดอาการของโรคโควิดได้รุนแรง (severity) กว่า BA.2 หรือสายพันธุ์ที่น่ากังวลใจ (variants of concern) อื่นๆ เช่น อัลฟา เบตา แกมมา เดลตา หรือไม่

4. BA.2.2 สามารถด้อยประสิทธิภาพของวัคซีนลงมากกว่า BA.2 หรือไม่

5. ยารักษาโมโนโคลนอลแอนติบอดีตัวล่าสุด “โซโทรวิแมบ” (Sotrovimab) ที่ใช้ต่อต้านโอมิครอน ยังสามารถจับกับ BA.2.2 ได้อยู่หรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าสู่เซลล์ของระบบทางเดินหายใจ  

6. ใช่หรือไม่ ที่ BA.2.2 เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีอัตราผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในฮ่องกงสูงที่สุดในโลก (ภาพที่ 7)

ทั้งอเมริกาและอังกฤษ รวมทั้งไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นจาก BA.2 แต่ผู้เสียชีวิตน้อย
ในขณะที่ฮ่องกงมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นจาก BA.2.2 และมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก

ดังนั้นจำเป็นต้องเฝ้าระวังการระบาดของ BA.2.2 ที่อาจแพร่เข้ามาในประเทศไทยให้ดี ดูน้อยลง



ปัจจุบันยังไม่พบ BA.2.2 ในประเทศไทย แต่เพื่อไม่ประมาททางศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯได้เริ่มพัฒนาชุดตรวจ BA.2.2 แล้ว  คาดว่าจะแล้วเสร็จนำออกใช้ตรวจกรอง BA.2.2 ได้ภายในอีก 2 สัปดาห์ด้วยเทคโนโลยี “MassArray Genotyping” ซึ่งใช้เวลาในการตรวจรู้ผลบรรดาสายพันธุ์ที่น่ากังวล (variants of concern: VOC)  รวมทั้ง BA.2.2 ในการตรวจเพียงครั้งเดียว (single reaction) ใช้เวลาประมาณ 24-48 ชั่วโมงในการออกผล.



ข้อมูลจาก Center for Medical Genomics

ภาพจาก Reuters , ศูนย์จีโนมฯ


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง