เตือน! สหรัฐศูนย์กลางระบาดโควิด-19แห่งใหม่ ติดเชื้อพุ่งเกือบครึ่งแสน

วันนี้ ( 25 มี.ค. 63 )มาร์กาเรต แฮร์ริส โฆษกหญิงของฮู แถลงในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่า การระบาดในสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวมกัน 85 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในยุโรปและสหรัฐ และในจำนวนนี้ 40 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในสหรัฐ โดยจนถึงเมื่อวันจันทร์ ผู้ติดเชื้อไวรัสในสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่า 42,000 คน และเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 559 ราย

เมื่อถามว่า สหรัฐอาจเป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคแห่งใหม่หรือไม่ แฮร์ริส กล่าวว่า ฮูกำลังพิจารณาการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในสหรัฐ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่สหรัฐอาจเป็นศูนย์กลางการระบาดแห่งใหม่ได้

เจ้าหน้าที่รัฐและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในหลายรัฐของสหรัฐ ต่างแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลกลางขาดความร่วมมือ โดยระบุว่า ให้รัฐบาลท้องถิ่นดำเนินการด้วยตัวเอง ซึ่งทำให้พวกเขาต้องแข่งกันหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เอาเอง 

ขณะที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรับ ยอมรับว่า เป็นเรื่องที่ยากลำบากอย่างมาก ทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า ตลาดโลกกำลังเผชิญหน้ากับการยื้อแย่งหน้ากากอนามัยและเครื่องช่วยหายใจอย่างบ้าคลั่ง รัฐบาลกลางก็กำลังช่วยรัฐต่าง ๆ เพื่อหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ แต่มันก็ไม่ง่ายอย่างนั้น 

ส่วนนายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีเมืองนิวยอร์ก กล่าวว่า กรณีที่องค์การอนามัยโลกแถลงเมื่อวันอังคารว่า มีความเป็นไปได้ว่าสหรัฐจะกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดแห่งใหม่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเขาก็เชื่อเช่นนั้นระหว่างแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยนายบิล เดอ บลาซิโอ กล่าวว่า เขาไม่ต้องการให้สหรัฐเป็นศูนย์กลางการระบาด แต่ขณะนี้ นิวยอร์กกลายเป็นศูนย์กลางของวิกฤตไวรัสไปแล้วสำหรับสหรัฐ   

ด้านนายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ก็เตือนว่า ไวรัสโควิด-19 ในนิวยอร์ก ระบาดเร็วกว่า “รถไฟหัวกระสุน” โดยเขาให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อวันอังคารว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นและเร็วกว่าที่คิด รัฐบาลกลางไม่ได้ส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อต่อสู้กับวิกฤตครั้งนี้อย่างเพียงพอ ซึ่งขณะนี้ รัฐนิวยอร์กต้องการเครื่องช่วยหายใจถึง 30,000 ชิ้น เพราะมีผู้ติดเชื้อสูงกว่า 25,000 รายแล้ว และเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 210 รายในนิวยอร์ก