รัฐตอนใต้ในสหรัฐฯ เสี่ยงโควิด-19 ระบาดฤดูร้อน หลังยอดฉีดวัคซีนต่ำ

นิวยอร์ก, 7 มิ.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (7 มิ.ย.) หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส (New York Times) รายงานว่าคณะผู้เชี่ยวชาญต่างออกมาแสดงความกังวลว่าหลายรัฐทางตอนใต้ของสหรัฐฯ ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ช้ากว่าภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ อาจเผชิญการระบาดระลอกใหม่ในช่วงฤดูร้อน

ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ชี้ว่า 14 รัฐและดินแดนของประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ทางตอนเหนือ ได้ฉีดวัคซีนโดสแรกให้ประชากรผู้ใหญ่มากกว่าร้อยละ 70 แล้ว เมื่อนับถึงวันอาทิตย์ (6 มิ.ย.) ซึ่งเกินเกณฑ์ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำหนดไว้

อย่างไรก็ดี หลายรัฐทางตอนใต้ อาทิ อาร์คันซอ แคโรไลนา จอร์เจีย และลุยเซียนา ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชากรผู้ใหญ่เพียงครึ่งหนึ่งหรือน้อยกว่านั้น

คณะผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขในรัฐที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำยังแสดงความกังวลว่าผู้อาศัยจะมีความเสี่ยงติดเชื้อง่ายขึ้น หลังจากเริ่มผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ ทั่วประเทศ ความตระหนักที่ต้องเข้ารับวัคซีนอย่างเร่งด่วนเริ่มลดลง และชาวอเมริกันจำนวนมากต้องการอยู่ที่ร่มเพื่อหลีกเลี่ยงสภาพอากาศร้อน ซึ่งทำให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายง่ายขึ้น

"มีประชากรบางกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งอาจทำให้การติดเชื้อเพิ่มขึ้น" ปีเตอร์ โฮเตซ ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนจากวิทยาลัยแพทยศาสตร์เบย์เลอร์กล่าว พร้อมเสริมว่ารัฐทางตอนใต้จำเป็นต้องเร่งฉีดวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดสให้ประชาชนร้อยละ 70 เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดในช่วงฤดูร้อน