รีเซต

“กัมพูชา” ศูนย์สแกมโลก อุตสาหกรรมมืดโตแรง ใต้ร่มเงาอำนาจรัฐ

“กัมพูชา” ศูนย์สแกมโลก อุตสาหกรรมมืดโตแรง ใต้ร่มเงาอำนาจรัฐ
TNN ช่อง16
15 ตุลาคม 2568 ( 17:25 )
32

อาชญากรรมไซเบอร์ในกัมพูชา ปัญหาระดับโลกที่อยู่มายาวนาน ปราบปรามแค่ไหนก็ไม่เคยหมดไป แต่กลับรุนแรงหนักขึ้นกว่าเดิม เพราะมันได้กลายเป็นระบบเศรษฐกิจข้ามชาติที่มีรัฐคอยปกป้องอยู่เบื้องหลัง


“กัมพูชา” ที่นานาชาติแปะป้ายว่า เป็นศูนย์กลางสแกมแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังสะท้อนความจริงอันโหดร้ายของโลกยุคใหม่ที่ “การหลอกลวง” กลายเป็นอุตสาหกรรมหลักระดับประเทศ


“กัมพูชา” ศูนย์กลางสแกมเมอร์โลก-รายได้หลักประเทศ 


รายงานจาก Humanity Research Consultancy ว่าด้วยอาชญากรรมข้ามชาติที่สนับสนุนโดยรัฐ ระบุว่า กัมพูชากลายเป็นหนึ่งในแหล่งอุตสาหกรรมสแกมเมอร์ที่ใหญ่สุดระดับโลก โดยมองว่า ปี 2025 กัมพูชาถือเป็นแหล่งรวมการฉ้อโกงระหว่างประเทศยุคใหม่ที่สำคัญของโลก และมีแนวโน้มว่าจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว 


รายงานชี้ว่า อุตสาหกรรมอาชญากรรมไซเบอร์ในกัมพูชาใกล้ถึงจุด “ใหญ่เกินกว่าจะล้มได้” และกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งการสแกม ขับเคลื่อนโดยแก๊งอาชญากรรมชาวจีน จนเป็นภัยต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงระดับโลก


อุตสาหกรรมสแกมเมอร์สร้างรายได้ให้กัมพูชาราว 400,000-620,000 ล้านบาทต่อปี หรือ คิดเป็น 60% ของ GDP นั่นหมายความว่า การหลอกลวงกลับสร้างรายได้ให้กับกัมพูชามากกว่าอุตสาหกรรมหลักของประเทศ อย่าง เครื่องนุ่งห่ม และสิ่งทอ 


รายงานฉบับนี้ สอดคล้องกับรายงานของ UN เมื่อเดือนมีนาคม 2025 เผยว่า กัมพูชาเป็นศูนย์กลางของการค้ามนุษย์ และการหลอกลวงออนไลน์ทั่วเอเชีย 


รายงาน ยังระบุด้วยว่า มีผู้คนนับพัน จากหลายประเทศถูกหลอกมาค้ามนุษย์ และถูกบังคับให้ทำงานฉ้อโกงผู้อื่น เพื่อสร้างรายได้ผิดกฎหมายนับแสนล้านบาทให้กับแก๊งสแกมเมอร์ 


เหยื่อส่วนใหญ่มักจะถูกหลอกล่อด้วยโฆษณางานต่างประเทศ รายได้ดี เพื่อจูงใจคนเหล่านี้ เข้ามาติดกับกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ

หลายชาติเตือนพลเรือน ระวังเดินทางไปกัมพูชา


ปัญหาสแกมเมอร์ยิ่งระบาดหนักขึ้นในช่วงโควิด-19 แม้ว่าโลกจะผ่านพ้นการระบาดมาแล้ว แต่การหลอกลวงไม่ได้หายไป และยิ่งหนักข้อขึ้น เมื่อเหยื่อมีอยู่ทั่วทุกมุมโลก จนหลายประเทศต้องประกาศเตือนพลเมืองตนเอง ให้ระวังการเดินทางมากัมพูชา


กรณีล่าสุดที่สั่นคลอนสัมพันธ์เกาหลีใต้-กัมพูชา เมื่อพบว่า นักศึกษาชาวเกาหลีใต้วัย 22 ปี ถูกทรมาน บังคับเสพยา และเสียชีวิต หลังถูกหลอกไปทำงานที่กัมพูชา กอปรกับก่อนหน้านี้ ชาวเกาหลีใต้ถูกลักพาตัวไปกัมพูชามากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ต้องยกระดับมาตรการทางการทูต เพื่อตอบโต้ พร้อมเตือนประชาชนเลี่ยงการเดินทางไปกัมพูชา

 

ขณะเดียวกัน ก็เตรียมส่งตำรวจ และหน่วยข่าวกรองเข้ากัมพูชา เพื่อร่วมสอบสวน และช่วยเหลือชาวเกาหลีใต้ที่ถูกลักพาตัว 


ขณะที่ สหรัฐฯ ก็จับมือกับสหราชอาณาจักร ร่วมมือกันโจมตีเครือข่ายแก๊งอาชญากรข้ามชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากกลุ่มสแกมเมอร์เหล่านี้ หลอกลวงเงินพลเมืองของตนรวมกันอย่างหน่อย 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ 


สหรัฐฯ ดำเนินการคว่ำบาตร 146 บริษัท ที่มีความเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงออนไลน์ หนึ่งในนั้นคือ Huione Group ซึ่งถูกแบนออกจากระบบการเงินของสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ เนื่องจากถูกมองว่า เป็นแหล่งที่เอื้อให้เกิดการฟอกเงินของแก๊งอาชญากรออนไลน์จากประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะเกาหลีเหนือ และมีความเกี่ยวข้องกับ Prince Group แก๊งอาชญากรข้ามชาติขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในกัมพูชา 


แต่สิ่งที่ทำให้ Huione Group ถูกพูดถึงมากกว่าบริษัทอื่น ๆ เพราะว่า หนึ่งในบอร์ดบริหารคือ “ฮุน โต” ผู้มีศักดิ์เป็นหลานของ “ฮุน เซน” อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และเป็นลูกพี่ลูกน้องของ “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชาคนปัจจุบัน 


ด้านสิงคโปร์ก็เริ่มสอบสวนบริษัทแห่งหนึ่ง ที่เปิดรับสมัครบุคลากรเข้าทำงานในประเทศ แต่เบื้องหลังวางแผนจะส่งคนเหล่านี้ไปทำงานรีสอร์ตในเกาะกง ประเทศกัมพูชาแทน หลังเกิดการว่าจ้าง สะท้อนให้เห็นว่า ชาวสิงคโปร์ตกเป็นเป้าของแก๊งสแกมเมอร์ เตือนประชาชนให้ระวังการรับงานที่ผิด

ปกติ 


ส่วนไทยเองก็ร่วมมือกับนานาชาติ เพื่อจัดการตัดตอนแก๊งอาชญากรรมตามบริเวณชายแดนเมียนมา และกัมพูชาต่อเนื่อง ทั้งการตัดน้ำ ตัดไฟ ระงับอินเทอร์เน็ต เตือนประชาชนให้ระวังการเดินทางข้ามไปยังบริเวณชายแดน พร้อมสกัดกั้นเข้าช่วยเหลือเหยื่อก่อนถูกส่งตัวเป็นศูนย์สแกมเมอร์ให้ทันท่วงที


ปราบแล้ว แต่ไม่หาย


เมื่อนานาชาติต่างก็รู้ดีว่า “กัมพูชา” เป็นศูนย์สแกมเมอร์ขนาดใหญ่ของโลก และออกมาตรการเพื่อตอบโต้ พูดคุยหารือขอความร่วมมือหลายรอบ


แต่ทำไมศูนย์สแกมเมอร์เหล่านี้ ไม่หายไปสักที คำตอบคือ รัฐบาลกัมพูชาล้มเหลวในการปราบปรามอย่างจริงจัง และเจ้าหน้าที่รัฐก็เข้าไปมีเอี่ยวธุรกิจหลอกลวงด้วย 


รายงานของ Amnesty International เมื่อเดือนมิถุนายน ระบุว่า รัฐบาลกัมพูชาล้มเหลวในการสอบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในศูนย์สแกมเมอร์ แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะได้รับแจ้งเรื่องนี้หลายครั้ง และทราบดีว่า เกิดอะไรขึ้นบ้างในสถานที่เหล่านั้น 


การเพิกเฉยของรัฐบาลกัมพูชา ทำให้ธุรกิจสแกมเมอร์เติบโตรวดเร็ว และเฟื่องฟูอย่างมากในประเทศ ผู้รอดชีวิตบางราย เผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมักทำงานร่วมมือกับผู้จัดการศูนย์มากกว่าจะให้ความช่วยเหลือ หรือ ปกป้องเหยื่อ


แม้ว่ารัฐบาลกัมพูชาอ้างว่า กำลังพยายามแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อยู่ แต่หลังการบุกค้น และช่วยเหลือเหยื่อในศูนย์สแกมเมอร์ ภายหลังพบว่า จำนวน 2 ใน 3 ของสถานที่เหล่านี้ ยังคงเปิดดำเนินกิจการตามปกติ 


หลังถูกโลกลงดาบตีตรา เป็นประเทศสแกมเมอร์ “กัมพูชา” ก็ได้ปราบปรามกวาดล้างศูนย์สแกมเมอร์ครั้งใหญ่ ในเดือนกรกฎาคม ตำรวจบุกค้นสถานที่ 140 แห่ง จับกุมผู้ต้องสงสัยมากกว่า 3,000 คน จากทั้งหมด 19 ประเทศ 


อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับการปราบปรามครั้งนี้ เนื่องจากแก๊งสแกมเมอร์ดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก มีรายงานว่า สถานที่ประกอบการสำคัญหลายแห่ง ได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้าและย้ายไปยังพื้นที่ใกล้ชายแดนเวียดนาม และยังคงดำเนินการตามปกติ


โลกต้องทำอย่างไร ถึงจะจัดการแก๊งคอลฯ ได้


รายงาน Humanity Research Consultancy เผยว่า การแก้ไขปัญหาภายในกัมพูชาเองทำได้ยากในระยะสั้น เพราะรัฐบาลกัมพูชามีส่วนเกี่ยวพันกับเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ ฉะนั้น สิ่งที่ควรทำตอนนี้ คือ ประชาคมโลกต้องจับมือร่วมกันทำ “ยุทธศาสตร์ลดความเสียหาย” เพื่อจำกัดผลกระทบจากระบบอาชญากรรมข้ามชาติที่โยงกับรัฐกัมพูชา


ผู้เชี่ยวชาญบางส่วน กล่าวว่า การปราบปรามเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะหยุดยั้งการหลอกลวงไซเบอร์ได้ เพราะปัญหาที่แท้จริง เป็นเรื่องเชิงระบบ เครือข่ายผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นคอยปกป้องศูนย์เหล่านี้ให้ดำเนินงานกลับมาได้อย่างรวดเร็ว การจับกุมคนงานระดับล่างไม่สามารถหยุดยั้งผู้ประกอบการระดับสูงได้ เมื่อเกิดการทลายศูนย์หนึ่งลง ศูนย์เหล่านี้ ก็จะกระจายไปตั้งถิ่นฐานอยู่ที่อื่นแทน


หลายประเทศต้องร่วมกันคว่ำบาตร, ออกกฎระเบียบ, บังคับใช้กฎหมาย และเครื่องมือทางการเงิน เพื่อจัดการปัญหาเหล่านี้ร่วมกัน ก่อนที่จะลุกลามบานปลาย จนเราไม่สามารถหยุดยั้งได้อีกเลย 


แหล่งข้อมูลอ้างอิง: 


https://www.business-humanrights.org/en/latest-news/cambodia-report-reveals-alleged-complicit-in-transnational-crimes-between-powerful-officials-and-companies-and-deems-a-global-security-threat-incl-cos-comments/

https://cdn.prod.website-files.com/662f5d242a3e7860ebcfde4f/68264cff356caba111f2db1e_Policies%20and%20Patterns_16052025.pdf

https://theconversation.com/cambodia-is-vowing-to-rid-the-country-of-scam-compounds-but-weve-seen-several-still-operating-in-the-open-262792

https://www.nationthailand.com/blogs/news/asean/40051873

https://home.treasury.gov/news/press-releases/sb0278

https://www.amnesty.org/en/latest/news/2025/06/cambodia-government-allows-slavery-torture-flourish-inside-scamming-compounds/

https://www.straitstimes.com/singapore/police-probe-spore-firm-recruiting-job-seekers-for-scam-linked-cambodian-resort

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง