แมว คือหนึ่งในสัตว์เลี้ยงประเภทที่ชอบทำตัวไร้เดียงสา ขี้อ้อน หรือแม้บางทีจะชอบทำตัวเรื่องมาก ไม่สนใจเหล่าทาสอย่างเราๆ บ้าง แต่ถึงอย่างไรก็ยังคงเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก น่ากอด และอยากจะทะนุถนอมเลี้ยงไว้ให้เขานั้นอยู่กับเราไปนานๆ อยู่ดี จึงไม่แปลกใจเลยที่ในปัจจุบันจะมีเหล่าทาสแมวเกิดขึ้นเยอะแยะมากมายรวมถึงเราด้วยที่เข้าสมาคมทาสแมวมาได้ 1 ปีแล้ว น้องเป็นผู้หญิง พันธุ์เปอร์เซียสีขาวเลยให้ชื่อ มะลิ บอกเลยว่ามีความสุขมากๆ ที่มีเค้าเข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัว และสำหรับใครที่อยากเป็นทาสแมวมือใหม่กำลังหาข้อมูลในการเลี้ยงแมวครั้งแรกค่าใช้จ่ายเท่าไหร่หรือต้องเตรียมอะไรบ้าง วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์จากที่เคยเลี้ยงมะลิมาฝากกัน เพื่อเป็นแนวทางแก่ทาสแมวมือใหม่ แต่ต้องแอบบอกก่อนว่าตอนเราเอามะลิมาเลี้ยงก็แทบจะไม่ได้คำนวณเลย เพราะเห็นอะไรก็อยากจะซื้อ อยากจะหามาไว้ให้หมดจนบางทีก็แอบเกินงบไปเยอะ 5555 เลี้ยงแมวครั้งแรกจะต้องเตรียมอะไรบ้าง ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ไปอ่านกันได้เลย 1. ค่าอาหารค่าอาหาร ต้องบอกเลยว่าอาหารของเหล่าน้องแมวนั้นจะแพงหรือไม่แพงขึ้นอยู่กับว่าเหล่าทาสๆ นั้นต้องการเลี้ยงน้องแบบไหน เพราะมีทั้งรูปแบบอาหารเม็ดอาหารเปียกแมว สำหรับมะลิแล้วเราให้เค้ากินอาหารเปียกแทบทุกมื้อเลยเพราะย่อยง่าย เคี้ยวง่าย เพราะคุณหมอเคยบอกว่า แมวเปอร์เซีย กระเพาะค่อนข้างเปราะบางเราเลยเลือกอาหารที่ย่อยง่ายให้เค้า ส่วนอาหารเม็ดจะเลือกให้กินสูตรละลายก้อนขนเพราะน้องขนยาว ชอบเลียขนตัวเอง เป็นการป้องกันก้อนขนไปอุดตันลำใส้นี่ก็เป็นคำแนะนำของคุณหมออีกเช่นกัน ซึ่งจะให้บางเวลาที่น้องเบื่ออาหารเปียกเท่านั้น ส่วนค่าใช้จ่ายต่อเดือนจะอยู่ที่ 1,000-2,000 บาท แต่สำหรับบางคนที่เลี้ยงแบบให้ทานอาหารเม็ดอย่างเดียวก็อาจจะค่าใช้จ่ายไม่ขนาดนี้ จริงๆ แล้วเหล่าทาสแมวมือใหม่สามารถเลี้ยงน้องได้ตามงบที่ตัวเองนั้นสามารถเลี้ยงได้แบบไม่เดือดร้อนได้เลย เพราะมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบมากๆ เอาที่เหมาะสมกับตัวเรามากที่สุดเป็นใช้ได้แล้ว2. ค่าวัคซีนค่าวัคซีน เรียกได้ว่าทาสแมวมือใหม่ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายส่วนนี้เป็นอันดับแรก ก่อนคิดที่จะเลี้ยงแมวได้เลย เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพื่อให้น้องแมวนั้นมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ไม่ป่วยง่าย และอยู่กับเราไปนานๆ ซึ่งวัคซีนพื้นฐานที่ต้องให้น้องฉีดส่วนมากจะเป็น วัคซีนรวม วัคซีนป้องกันโรคหัดแมว วัคซีนกันพิษสุนัขบ้า วัคซีนป้องกันลิวคีเมีย วัคซีนป้องกันเห็บ หมัด ไร เป็นต้น อย่างไรแล้วควรพาน้องเข้าไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็คอาการและตรวจเบื้องต้นก่อนรับวัคซีน ส่วนค่าใช้จ่ายนั้นขึ้นอยู่กับคลินิคที่พาไปด้วย แต่สำหรับคลินิคที่เราพามะลิไปครั้งแรกจะเสียอยู่ที่ประมาณ 1,100 บาท และในแต่ละเดือนเราจะพามะลิไปหยอดยาป้องกันเห็บหมัดทุกครั้งเพราะน้องขนยาวและเราเลี้ยงระบบเปิด เสี่ยงเห็บหมัดมากกว่าการ เลี้ยงแมวระบบปิด ค่าใช้จ่ายต่อเดือนจะอยู่ที่ครั้งละ 300 บาท3. ค่าจิปาถะอื่นๆค่าจิปาถะอื่นๆ คือ ค่าอุปกรณ์ที่ต้องมีไว้ให้น้องแมว ซึ่งต้องบอกก่อนว่าจะมีหรือไม่มีก็ได้หรือไม่จำเป็นต้องซื้อทั้งหมดก็ได้ อย่างเราเลี้ยงมะลิก็ไม่ได้ซื้อหมดสามารถใช้อย่างอื่นทดแทนได้ขึ้นอยู่กับงบประมาณของเหล่าทาสๆ ทั้งหลาย เริ่มต้นที่กระบะทรายทรายแมว สำหรับไว้ให้น้องแมวขับถ่ายเป็นที่เป็นทางก็จะมีตั้งแต่รุ่นแบบประหยัดไปจนถึงไฮโซที่เป็น ห้องน้ำแมวแบบอัตโนมัติ อย่างของมะลิเราใช้แบบราคากลางๆ ราคา 990 บาทเท่านั้น ส่วนทรายแมวถุงละ 80 บาท ต่อมาคือ ชามใส่อาหารและน้ำ แบบประหยัดเลยคือไม่ต้องซื้อสามารถนำเอาสิ่งที่มี่อยู่แล้วมาใช้ได้ แต่ของเราซื้อเพราะมะลิค่อนข้างตัวใหญ่ ก้มกินอาหารมากๆ กลัวน้องปวดคอเราเลยซื้อแบบมีขาตั้งปรับระดับขนาดความสูงของถ้วยใส่อาหารให้พอดีกะตัวน้อง ราคาอยู่ที่ 760 บาท ที่นอนแมว เราไม่ได้ซื้อใช้กล่องกระดาษลังมา DIY ให้น้องนอนได้ หรือบางคนอยากให้นอนสบาย เตียงนุ่มๆ แบบสำเร็จรูปก็มีให้เลือกเช่นกัน หรือจะเป็น คอนโดแมว ก็มีให้เลือกเยอะ ราคาเริ่มต้น 200-3,500 บาทและต่อมาคือของเล่นต่างๆ อันนี้เอาไว้สปอยล์น้องแมวโดยเฉพาะ จะบอกว่าเราหมดไปกับของเล่นเยอะมาก เพราะไม่อยากให้มะลิเบื่อแต่ก็มีความสุขมากเช่นกันที่ได้เล่นกับเค้า จะบอกว่ามันคุ้มนะที่ได้เลือกซื้อของเล่นไว้เล่นกับน้องแมว เป็นการสร้างความสัมพันธ์ดีๆ กับน้องได้ดีมากๆ เค้าจะติดเราและไว้ใจเราขึ้นมาเลย ค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งจะอยู่ที่ 120 – 500 บาทและสุดท้ายสำหรับเราคือ อุปกรณ์อาบน้ำแมว อันนี้ในกรณีที่เหล่าทาสอาบให้เองอย่างเรา เพราะค่อนข้างไม่ไว้ใจว่าร้านจะทำให้น้องดีไหม ทำน้องเจ็บหรือเปล่า หรือกลัวว่าน้องแมวจะตกใจกลัวคนแปลกหน้าขึ้นมาและช็อกได้ อันนี้ขึ้นอยู่กับแมวแต่ละตัวเลย แต่สำหรับมะลิ น้องค่อนข้างขี้กลัวอะไรหลายๆ อย่าง เลยเลือกจะอาบให้เอง อุปกรณ์ก็จะมี แชมพูน้ำ กรรไกรตัดเล็บแมว หวี ไดร์เป่าขน ราคาอยู่ที่ 80- 300 บาท ซื้อมาก็ใช้ได้ค่อนข้างนานเลย ประหยัดกว่าไปร้าน แต่ถ้าไปที่ร้านจะเสียอยู่ที่ 250 – 500 บาทต่อครั้ง ต้องบอกก่อนว่านี่คือค่าใช้จ่ายคร่าวๆ เท่านั้น เพราะยังมีค่าใช้จ่ายเฉพาะของน้องแมวแต่ละตัวแต่ละสายพันธุ์ที่แตกต่างกันออกไป ในการเลี้ยงแมวครั้งแรกอาจมองดูแล้วจะมีค่าใช้จ่ายที่เยอะพอสมควร แต่ต้องบอกว่าของใช้บางอย่างเราก็ไม่ได้ซื้อตลอด บางอย่างซื้อมาก็สามารถใช้ได้นาน สำหรับเราที่เลี้ยงมะลิ ค่าใช้จ่ายรายเดือนแบ่งออกมาแล้วก็จะมีค่าอาหารและค่าวัคซีนเท่านั้น เฉลี่ยต่อเดือนจะอยู่ที่ราวๆ 2,500 บาท จะหนักไปทางอาหารมากกว่าเพราะกินเก่งมาก ฮ่าๆ ส่วนสุขภาพไม่ค่อยเป็นปัญหาน้องสุขภาพดี เลยไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก เราก็จะประหยัดไปได้เยอะมาก เอาเป็นว่าใครที่สนใจอยากจะมาเป็นทาสแมว ยังไงก็คงต้องประเมินทั้งงบและเวลาของตัวเองให้ดีหากรับเค้ามาเลี้ยงแล้วมีงบทุ่มให้ไม่อั้นเลี้ยงดีมากๆ แต่ไม่มีเวลาให้กับน้องแมวเลย ก็ไม่ควรเอามาเลี้ยงเพราะเค้าก็ต้องการเวลา การดูแลเอาใจใส่เหมือนกับมนุษย์ทุกคนเช่นกัน หรือมีเวลาให้มากมายแต่ไม่มีงบเลย เวลาน้องป่วยขึ้นมาก็ไม่สามารถพาไปรักษาหรือหาหมอได้ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดผลกระทบทั้งตัวน้องแมวและเจ้าของที่นำมาเลี้ยงภายหลังอย่างที่เราพบเห็นข่าวตามสื่อโซเชียลอย่างแน่นอน สำหรับเรากว่าจะตัดสินใจนำมะลิมาเลี้ยงก็ใช้เวลาไตร่ตรองและวางแผนค่าใช้จ่ายมาประมาณ 1 ปี เพราะต้องแน่ใจว่าเราสามารถดูแลเค้าทั้งด้านจิตใจและงบ ค่าใช้จ่ายเลี้ยงแมว ต่างๆ ในแต่ละเดือนรวมถึงต้องมีเงินสำรองไว้ให้เค้าเวลาที่ป่วยได้ตลอดอีกด้วย เรียกได้ว่าก็แทบจะเหมือนเลี้ยงลูกคนๆ หนึ่งเลยทีเดียวหล่ะ ถ้าทุกคนมั่นใจหรือแน่ใจแล้วว่าสามารถเลี้ยงเค้าได้ ก็อย่ารอช้าเริ่มเลี้ยงเค้าได้เลย ! รับรองว่าเค้าจะเข้ามาเติมเต็มความสุขให้กับคุณ เหมือนกับมะลิที่ตอนนี้เข้ามาเป็นความสุขของเรา ของคนในบ้านและของคุณยายที่ตอนนี้เรียกมะลิว่าลูกแล้ว ส่วนเราเรียกว่ามันไปแล้วจ้า (อีกไม่นานคงโดนไล่ออกจากบ้านแล้วทุกคน 555 ) เครดิตภาพ ภาพปก โดยนักเขียนภาพประกอบที่ 1,2,3,4 โดยนักเขียนอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !