สวัสดีครับผู้อ่านที่รักทุกท่าน บทความนี้ก็เป็นบทความที่เขียนเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับ naked bike สำหรับผู้ที่รักและหลงไหลในตัวรถจักรยานยนต์ naked bike หรือบุคคลทั่วไป เนื่องจากในยุคสมัยปัจจุบันเป็นยุคของ biker อย่างแท้จริง เราจะสังเกตเห็นว่าไม่ว่าเราจะมองไปทางไหนตามท้องถนนหรือตามที่ต่างๆ เราจะเห็นรถประเภทนี้อยู่เสมอ ผู้เขียนเลยถือโอกาสนี้เขียนบทความเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ naked bike ให้ทุกคนครับ ถ้าพร้อมแล้วเชิญอ่านบทความได้เลยครับต้นกำเนิดของรถ naked bike รถจักรยานยนต์ naked bike มีต้นกำนเนิดมาจาก sport bike ซึ่งเป็นรถที่ใช้สำหรับวิ่งในสนามแข่งเท่านั้น ไม่เหมาะสมกับการใช้งานบนถนน จึงมีการดัดแปลงและถอดชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นออกเพื่อเพิ่มความเร็วและความคล่องตัว และในสมัยนั้นแฟริ่งมีราคาที่แพงมาก จึงมีไบค์เกอร์คนหนึ่งถอดแฟริ่งออกในกลุ่มเพื่อนของเขาก็เห็นว่าเมื่อถอดเเฟริ่งออกแล้วได้ความโหดดิบดีจึงทำตาม จึงเป็นที่มาของชื่อ naked bike ที่แปลว่า เปลืยเปล่าจุดเด่นและจุดด้อย สำหรับจุดเด่นของรถจักรยานยนต์ naked bike นั้นคือ การเปลือยแฟริ่งด้านล่าง ซึ่งจุดเด่นนี้เองที่ทำให้ค่ายรถแต่ละค่ายออกแบบตัวเครื่องของรถให้มี่ความสวยงามเพื่อดึงดูดไบค์เกอร์ นอกจากจะมีการเปลือยแฟริ่งด้านล่างและการออกแบบเครื่องยนต์ให้มีความสวยงามแล้วรถ Naked Bike ยังมีจุดเด่นอยู่การออกแบบลักษณะของตัวรถให้มีการขับขี่ที่สดวกสบายมาขึ้น เพื่อให้เหมาะสำหรับวิ่งบนถนนหรือที่ชุมชนแออัดมากขึ้นด้วย ส่วนจุดด้อยของรถนั้น ด้วยการออกแบบที่เวลาขับขี่รถไม่ต้องก้มตัวไปด้านหน้า หรือที่เรียกกันว่า หมอบ ทำให้เราไม่ต้องเมื่อยมือ แขน และไหล่ เหมือนรถ sport bike แต่การขับขี่ด้วยลำตัวที่ตรงทำให้น้ำหนักทั้งหมดทิ้งมาที่ก้นของผู้ขับขี่และเบาะของรถไม่ได้ออกแบบมาให้นั่งสบายเหมือนรถทั่วไปจึงทำให้เมื่อยหลังได้ นอกจากนี้ถ้าหากรถเจอลมแรงๆ ก็อาจทำให้รถเสียหลักล้มได้รถ Naked Bike ที่นิยมในเมืองไทย 1.Kawasaki Z1000R คันเเรกที่ผมอยากจะนำเสนอคือ Kawasaki Z1000Rเป็นมอเตอร์ไซน์ระดับ super Naked Bike ที่นิยมในประเทศไทย จนถึงปัจจุบัน ซึ่งตัว Kawasaki Z1000R จะถูกออกแบบในสไตล์ที่โฉบเฉี่ยว ลักษณะของแฮนจะเป็นแฮนบาร์และยางค่อยข้างใหญ่ทำให้ผู้ขับขี่สดวกสบายมาขึ้น เครื่องยนต์ 1043 cc ถือว่าเป็นรถสำหรับนักขับสายความเร็วโดยเฉพาะครับ บอกได้เลยครับว่าขุมพลังขนาดนี้ขับขี่เร้าใจแน่นอนครับ และรูปทรงที่ดูล้ำสมัยทำให้ชมหลงใหลในตัวรถ Kawasaki Z1000R จึงเป็นรถที่มีนักขับขี่ให้ความนิยมคันหนึ่งเลยครับ2.BMW S 1000 r BMW S 1000 r เป็นรถในค่าย BMW ซึ่งลักษณะของตัวรถในสไตล์ที่ปราดเปรี้ยว" ด้วยเครื่องยนต์ 1000 cc บอกได้เลยว่ารุ่นนี้ขับเร้าใจสุดๆครับ ซึ่งจะสามารถขับขี่ได้ 2 โหมดครับ คือ โหมด Rain และ Road ผมจึงคิดว่าเพราะระบบนี้เองที่ทำให้รถหน้าสนใจมากขึ้น และการระบบความร้อนที่แฮนด์ทำให้ผู้ขับสามารถขับขี้ได้อย่างสบายด้วยครับ แต่รุ่นนี้มีไม่ค่อยมีความด้านสีเพราะว่าปัจจุบันมีสีให้เลือกแค่ 3 สีเท่านั้นซึ่งผมคิดว่ามันน้อยมาก แต่สำหรับนักขับที่ไม่สนใจสีสันเรื่องสีของตัวรถก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรครับ 3.Yamaha New YZM-R15 และมาถึงรุ่นสุดท้ายของบทความครับ ซึ่งเป็นรุ่นที่ผมชอบที่สุดด้วยก็ดีไซน์ที่คล้ายก็ Big Bike และลักษณ์ตัวรถออกแบบมาให้ขับสบายตามแบบ Naked Bike ซึ่งอารมณ์ส่วนตัวบอกได้เลยว่ารุ่นนี้มีการผสมผสานระหว่าง Sport Bike กับ Naked Bike ได้ชัดเจนที่สุด R 15 เป็นรถแนวทรงสปอร์ดมีดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว มีน้ำหนักเบาไฟหน้าและไฟท้ายเป็นแบบ LED ตัวเบาะจะเป็นเบาะเเยกหน้าหลังเรือนไมล์และมาตรวัดจะเป็นแบบดิจิตอล เครื่องยนต์ 155 cc สูบเดียว 4 จังหวะ 4 วาล์ว เกียร์ธรรมดาจ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีดระบายความร้อนด้วยน้ำและวาล์วแปรผัน(VVA)ซึ่งด้วยวาล์วแปรผันนี้เองจึงทำให้ Yamaha R15 ดูเป็นรถที่มีความอัดฉริยะไปในตัว ก็จบกันไปแล้วนะครับสำหรับบทความนี้ สำหรับสิ่งที่ผมนำเสนอในวันนี้หวังว่าจะให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจได้ไม่มากก็น้อยนะครับ และบทความนี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะบอกว่ารถคันไหนนี้กว่ากันนะครับ เพราะรถทุกรุ่นมีข้อดีและข้อเสียที่ไม่เหมือนกันอยู่แล้วไม่มีรุ่นไหนดีที่สุดหรือด้อยที่สุดครับ สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะมีรถสักคันผมอยากแนะนำว่าสิ่งที่ควรพิจารณาที่สุดคือกำลังทรัพของตัวเองเป็นหลักนะครับ และเมื่อมีแล้วควรขับขี่ด้วยความไม่ประมาท เคารพกฎจราจรและควรมีน้ำใจบนท้องถนนด้วยนะครับขอบคุณภาพจาก www.pexels.com และ www.unsplash.comรูปหน้าปก/รูปประกอบที่ 1/ รูปประกอบที่ 2 /รูปประกอบที่ 3 /รูปประกอบที่ 4 /รูปประกอบที่ 5