ยอมรับแล้ว! ลูกแท้ๆ ทำได้ลงคอ 7 ขวบโคม่า อ้างซนขโมยเงิน แจ้งข้อหาหนัก
ยอมรับแล้ว! แม่ใจร้ายตีลูก 7 ขวบโคม่า น่วมทั้งตัว อ้างเด็กซนชอบขโมยเงินเลยโมโห แต่ยังรักลูก อยากให้เป็นคนดี ตร.แจ้ง 2 ข้อหาหนัก
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 9 ก.พ.64 นายธวัฒชัย หรือบ๊อบบี้ อายุ 38 ปี พ่อของด.ช.เอ (นามสมมุติ) วัย 7 ขวบ และญาติ นำหลักฐานภาพภ่ายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.ชยภัทร โพธิจักร รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธาตุพนม เพื่อดำเนินคดีกับอดีตภรรยาที่เลิกรากันไปก่อนหน้านี้เมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา คือ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ชาวบ้าน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกชายแท้ๆ วัย 7 ขวบ โดยใช้ของแข็งและไม้ตากผ้าเฆี่ยนตี จนได้รับบาดเจ็บฟกช้ำเป็นแผลทั้งตัว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3-4 ก.พ.ที่ผ่านมา
จนกระทั่งญาติเข้าไปดูแลช่วยเหลือ นำตัวส่งไปดูแลรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม เบื้องต้นเด็กอาการปลอดภัย แต่ยังอยู่ในภาวะเครียด หวาดระแวง โดยทางเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.นครพนม เข้าไปดูแลช่วยเหลือ พร้อมรับเด็กมาไว้ในความดูแลของเจ้าหน้าที่และประสานตำรวจดำเนินคดีเอาผิดกับผู้เป็นแม่ตามกฎหมายแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.ศรีนคร นัยวัฒน์ ผกก.สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีว่า หลังพนักงานสอบสวนรับเรื่องร้องทุกข์ ตนให้ประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง จากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.นครพนม ลงพื้นที่สอบสวนข้อเท็จจริง ตรวจสอบพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พบว่าทางแม่เด็กยอมรับสารภาพว่า กระทำผิดจริง ลงมือเพราะความโกรธ อ้างว่าลูกชายซุกซนและขโมยเงินไป จึงเกิดความโมโห ก่อนตัดสินใจใช้ไม้เฆี่ยนตีจนได้รับบาดเจ็บ
แต่อ้างว่ายังรักลูก อยากให้เป็นคนดี และยังต้องการจะเลี้ยงดูแลลูกชายของตน อย่างไรก็ตาม เมื่อกระทำผิดกฎหมาย ล่าสุดทางตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด พร้อมเรียกแม่ผู้กระทำผิดมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ฐานความผิด 2 ข้อหาหลักคือ หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายและให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดแก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่นโดยกระทำต่อเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
ซึ่งจะประสานตั้งทีมสหวิชาชีพเข้ามาสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน เพื่อทำตามขั้นตอน สรุปสำนวนส่งฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมาย และประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องดูแลช่วยเหลือเด็กต่อไป ฝากไปยังพ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรใช้ความรุนแรงในครอบครัว หากมีปัญหาควรหาทางออกที่ดี เพราะสุดท้ายหากมีการกระทำผิดต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ที่มา มติชนออนไลน์